4*4 ห่างไกลโรคหัวใจ
โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเจ็บป่วยและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย สมาคมโรคหัวใจของอเมริกาได้กำหนดแนวทางเพื่อให้ลดการเกิดโรคหัวใจโดยมีข้อำหนดดังนี้มีพฤติกรรมสี่อย่างได้แก่ การกิน การออกกำลังกาย การงดบุหรี่ การนอน และโรคที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้แก่โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคไขมันในเลือดสูง
-
กินให้เป็น
กินให้เป็นหมายถึงการรับประทานอาหารไม่อ้วน ไม่เกิดโรคและที่สำคัญคือสามารถป้องกันโรคได้ โดยมีหลักการดังนี้
1จะต้องสร้างอุปนิสัยในการรับประทานอาหารสุขภาพ
2อ่านฉลากอาหาร
ทุกคนจะต้องมีทักษะในการอ่านฉลากอาหาร เพื่อที่เราจะเลือกอาหารเพื่อสุขภาพ โดยการเลือกสินค้าที่ มีเกลือ ไขมันอิ่มตัว น้ำตาล และไขมันทรานส์ต่ำ
เทคนิคที่จะให้ประสบผลสำเร็จ
- จะต้องรู้ปริมาณแคลรอรี่ ควรจะรู้ว่าเราควรจะรับประทานอาหารปริมาณเท่าไร อาหารที่รับประทานมีกี่หน่วย เมื่อมีการออกกำลังกายควรจะรับประทานอาหารเพิ่มเท่าไร
- รับประทานอาหารที่ปรุงเอง เพราะเราสามารถควบคุมปริมาณสารอาหาร เกลือ น้ำตาลได้
- ครวจสอบว่าอาหารนั้นส่งเสริมสุขภาพหัวใจ

-
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายจะลดการเกิดโรคหัวใจ การออกกำลังกายจะต้องมีเกณฑ์ดังนี้
- จะต้องออกกำลังกายนานพอ หากออกกำลังกายหนักปานกลางเช่นการเต้นรำ การทำสวน การออกกำลังกายในน้ำจะต้องออกสัปดาห์ละ150นาที หากออกกำลังกายแบบหนักเช่นการวิ่ง ว่างน้ำ กระโดดเชือกสัปดาห์ละ75นาที
- จะต้องออกกำลังกายหนักพอ เพิ่มเวลา เพิ่มความหนัก
- เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
- เด็กให้ออกกำลังกายวันละ60นาที
เคล็ดความสำเร็จ
- 1ตั้งเป้าหมาย โดยเริ่มทำเล็กๆ ง่ายๆ
- 2ให้ดำเนินอย่างต่อเนื่อง เมื่อสำเร็จให้ตั้งเป้าหมายใหม่
- 3อย่าอยู่นิ่ง ให้มีกิจกรรมทางกายบ่อย เช่นการเดิน การขึ้นบันไดเพราะจะทำให้ อารมณ์ ความคิด การนอนหลับ
- 4พยายามเพิ่มกิจกรรม เช่นเดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นบันไดเลื่อน ลดการใช้เครื่องทุ่นแรง
- 5ทำให้เป็นนิสัย
-
- บุหรี่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจที่ป้องกันได้
- บุหรี่ทำลายระบบไหลเวียนและเป็นสาเหตุของหลายโรค
- บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าจะก่อให้เกิดสารพิษ
- เมื่อหยุดบุหรี่1ปีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจลดลงครึ่งหนึ่ง
- เด็กและวัยรุ่นติดนิโคตินมาก
- ป้องกันเด็กมิให้รับบุหรี่มือสอง
-
นอนให้พอ
- ผู้ใหญ่นอนคืนละ7-9ชั่วโมง
- เด็กทารกถึง5ขวบนอนวันละ10-16ชั่วโมง
- เด็ก6-12ปีนอน9-12ชั่วโมง
- เด็ก13-18ปีนอน8-10ชั่วโมง
ผลกระทบของการนอนไม่พอต่อสุขภาพ
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- ประสิทธิภาพการเรียนรู้ การตัดสินใจลดลง ความจำเสื่อม
- ซึมเศร้า
- ความดัน เบาหวาน ไขมันขึ้น
- อ้วน
ข้อดีของการนอนอย่างเพียงพอ
- เซลลเนื้อเยื่อและหลอดเลือด์มีการพักและซ่อมแซม
- ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น
- อารมณืดีขึ้น
- การเรียนรู้ การตัดสินใจ ความจำ การแก้ปัญหาดีขึ้น
- โรคเรื้อรังลดลง
วิธีเพิ่มระยะเวลานอน
- วางอุปกรณ์สื่อสารไว้ให้ไกลเตียงนอน
- ลดแสงหน้าจอ ใช้ app fillter แสงสีฟ้า
- นอกจากตั้งเวลาปลุกต้องตั้งเวลานอน
- ล็อกหน้าจอ
- ปิดการตั้งเตือน
นอนไม่หลับ
-
รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
การควบคุมน้ำหนักจะให้ผลดีต่อสุขภาพหลายประการวิธีการประเมินว่าอ้วนหรือไม่วิธีการประเมินว่าคุณมีน้ำหนักเกินหรือไม่
1ดัชนีมวลกาย
โดยการชั่งน้ำหนัก(กก) และส่วนสูง(เมตร) โดยเอาน้ำหนักเป็นตัวตั้งหารด้วยส่วนสูง(เมตร)ยกกำลังสองจะได้ค่าตัวเลข
เรียกดัชนีมวลกาย
- น้ำหนักต่ำกว่ามาตราฐาน ดัชนีมวลกายน้อยกว่า 18.5 กก/ตารางเมตร
- น้ำหนักปกติ ดัชนีมวลกาย18.5-22.9 กก/ตารางเมตร
- น้ำหนักเกิน ดัชนีมวลกาย 23-24.9 กก/ตารางเมตร
- อ้วนระดับ1 ดัชนีมวลกาย 25-29.9 กก/ตารางเมตร
- อ้วนระดับ2 ดัชนีมวลกาย มากกว่า30 กก/ตารางเมตร
2ใช้เส้นรอบเอว
โดยการวัดเส้นรอบเอวที่ระดับกระดูกส่วนบนของกระดูกสะโพกโดยหายใจออกปกติ
- ผู้ชายเส้นรอบเอวน้อยกว่า 90 ซม.(35นิ้ว)
- ผู้หญิงน้อยกว่า 80 ซม.(32นิ้ว)
3อัตราส่วนระหว่างเส้นรอบเอวต่อรอบสะโพก
วัดเส้นรอบเอวหารด้วยรอบสะโพก คนที่ไม่อ้วนอัตราส่วนจะ 0.8และ0.9 สำหรับหญิงและชาย
4ส่วนสูงหารสอง
เราสามารถประเมินเส้นรอบเอวโดยการใช้ส่วนสูงหารสอง หากวัดรอบเอวเกินค่านี้ถีอว่าอ้วน
ผลเสียของโรคอ้วนต่อสุขภาพ
- โรคเบาหวาน
- โรคหัวใจและหลอดเลือด(ความดันโลหิต ไขมันเลว ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ น้ำตาล และการอักเสบ) ผู้ที่มีน้ำหนักเกินจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับผู้ที่มีน้ำหนักปกติ
- โรคหลอดเลือดสมอง ความเสี่ยงในการเกิดโรคสมองขาดเลือดเพิ่มร้อยละ22 แต่หากว่าอ้วนความเสี่ยงจะเพิ่เป็นร้อยละ64
- อัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้หญิงที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า30จะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจร้อยละ62 และเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดร้อยละ 53
- โรคมะเร็ง
- โรคซึมเศร้า
- โรคปอด
- มีปัญหาเรื่องความจำและการตัดสินใจ
- โรคข้อ
- ความดันโลหิตสูง
- โรคตับ
- ไขมันในเลือดสูง
- เสียชีวิตก่อนวัยอันควร
- โรคนอนกรน
- โรคอ้วนลงพุง
- โรคข้อเสื่อม
การดูแล
- ลดพลังงานที่รับประทาน
- เพิ่มการใช้พลังงาน
- ศึกษาเรื่องดัชนีมวลกาย
-
ควบคุมไขมันในเลือด
จะต้องทราบค่าไขมันในเลือดและทราบว่าไขมันชนิดไหนเป็นไขมันที่ดี
Total Cholesterol Level |
Category |
น้อยกว่า 200 mg/dL |
ค่าปกติ |
200-239 mg/dL |
เริ่มสูง |
มากกว่า 240mg/dL and above |
สูง |
LDL (Bad) Cholesterol Level |
LDL Cholesterol Category |
น้อยกว่า 100mg/dL |
ค่าที่เราต้องการ |
100-129mg/dL |
ใกล้เคียงค่าปกติ |
130-159 mg/dL |
เริ่มสูง |
160-189 mg/dL |
สูง |
มากกว่า 190 mg/dL and above |
สูงมาก |
HDL (Good) Cholesterol Level |
HDL Cholesterol Category |
มากกว่า 60 mg/dL and higher |
จะป้องกันโรคหัวใจ |
40-59 mg/dL |
ยิ่งสูงยิ่งดี |
Less than 40 mg/dL |
เป็นความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด |
- HDL = High-density lipoprotein เป็นไขมันดี
- LDL = Low-density lipoproteinเป็นไขมันเลว
- HDL: เป็นไขมันที่จะนำไขมันเลวออกจากผนังหลอดเลือด เพื่อลดการเกิดคราบทำให้ลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- Triglycerides: เป็นไขมันที่พบมากที่สุด
- Total Cholesterol:เป็นผลรวมของ HDL level + LDL level + 1/5th of triglyceride level = total cholesterol level.
การจัดการเรื่องไขมันในเลือด
- รับประทานอาหารสุขภาพ:รับประทานผักและผลไม้ ถั่ว โปรตินจากพืช เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ลดน้ำตาล ลดเกลือลดเนื้อแดงเนื้อที่ผ่านขบวนการผลิต ลดเค็ม ธัญพืชที่ผ่านการขัดสี
- เพิ่มกิจกรรมทางกาย:
- รู้ค่าไขมันตัวเอง: ทดแทนอาหารไขมันอิ่มตัวด้วยไขมันไม่อิ่มตัว
- ลดบุหรี่ : การสูบบุหรี่จะลดไขมันดี
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
7การควบคุมน้ำตาล
ค่าน้ำตาลแค่ไหนถึงเป็นเบาหวาน
- ต่ำกว่า 100 mg/dl เป็นค่าน้ำตาลปกติ
- 100 to 125 mg/dl เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน
- มากกว่า 126 mg/dl เป็นเบาหวานซึ่งจะมีความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่ม
4 ขั้นตอนในการจัดการโรคเบาหวานของคุณตลอดชีวิต
8การควบคุมความดันโลหิต
คุณจะต้องรู้ค่าความดันโลหิตของคุณ
- ค่าความดันปกติ:ความดันโลหิตน้อยกว่า 120/80 mm Hg
- ความดันโลหิตเริ่มสูง ค่าความดันโลหิตอยู่ระหว่าง 120-129/80 mm Hg.ต้องปรับพฤติกรรมและติดตามความดันโลหิต
- ความดันโลหิตสูง Stage 1: ความดันโลหิต 130-139 mm Hg / 80- 89 mm Hg.
- ความดันโลหิตสูง Stage 2: ความดันโลหิตมากกว่า 140/ 90 mm Hg.
- ความดันโลหิตสูงฉุกเฉิน: ความดันโลหิตมากกว่า 180/120 mm Hg จะต้องรีบไปโรงพยาบาลและรักษา
หากคุณเป็นความดันโลหิตสูงจะต้องรีบรักษา
การดูแลตัวเอง
- รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพt: รับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว โปรตีนจากพืช ปลา อาหารทะเล ลดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ลดเค็ม ลดโปรตีนที่ผ่านขบวนการผลิต
- มีการเคลื่อนไหว:นอกจากการออกกำลังกายแล้วจะต้องมีการเคลื่อนไหวบ่อยซึ่งจะลดความดันโลหิต คุมน้ำหนัก และลดความเครียด
- การจัดการเรื่องน้ำหนัก: การควบคุมน้ำหนักจะลดความดันโลหิต
- งดบุหรี่: การสูบบุหรี่จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
- นอนให้พอ: ควรจะนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมง
