siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ


Rivaroxaban: คู่มือการใช้ยาอย่างปลอดภัยและข้อมูลสำคัญสำหรับการป้องกันและรักษาลิ่มเลือด

 

บทความนี้จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสำคัญเกี่ยวกับยา Rivaroxaban ซึ่งเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดใหม่ (Novel Oral Anticoagulant - NOAC) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยานี้ สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และทราบถึงข้อควรระวังต่างๆ ที่สำคัญ การมีความรู้เกี่ยวกับยาที่คุณใช้จะช่วยให้คุณจัดการกับโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


1. Rivaroxaban คืออะไร?

Rivaroxaban (ริวาร็อกซาแบน) เป็นยาในกลุ่ม Novel Oral Anticoagulants (NOACs) หรือ Direct Oral Anticoagulants (DOACs) ประเภท Factor Xa Inhibitor เช่นเดียวกับ Apixaban และ Edoxaban ยานี้ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งปัจจัยการแข็งตัวของเลือดที่สำคัญตัวหนึ่งคือ Factor Xa (Factor Ten A) ทำให้กระบวนการแข็งตัวของเลือดช้าลง และลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดอันตราย ชื่อทางการค้าที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ Xarelto (ซาเรลโต) Rivaroxaban เป็นยารับประทานที่ออกฤทธิ์รวดเร็วและมีฤทธิ์ที่คาดการณ์ได้ ทำให้สะดวกในการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจเลือดเพื่อปรับขนาดยาบ่อยครั้งเหมือนยาละลายลิ่มเลือดชนิดเก่าอย่าง Warfarin ในประเทศไทย Rivaroxaban เป็นยาที่ต้องใช้ตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น


2. กลไกการออกฤทธิ์: Rivaroxaban ทำงานอย่างไร?

กระบวนการแข็งตัวของเลือดเป็นสิ่งจำเป็นในการหยุดเลือดเมื่อเกิดบาดแผล แต่การก่อตัวของลิ่มเลือดที่ผิดปกติในหลอดเลือดอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ Rivaroxaban ออกฤทธิ์โดย:

กลไกนี้ทำให้ Rivaroxaban มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดที่คาดการณ์ได้ ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจเลือดเพื่อปรับขนาดยาบ่อยครั้งเหมือน Warfarin และมีปฏิกิริยากับอาหารน้อยกว่า (ยกเว้นยาบางขนาดที่ควรรับประทานพร้อมอาหาร)


Rivaroxaban

3. Rivaroxaban ใช้รักษาโรคอะไร?

Rivaroxaban ใช้สำหรับป้องกันและรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลายกรณี:


4. ขนาดและวิธีการใช้ยา

Rivaroxaban มีจำหน่ายในรูปแบบยาเม็ดสำหรับรับประทาน โดยมีขนาด 2.5 มิลลิกรัม (mg), 10 มิลลิกรัม (mg), 15 มิลลิกรัม (mg), และ 20 มิลลิกรัม (mg)

ขนาดยาที่ใช้แตกต่างกันไปตามข้อบ่งใช้:

วิธีการใช้ยา:

หมายเหตุ: แพทย์จะเป็นผู้กำหนดขนาดยาและระยะเวลาการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ห้ามปรับขนาดยาเองเด็ดขาด


5. สิ่งที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

การแจ้งข้อมูลสุขภาพของคุณอย่างครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ Rivaroxaban คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับ:


6. ข้อควรระวังในการใช้ยา

ควรใช้ Rivaroxaban ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยบางราย:


7. ระหว่างที่ใช้ยาจะต้องระวังอาการหรือการตรวจพิเศษอะไร?

สิ่งที่ควรพกติดตัวตลอดเวลา:

อาการที่ต้องเฝ้าระวังและควรพบแพทย์ทันที:

อุจาระดำจ้ำเลือดบนผิวหนัง

การตรวจพิเศษ:

โดยปกติ Rivaroxaban ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจเลือดเพื่อติดตามค่าการแข็งตัวของเลือด (เช่น INR) เป็นประจำเหมือน Warfarin แต่แพทย์อาจมีการตรวจ:


8. ปฏิกิริยาระหว่างยา: ใช้ร่วมกับยาอื่นได้หรือไม่?

Rivaroxaban สามารถทำปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ได้หลายชนิด ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของการมีเลือดออก หรือลดประสิทธิภาพของยา สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งรายการยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรทั้งหมดที่คุณกำลังใช้ให้แพทย์และเภสัชกรทราบเสมอ

ยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ:


9. ผลข้างเคียงหรือไม่พึงประสงค์ของยา

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย:

ผลข้างเคียงที่พบน้อยแต่รุนแรง:

หากพบอาการรุนแรง หรืออาการที่น่ากังวล ควรรีบหยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที


10. วิธีลดหรือป้องกันผลข้างเคียงของยา


11. หากได้รับยาเกินขนาดต้องทำอย่างไร?

หากรับประทานยา Rivaroxaban เกินขนาด ความเสี่ยงหลักคือการเกิด เลือดออกที่รุนแรงวิธีแก้ไข: ควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลหรือปรึกษาแพทย์ทันที แม้จะไม่มีอาการเลือดออกก็ตาม แพทย์อาจพิจารณาให้ยาที่ช่วยย้อนฤทธิ์ยาในกลุ่ม Factor Xa Inhibitor (Antidote) เช่น Andexanet alfa (หากมี) หรือให้การรักษาประคับประคองอื่นๆ


12. หากลืมใช้ยาต้องทำอย่างไร?


13. ระยะเวลาการใช้ยา

ระยะเวลาที่คุณจะต้องรับประทาน Rivaroxaban ขึ้นอยู่กับเหตุผลที่แพทย์สั่งยา:

แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับคุณ


14. การเก็บรักษายา


15. ความปลอดภัยในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร


สรุป

Rivaroxaban (Xarelto) เป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือดในกลุ่ม Factor Xa Inhibitor ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลายกรณี โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AF) และผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดส่วนปลาย การทำงานโดยการยับยั้ง Factor Xa โดยตรง ทำให้ยามีความสะดวกในการใช้และมีฤทธิ์ที่คาดการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ Rivaroxaban จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลและคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีความเสี่ยงหลักคือการมีเลือดออก ผู้ป่วยควรเฝ้าระวังอาการเลือดออกผิดปกติ และแจ้งบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับยาทุกชนิดที่ใช้อยู่เสมอ รวมถึงการพกบัตรเตือนยาละลายลิ่มเลือดติดตัวตลอดเวลา เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

วันที่เผยแพร่: 27 กรกฎาคม 2568, 23:00 น.ผู้เขียน: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ที่มา: SiamHealth.net

เพิ่มเพื่อน