Apixaban: คู่มือการใช้ยาอย่างปลอดภัยและข้อมูลสำคัญสำหรับการป้องกันลิ่มเลือด
วันที่เผยแพร่: 27 กรกฎาคม 2568, 21:12 น. ผู้เขียน: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ที่มา: SiamHealth.net
บทความนี้จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสำคัญเกี่ยวกับยา Apixaban ซึ่งเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดใหม่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยานี้ สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และทราบถึงข้อควรระวังต่างๆ ที่สำคัญ การมีความรู้เกี่ยวกับยาที่คุณใช้จะช่วยให้คุณจัดการกับโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
1. Apixaban คืออะไร?
Apixaban (อะพิซาแบน) เป็นยาในกลุ่ม Novel Oral Anticoagulants (NOACs) หรือ Direct Oral Anticoagulants (DOACs) ประเภท Factor Xa Inhibitor ใช้สำหรับป้องกันและรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ยานี้ทำงานโดยการยับยั้งปัจจัยการแข็งตัวของเลือดที่สำคัญตัวหนึ่งคือ Factor Xa (Factor Ten A) ทำให้เลือดแข็งตัวได้ช้าลง ลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด ชื่อทางการค้าที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ Eliquis (อีลิควิส) Apixaban เป็นยารับประทานที่ออกฤทธิ์เร็วและมีขนาดยาที่รับประทานค่อนข้างสม่ำเสมอในผู้ป่วยส่วนใหญ่ ทำให้สะดวกกว่ายาละลายลิ่มเลือดชนิดเก่าอย่าง Warfarin ในประเทศไทย Apixaban เป็นยาที่ต้องใช้ตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น
2. กลไกการออกฤทธิ์: Apixaban ทำงานอย่างไร?
การแข็งตัวของเลือดเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับโปรตีนหลายชนิดที่เรียกว่า "ปัจจัยการแข็งตัวของเลือด" (Clotting Factors) Apixaban ออกฤทธิ์โดย:
-
ยับยั้ง Factor Xa โดยตรง: Apixaban เป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้ง Factor Xa ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในกระบวนการแข็งตัวของเลือด Factor Xa มีบทบาทในการเปลี่ยน Prothrombin ไปเป็น Thrombin ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญที่ทำให้เกิดลิ่มเลือด
-
ลดการสร้าง Thrombin: เมื่อ Factor Xa ถูกยับยั้ง การสร้าง Thrombin ก็จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
-
ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด: การลดการสร้าง Thrombin ทำให้เลือดแข็งตัวได้ยากขึ้น จึงช่วยป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือดที่ผิดปกติ หรือช่วยรักษาภาวะลิ่มเลือดที่เป็นอยู่แล้วโดยไม่ไปสลายลิ่มเลือดโดยตรง
กลไกนี้ทำให้ Apixaban มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดที่คาดการณ์ได้ ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจเลือดเพื่อปรับขนาดยาบ่อยครั้งเหมือน Warfarin และมีปฏิกิริยากับอาหารน้อยกว่า
3. Apixaban ใช้รักษาโรคอะไร?
Apixaban ใช้สำหรับป้องกันและรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลายกรณี:
-
ป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและลิ่มเลือดอุดตันในร่างกาย (Systemic Embolism):
-
รักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (Deep Vein Thrombosis - DVT):
-
ป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตันซ้ำ: หลังจากที่ได้รับการรักษา DVT หรือ PE ครั้งแรกแล้ว
-
ป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (VTE) หลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกหรือข้อเข่า:
4. ขนาดและวิธีการใช้ยา
Apixaban มีจำหน่ายในรูปแบบยาเม็ดสำหรับรับประทาน โดยมีขนาด 2.5 มิลลิกรัม (mg) และ 5 มิลลิกรัม (mg)
ขนาดยาที่ใช้แตกต่างกันไปตามข้อบ่งใช้:
-
ป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วย AF ที่ไม่มีสาเหตุจากลิ้นหัวใจตีบ:
-
ขนาดปกติ: 5 มก. วันละ 2 ครั้ง
-
ผู้ป่วยบางรายที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ 2 ใน 3 ข้อต่อไปนี้ (อายุ ≥ 80 ปี, น้ำหนัก ≤ 60 กก., ค่า Cr ≥ 1.5 มก./ดล.): ลดขนาดเป็น 2.5 มก. วันละ 2 ครั้ง
-
รักษา DVT หรือ PE:
-
ป้องกัน DVT หรือ PE ซ้ำ (หลังการรักษาเบื้องต้น 6 เดือน):
-
ป้องกัน VTE หลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกหรือข้อเข่า:
-
2.5 มก. วันละ 2 ครั้ง เริ่มภายใน 12-24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
-
ระยะเวลา: 35 วันสำหรับการผ่าตัดข้อสะโพก, 12 วันสำหรับการผ่าตัดข้อเข่า
วิธีการใช้ยา:
-
รับประทานยาพร้อมอาหารหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้:
-
กลืนยาเม็ดทั้งเม็ดพร้อมน้ำ:
-
รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน: เพื่อรักษาระดับยาในร่างกายให้คงที่และมีประสิทธิภาพในการป้องกันลิ่มเลือด
-
หากไม่สามารถกลืนยาเม็ดได้: สามารถบดยาเม็ดแล้วผสมกับน้ำ, น้ำแอปเปิล, หรือแอปเปิลซอส แล้วรับประทานทันที
หมายเหตุ: แพทย์จะเป็นผู้กำหนดขนาดยาและระยะเวลาการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ห้ามปรับขนาดยาเองเด็ดขาด
5. สิ่งที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
การแจ้งข้อมูลสุขภาพของคุณอย่างครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ Apixaban คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับ:
-
ประวัติการแพ้ยา: เคยแพ้ยา Apixaban หรือส่วนประกอบใดๆ ในยา หรือยาละลายลิ่มเลือดชนิดอื่นหรือไม่
-
ประวัติการมีเลือดออกผิดปกติหรือมีภาวะเลือดออกง่าย: เช่น เลือดออกในสมอง, เลือดออกในทางเดินอาหาร, แผลในกระเพาะอาหาร, หรือภาวะเลือดออกที่ควบคุมไม่ได้
-
โรคประจำตัวอื่นๆ: โดยเฉพาะโรคตับ (Cirrhosis), โรคไต, โรคที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด, หรือความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมได้
-
การตั้งครรภ์ หรือกำลังวางแผนตั้งครรภ์: โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้ Apixaban ในหญิงตั้งครรภ์
-
การให้นมบุตร: ยาอาจผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ได้
-
การผ่าตัด หรือหัตถการใดๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น: รวมถึงการทำฟัน การฉีดกระดูกสันหลัง หรือการทำศัลยกรรม
-
ยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรอื่นๆ ที่กำลังใช้: รวมถึงยาที่ซื้อเอง หรือยาที่ใช้เป็นครั้งคราว โดยเฉพาะยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, NSAIDs (เช่น Ibuprofen), Clopidogrel, Warfarin, หรือยาบางชนิดที่ส่งผลต่อเอนไซม์ตับ CYP3A4 เช่น Ketoconazole, Rifampicin
6. ข้อควรระวังในการใช้ยา
ควรใช้ Apixaban ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยบางราย:
-
ความเสี่ยงของการมีเลือดออก: Apixaban เพิ่มความเสี่ยงของการมีเลือดออกที่สำคัญและอาจรุนแรงถึงชีวิต โดยเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ที่มีปัญหาไตหรือตับ ผู้ที่ใช้ยาร่วมกับยาอื่นที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือผู้ที่มีประวัติเลือดออกง่าย หากมีอาการเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกตามไรฟัน, เลือดกำเดาไหลบ่อย, ช้ำง่าย, ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ/เลือดปน, ปัสสาวะมีเลือดปน, อาเจียนเป็นเลือด ควรรีบแจ้งแพทย์ทันที
-
ผู้ป่วยที่มีภาวะไตบกพร่องรุนแรง หรือกำลังฟอกไต: ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและแพทย์จะพิจารณาขนาดยาที่เหมาะสมเป็นพิเศษ
-
ผู้ป่วยโรคตับ: โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคตับแข็งที่มีความรุนแรงระดับ Child-Pugh class C ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้
-
การหยุดยา Apixaban อย่างกะทันหัน: อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดและโรคหลอดเลือดสมองได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยาเสมอ
-
การทำหัตถการหรือผ่าตัด: ต้องหยุดยา Apixaban ก่อนการผ่าตัดหรือหัตถการใดๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงเลือดออก (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดของหัตถการ)
-
ระวังการเกิดลิ่มเลือดที่ไขสันหลัง (Spinal Hematoma): หากได้รับการฉีดยาเข้าไขสันหลัง หรือทำหัตถการเกี่ยวกับไขสันหลังขณะใช้ยานี้
-
ผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์: ควรใช้การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพขณะใช้ยานี้ เนื่องจากยาอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์
7. ระหว่างที่ใช้ยาจะต้องระวังอาการหรือการตรวจพิเศษอะไร?
อาการที่ต้องเฝ้าระวังและควรพบแพทย์ทันที:
-
อาการเลือดออกที่รุนแรงหรือไม่สามารถควบคุมได้:
-
เลือดออกผิดปกติหรือเลือดหยุดยาก เช่น เลือดกำเดาไหลบ่อยและหยุดยาก, เลือดออกตามไรฟันมากผิดปกติ, มีประจำเดือนออกมากและนานผิดปกติ
-
ช้ำง่าย หรือมีจ้ำเลือดตามร่างกายโดยไม่มีสาเหตุ
-
อุจจาระเป็นสีดำคล้ายยางมะตอย หรือมีเลือดสดปนออกมา
-
ปัสสาวะมีสีแดงหรือสีชมพู (มีเลือดปน)
-
อาเจียนเป็นเลือด หรืออาเจียนเป็นสีน้ำตาลคล้ายกากกาแฟ
-
ปวดศีรษะอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน, แขนขาอ่อนแรง/ชาครึ่งซีก, พูดไม่ชัด, หรือการมองเห็นเปลี่ยนแปลงไป (อาจบ่งชี้เลือดออกในสมอง)
-
ปวดท้องรุนแรง, ท้องบวม หรือปวดตามข้อ/กล้ามเนื้อโดยไม่มีสาเหตุ
-
อาการแพ้ยาอย่างรุนแรง: เช่น ผื่นลมพิษขึ้นทั่วตัว, บวมที่ใบหน้า ลิ้น หรือคอ, หายใจลำบาก (เป็นภาวะฉุกเฉิน)
การตรวจพิเศษ:
โดยปกติ Apixaban ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจเลือดเพื่อติดตามค่าการแข็งตัวของเลือด (เช่น INR) เป็นประจำเหมือน Warfarin แต่แพทย์อาจมีการตรวจ:
8. ปฏิกิริยาระหว่างยา: ใช้ร่วมกับยาอื่นได้หรือไม่?
Apixaban สามารถทำปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ได้หลายชนิด ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของการมีเลือดออก หรือลดประสิทธิภาพของยา สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งรายการยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรทั้งหมดที่คุณกำลังใช้ให้แพทย์และเภสัชกรทราบเสมอ
ยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ:
9. ผลข้างเคียงหรือไม่พึงประสงค์ของยา
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย:
ผลข้างเคียงที่พบน้อยแต่รุนแรง:
-
เลือดออกภายในที่รุนแรง: เช่น เลือดออกในสมอง, เลือดออกในทางเดินอาหาร, เลือดออกในปอด ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
-
ปฏิกิริยาการแพ้ยาอย่างรุนแรง: ผื่นลมพิษรุนแรง, บวมที่ใบหน้า/ลิ้น/คอ, หายใจลำบาก
-
ตับเสียหาย: อาการเช่น ตัวเหลือง, ตาเหลือง, ปัสสาวะสีเข้ม
-
ภาวะโลหิตจางจากการเสียเลือด: รู้สึกอ่อนเพลีย, ซีด, เหนื่อยง่าย
หากพบอาการรุนแรง หรืออาการที่น่ากังวล ควรรีบหยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที
10. วิธีลดหรือป้องกันผลข้างเคียงของยา
-
รับประทานยาตามขนาดและเวลาที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด: ห้ามปรับขนาดยาเองเด็ดขาด
-
ระมัดระวังการทำกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดบาดแผลหรือฟกช้ำ: เช่น การโกนหนวดด้วยใบมีด, การใช้แปรงสีฟันแข็ง, การเล่นกีฬาที่มีความเสี่ยงสูง
-
หากมีอาการเลือดออกผิดปกติเล็กน้อย: เช่น เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหลบ่อย ควรแจ้งแพทย์
-
แจ้งแพทย์ ทันตแพทย์ หรือบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน: ว่าคุณกำลังใช้ Apixaban ก่อนการทำหัตถการใดๆ
-
พกบัตรหรือเอกสารที่ระบุว่าคุณกำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: เพื่อแจ้งให้บุคลากรทางการแพทย์ทราบในกรณีฉุกเฉิน
-
หลีกเลี่ยงการใช้ยาอื่นที่เพิ่มความเสี่ยงเลือดออก: เช่น NSAIDs (Ibuprofen), Aspirin, สมุนไพรบางชนิด โดยไม่ปรึกษาแพทย์
-
เข้ารับการตรวจติดตามการทำงานของไตและตับ: ตามนัดหมายของแพทย์
11. หากได้รับยาเกินขนาดต้องทำอย่างไร?
หากรับประทานยา Apixaban เกินขนาด ความเสี่ยงหลักคือการเกิด เลือดออกที่รุนแรง วิธีแก้ไข: ควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลหรือปรึกษาแพทย์ทันที แม้จะไม่มีอาการเลือดออกก็ตาม แพทย์อาจพิจารณาให้ยาที่ช่วยย้อนฤทธิ์ Apixaban (Antidote) เช่น Andexanet alfa หรือให้การรักษาประคับประคองอื่นๆ
12. หากลืมใช้ยาต้องทำอย่างไร?
-
Apixaban มักรับประทานวันละ 2 ครั้ง:
-
หากลืมรับประทานยาเม็ดใดเม็ดหนึ่ง: ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ แล้วรับประทานยาเม็ดถัดไปตามเวลาปกติ (อาจจะรับประทาน 2 เม็ดในวันเดียวกัน แต่ไม่พร้อมกัน)
-
ห้ามเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่าเพื่อชดเชยยาที่ลืมเด็ดขาด:
13. การเก็บรักษายา
-
เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง: ประมาณ 15-30°C (59-86°F) หรือตามที่ระบุบนฉลากยา
-
เก็บในที่แห้งและพ้นจากแสงแดดโดยตรง:
-
เก็บในภาชนะบรรจุเดิมที่ปิดสนิท:
-
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง:
-
ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ยาเสมอ: ห้ามใช้ยาที่หมดอายุแล้ว
14. ความปลอดภัยในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
-
สตรีมีครรภ์: Apixaban ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในมนุษย์ และยาอาจผ่านรกไปสู่ทารกได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาทางเลือกอื่น
-
การให้นมบุตร: ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า Apixaban ผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่หรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตรขณะใช้ยานี้ แพทย์อาจแนะนำให้หยุดให้นมบุตรหรือเปลี่ยนไปใช้ยาอื่น
สรุป
Apixaban (Eliquis) เป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือดในกลุ่ม Factor Xa Inhibitor ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำและโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยบางราย ด้วยกลไกการยับยั้ง Factor Xa โดยตรง ทำให้ยามีความสะดวกในการใช้และมีฤทธิ์ที่คาดการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ Apixaban จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลและคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีความเสี่ยงหลักคือการมีเลือดออก ผู้ป่วยควรเฝ้าระวังอาการเลือดออกผิดปกติ และแจ้งบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับยาทุกชนิดที่ใช้อยู่เสมอ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
โปรดจำไว้ว่าข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น และไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรได้ หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เสมอ
สอบถามเพิ่มเติม 
https://www.nhs.uk/medicines/apixaban/