siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

ขั้นตอนและวิธีการทำทรีตเมนต์ด้วยกรด Glycolic 
— ตามหลักการแพทย์ เพื่อรักษาฝ้า กระและริ้วรอย


การทำทรีตเมนต์หรือการผลัดเซลล์ผิวหรือ Peeling เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน และให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก แต่การจะให้ได้ผลลัพธ์ที่สูงสุดจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้กรดไกลโคลิกที่ความเข้มข้นสูง ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้

      ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากจะแนะนำเพื่อนสมาชิกเบรได้ศึกษาถึงหลักการ และขั้นตอนในการทำทรีตเมนต์อย่างที่แพทย์ผิวหนัง (Dermatologist) ทั่วไปทำกันที่คลินิกและที่โรงพยาบาล เพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการและหลีกเลี่ยงอาการข้างเคียงให้ได้มากที่สุด

      บทความนี้น่าจะช่วยเพื่อนสมาชิกส่วนใหญ่ได้เข้าใจและปฏิบัติอย่างถูกวิธี ไม่ต้องเสี่ยงลองผิดลองถูกกันเองหรือไปเรียนรู้มาอย่างผิดวิธี   ส่วนสมาชิกบางท่านที่เก่งและชำนาญอยู่แล้ว อาจจะมีเคล็ดลับพิเศษที่แตกต่างออกไป แต่ถ้าท่านอยากจะแบ่งปันให้เพื่อนสมาชิกอื่นได้เรียนรู้บ้างก็แจ้งทางทีมงานของเราได้ครับ

      ผมขอเริ่มเลยนะครับ ก่อนอื่นอยากจะให้เพื่อนสมาชิกได้รู้ก่อนว่าในการทำทรีตเมนต์จะมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องหลักๆ ดังนี้ครับ


หลักการ

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เป็นผลรวมที่เกิดจาก Photoaging และ Chronological aging (การแก่ตัวที่เกิดจากแสง และเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามเวลา)


Glycolic acid เป็นสารที่มีผลช่วยให้ผิวหนังดีขึ้น โดย

กรดไกลโคลิกที่ความเข้มข้นน้อยกว่า 20% (Low concentration) ถือว่าเป็น mild keratolytic และมีสรรพคุณเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ด้วย โดยกรดไกลโคลิกจะผ่านลึกลงไปในชั้นล่างของผิวหนังชั้น stratum corneum และไปขัดขวางการยึดเกาะของเซลล์ผิวหนัง โดยไปยับยั้งพันธะในของช่องว่างระหว่างเซลล์ ทำให้เซลล์ผิวชั้น stratum corneum หลุดออกได้ง่ายขึ้น

ผลที่ตามมาก็คือ จะเกิดมีเซลล์ผิวใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่ ทำให้ผิวแลดูอ่อนวัย เต่งตึง ลดรอยเหี่ยวย่น (ตรงข้ามกับ urea ซึ่งมีสรรพคุณเป็น keratolytic ที่ทำให้เฉพาะผิวชั้นบนหลุดออกมาเท่านั้นและมี cell turnover rate เร็วขึ้น)

ในกรณีของฝ้า (melasma) ก็ทำให้เม็ดสีเมลานินหลุดลอกออกมาเร็วขึ้น ทำให้หน้าใสขึ้นทันที   ผลจากการใช้กรดไกลโคลิกในการลดริ้วรอยและความเสื่อมโทรมตามวัย สามารถพิสูจน์ได้โดยการดูเนื้อเยื่อด้วยกล้องจุลทรรศน์ (histology) ว่าทำให้โครงสร้างผิวหนังดีขึ้นจริง

HydroSYN complex™ เป็นสารประกอบ 2 ตัวที่ทำงานเสริมฤทธิ์กันในการยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ tyrosinase ทำให้ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน (melanin pigment) ทำให้ได้ผลเป็นทวีคูณเมื่อใช้ร่วมกับ glycolic acid ในการรักษาคนที่มีปัญหาเรื่องจุดด่างดำ (Hyperpigmentation) เช่น ฝ้าหรือกระ เป็นต้น   นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (Anti-inflammation) จึงช่วยลดอาการข้างเคียงของกรดไกลโคลิกได้


ขั้นตอนการรักษาฝ้า กระและริ้วรอย

หลังจากผ่านการทำทรีตเมนต์ไปแล้ว 6 ครั้ง ผิวหน้าของลูกค้าจะดีขึ้นมาก ทั้งฝ้า กระและริ้วรอยย้ำลึก   จากนั้นให้คงสภาพผิวหน้าไว้โดยให้ใช้ RENOVATE SKIN CREAM ทาไปตลอด หรืออาจจะใช้ครีมชนิดอื่นร่วมด้วยก็ได้ เพื่อช่วยเสริมในการรักษาฝ้าก็ได้ โดยเฉพาะพวกฝ้าที่หนาๆ ก็อาจจะใช้Perfect Melasma Clear Cream ทาร่วมเช้า – เย็นด้วยก็ได้ จะทำให้ได้ผลดียิ่งขึ้น   ในระยะนี้ สภาพผิวหน้าของลูกค้าจะมีอาการดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ


สรุปขั้นตอนการรักษา

สัปดาห์แรก PREPEEL GLYCOLIC CREAM, Silky Touch Sunblock, Mild soap
สัปดาห์ที่ 2 ทรีตเมนต์ด้วย AHA 30% - 70%, RENOVATE SKIN CREAM, Sunblock, Mild soap

เมื่อครบ 6 ครั้ง (รวม 3 – 6 เดือน) ให้ดูแลรักษาเพื่อคงสภาพผิวด้วย RENOVATE SKIN CREAM, Sunblock, Mild soap + Perfect Melasma Clear Cream


ข้อดีของ Glycolic acid


อาการข้างเคียง


ไม่ควรใช้ใน