การดูดไขมัน Liposuction

คนที่ไม่ออกกำลังกายและอายุเริ่มมากขึ้น จะมีการสะสมไขมันตามร่างกายโดยเฉพาะส่วนหน้า คาง คอ เต้านม หน้าท้อง ก้น ต้นขาสมัยก่อนการรักษาจะทำโดยการผ่าตัด แต่ก็มีโรคแทรกซ้อนและใช้เวลานานกว่าแผลจะหาย จนกระทั่งมีการพัฒนาเทคนิคการดูดไขมัน tumescentliposuction

วิธีการทำ tumescent liposuction

เริ่มจะมีการฉีดสารละลายระหว่างยาชาและยา epinephrine ซึ่งจะไม่ให้เลือดออกมาก หลังจากนั้นก็จะกรีดผิวหนังเป็นรอยเล็กแล้วสอดท่อเข้าบริเวณที่จะดูดและเปิดเครื่องดูด ก็จะได้ไขมันออกมา หลังจากนั้นใช้ผ้ายืดพันบริเวณที่ดูดเพื่อให้แผลหายเร็วและรูปร่างเข้าทรง

ข้อดีของการดูดไขมัน

  • ผิวหนังบริเวณที่ถูกดูดจะเรียบ ไม่ค่อยมีรอย
  • เลือดออกน้อย
  • เกิดรอยช้ำเขียวน้อย
  • หายเร็ว

ข้อบ่งชี้ในการดูดไขมัน

1 1
  • ใช้ดูดไขมันในกรณีที่ออกกำลังและคุมอาหารแล้วไขมันไม่ลด
  • กล้ามเนื้อบริเวณที่จะดูดต้องแข็งแรง
  • ผิวหนังบริเวณที่ถูกดูดต้องมีความยืดหยุ่นดี

หลังการดูดไขมัน

  • ยาชาจะออกฤทธิ์ประมาณ 24 ชั่วโมง
  • ผู้ป่วยจะรู้สึกตัวดีขณะที่มีการดูดไขมัน
  • ผู้ป่วยจะกลับไปทำงานได้ตามปกติ
  • หลังจากดูด 7 วันจึงจะออกกำลังกายได้

โรคแทรกซ้อน

พบได้ไม่มาก ได้แก่

  • ผิวหนังเป็นปม มีก้อนใต้ผิวหนัง แผลเป็น
  • ชา การติดเชื้อ แผลเป็น เสียชีวิตเนื่องไขมันเข้าเส้นเลือด
  • เสียเลือด และน้ำทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ

โรคแทรกซ้อนจะพบมากในภาวะดังต่อไปนี้

  • นำไขมันออกมากเกินไป
  • ทำการผ่าตัดหลายชนิดในการทำครั้งเดียว
  • การดมยาสลบ

ข้อที่ควรจะระวังการดูดไขมันมิใช่เป็นการลดน้ำหนัก การดูดไขมันจะเป็นการดูดไขมันเฉพาะที่เพื่อลดสัดส่วนของร่างกายให้ดูดี ารดูดไขมันหน้าท้อง

เป็นการดูดไขมันที่นิยมทำเนื่องจากไขมันจะมาสะสมบริเวณหน้าท้อง 1การดูดไขมันจะทำให้ทรวดทรงดีขึ้น ผู้หญิงที่อ้วนเมื่อลดน้ำหนักลงได้แต่ไม่สามารถลดเส้นรอบเอว หรือยังลงพุงการดูดไขมันจะช่วยทำให้ดูดีขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากไขมันบริเวณนี้จะไม่ค่อยลดแม้ว่าจะออกกำลังหรือควบคุมอาหาร

เมื่อพบแพทย์ครั้งแรก

แพทย์จะถามถึงความคาดหวังของผู้ป่วย หลังจากนั้นแพทย์จะอธิบายถึงวิธีการทำ ทางเลือกอื่น ราคา โรคแทรกซ้อน ข้อจำกัดของการทำ

หลังจากนั้นแพทย์จะตรวจร่างกาย ตรวจความยืดหยุ่นของผิวหนัง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ตำแหน่งที่ไขมันสะสม แพทย์จะบันทึกประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการใช้ยา ประวัติการขึ้นของน้ำหนัก การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย สำหรับท่านผู้อ่านท่านต้องถามแพทย์เรื่องที่ท่านสงสัย ขอดูรูปของคนที่เคยทำ ถามเรื่องโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น รวมทั้งบุคคลที่เคยทำเพื่อท่านจะได้ขอข้อมูล

วิธีการทำ

ขั้นแรกแพทย์จะขีดแนวบริเวณที่จะดูดไขมัน แพทย์จะให้น้ำเกลือแก่ผู้ป่วยเพื่อรักษาความสมดุลของน้ำในร่างกาย หากบริเวณที่ทำกว้างก็จะต้องวางยาสลบ แต่หากไม่กว้างก็จะให้ยานอนหลับ

แพทย์จะกรีดแผลเล็กๆในบริเวณกางเกงใน แล้วจะสอดท่อเล็กซึ่งต่อกับเครื่องดูด เครื่องจะดูดไขมันออกมาตามที่ต้องการ โดยไม่ทำลายเส้นเลือด หรือเส้นประสาทนอกจากนั้นแพทย์อาจจะใช้น้ำเกลือผสมยาชาฉีดเข้าไปก่อนซึ่งจะทำให้เลือดออกน้อย ดูดไขมันได้ง่ายขึ้น ลดอาการบวม นอกจากนั้นยังได้มีการพัฒนาวิธีการสลายไขมันโดยใช้เครื่อง ultrasound ช่วยเรียกว่า ultrasound-assisted liposuction (UAL) ส่วน tumescent technique คือการฉีดน้ำเกลือเข้าไปบริเวณที่จะดูดก่อน ส่วนวิธีดั่งเดิมเรียก dry liposuction ปัจจุบันนิยมลลดลงเนื่องจากต้องใช้ยาสลบ

การดูดแต่ละครั้งจะใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงหลังทำสามารถกลับบ้านได้ นอกเสียจากปริมาณไขมันที่ดูดมีปริมาณมาก หรือทำการผ่าตัดหลายชนิด

รอยช้ำเลือดที่เกิดจากการดูดไขมันจะใช้เวลา 3 สัปดาห์จึงจะหาย แต่สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติหลังจากการดูด 2-3 วัน ไม่ทำงานหนัก หรือออกกำลังกายหนักในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังจากการดูดไขมันและต้องสวมที่รัดหน้าท้องจนกระทั่งแพทย์ให้เอาออก

ผลการรักษา

หลังจากการดูดไขมันจะเริ่มพบกับการเปลี่ยนแปลงประมาณ 3 สัปดาห์ แต่จะเห็นผลเต็มที่เมื่อเวลา 6-12 เดือน แต่ต้องพึงระลึกว่าการออกกำลังกายจะทำให้ผิวหนังและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นดีขึ้น รูปร่างของท่านจะดูดีขึ้น ไขมันบริเวณนั้นจะไม่เพิ่มขึ้นเนื่องจากได้ดูดเซลล์ไขมันในบริเวณหมดแล้วหากน้ำหนักท่านขึ้นก็เป็นจากไขมันบริเวณอื่น

เนื่องจากผิวหนังของคนสูงอายุจะหย่อนยานดังนั้นผลการรักษาจึงไม่ดีเหมือนคนหนุ่มสาว

การดูดไขมันต้นขา

ปัญหาที่สำคัญของผู้หญิงอีกอย่างคือการที่มีต้นขาใหญ่ ออกกำลังแล้ว อบสมุนไพรแล้ว น้ำหนักก็ลดลงแต่ขนาดต้นขาก็ไม่ยอมลด 1ที่เป็นเช่นนี้เพราะไขมันส่วนนี้จะดื้อต่ออาหาร และการออกกำลังกายขั้นตอนการดูดไม่ต่างจากการดูดไขมันหน้าท้อง ตำแหน่งที่แพทย์จะกรีดคือบริเวณก้น ในบางรายแพทย์จะคาสายยางเพื่อระบายนำเหลือง และจะให้ยาปฏิชีวนะทาบริเวณแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หลังผ่าจะต้องสวมถุงสำหรับรัดบริเวณที่ดูดไขมันเป็นเวลา 6 สัปดาห์หลังจากดูด

ผู้ที่เหมาะสำหรับการดูดไขมัน

  • มีการสะสมของไขมันที่ขาเป็นบางบริเวณ
  • บริเวณดังกล่าวไม่เคยได้รับการผ่าตัด
  • ผิวหนังต้องมีความยืดหยุ่นเพียงพอ ไม่เหี่ยวย่น
  • นำหนักไม่เปลี่ยนแปลงมาก
  • ต้องการลดต้นขาเท่านั้น(ไม่ต้องการลดน้ำหนัก)
  • ไม่มีโรค เช่นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดขาตีบ
  • อารมณ์ไม่แปรปรวน
  • ไม่สูบบุหรี่
  • ต้องยอมรับข้อจำกัดของการดูดไขมัน
  • ไม่หวังผลเลิศเกินไป

การดูดไขมันที่คอ

หน้าและคอเป็นบริเวณที่เห็นได้ง่าย หากมีการสะสมของไขมันในบริเวณนี้ก็จะทำให้ดูสูงวัย ไขมันบริเวณนี้ก็เหมือนกับไขมันบริเวณอื่นข้างต้นคือคุมอาหารหรือออกกำลังกายก็ไม่สามารถลดปริมาณของไขมันบริเวณนี้

วิธีการทำเหมือนกับการดูดไขมันหน้าท้อง ตำแหน่งที่จะกีดแผลมักจะบริเวณใต้คางหรือหลังหู การดูดไขมันที่คอมักจะทำร่วมกับการดึงหน้า

1

ก่อน

1

หลัง

เพิ่มเพื่อน