การออกกำลังกายสำหรับโรคไต
- โรคไตเสื่อม
- อาการโรคไตเสื่อม
- การวินิจฉัยโรคไตเสื่อม
- การแบ่งระดับความรุนแรงของโรคไตเสื่อม
- การักษาไตเสื่อม
- การป้องกันไตเสื่อม
- การรับประทานอาหารเพื่อป้องกันไตเสื่อม
- การออกกำลังกายสำหรับไตเสื่อม
การออกกำลังกาย
ผู้ป่วยโรคเรื้อรังหลายท่านอาจรู้สึกว่าตนเจ็บป่วยเกินกว่าที่จะออกกำลังกายได้ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นต่อทุกคน หากไม่ออกกำลังกายจะส่งผลให้กล้ามเนื้อและหัวใจอ่อนกำลังลง และข้อต่อต่างๆ จะไม่แข็งแรง ดังนั้นการออกกำลังกายจะทำให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
ความสำคัญของการออกกำลังกาย
- ช่วยให้หัวใจแข็งแรงและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
- เพิ่มระดับของ hematocrit และ hemoglobin ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ลดความดันโลหิต
- ลดปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
- ลดความตึงเครียด
คำแนะนำในการออกกำลังกาย
ควรเลือกการออกกำลังกายที่ชอบและสะดวกที่จะทำอย่างต่อเนื่อง เช่น การออกกำลังกายในร่ม การเดิน ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ในสัปดาห์แรก คุณควรใช้เวลาเพียง 5 นาทีต่อวัน จากนั้นเพิ่มเวลาขึ้นอีก 2-3 นาทีในสัปดาห์ต่อๆ ไปจนกระทั่งสามารถออกกำลังกายได้ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อวัน สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักควรเดินให้นานขึ้นกว่าเดิมอย่างน้อย 20-30 นาที
อย่าออกกำลังกาย หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้
- มีไข้
- อากาศร้อนและมีความชื้นสูง
- มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อต่อ
หยุดออกกำลังกายทันที หากรู้สึกดังต่อไปนี้
- เหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก
- หายใจไม่ทัน
- เจ็บหน้าอก
- หัวใจเต้นเร็วผิดปกติหรือไม่เป็นจังหวะ
- คลื่นไส้
- เป็นตะคริว
การสูบบุหรี่กับโรคไตเรื้อรัง
การสูบบุหรี่เป็นการนำสารพิษเข้าไปในร่างกายและก่อให้เกิดอันตรายเกือบทุกอวัยวะ โดยมีผลเสียต่อไต ดังนี้
- ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นรวมทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ
- ลดอัตราการไหลเวียนของโลหิตในไต
- ทำให้เส้นเลือดในไตตีบ
- ทำลายเส้นเลือดแดงเล็กๆ
- ทำให้เส้นเลือดในไตอุดตัน
ปัจจัยเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ยังสูบบุหรี่ โดยยิ่งสูบมากก็ยิ่งเข้าสู่ไตวายระยะสุดท้ายเร็วขึ้น เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้ความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น มีโปรตีนรั่วทางปัสสาวะมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไตกำลังถูกทำลาย นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นปัญหาทางสุขภาพที่มักเกิดขึ้นพร้อมๆ กับโรคไตเรื้อรัง ดังนั้นการเลิกสูบบุหรี่จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ควรกระทำเพื่อช่วยรักษาหน้าที่ของไตให้คงอยู่
เคล็ดลับในการเลิกบุหรี่
ปริมาณของบุหรี่ที่สูบเข้าไปมีผลต่อการเร่งระยะเวลาในการเข้าสู่โรคไตวายระยะสุดท้าย การสูบบุหรี่ให้น้อยลงจึงเป็นวิธีการช่วยชะลอการเสื่อมของไต อย่างไรก็ตาม การเลิกสูบไปเลยเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องค่อนข้างยาก อาจต้องใช้ความพยายามหลายครั้งในการเลิกให้ได้ขาด แต่ก็นับเป็นความพยายามที่คุ้มค่ามาก
- ปรึกษาแพทย์เรื่องการบำบัดโดยใช้สารแทนนิโคติน เช่น หมากฝรั่ง หรือยา
- กำหนดวันเริ่มการเลิกบุหรี่ และกำจัดบุหรี่ออกจากรอบตัวให้หมด
- ค้นหาวิธีช่วยลดหรือบรรเทาอาการอยากสูบบุหรี่ เช่น เคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอม หายใจเข้าลึกๆ หรือทำสมาธิจนกว่าความอยากจะหายไป หากิจกรรมทำที่เพลิดเพลินแทนการสูบบุหรี่ เป็นต้น
- เข้าร่วมโปรแกรมการเลิกบุหรี่
- พยายามต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเลิกได้