การดูแลสุขภาพเพื่อควบคุมโรคความดันโลหิตสูง และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน
- กินยาและพบแพทย์ตามนัด ไม่หยุดยาเองแม้ว่าจะมีระดับความดันเป็นปกติ และไม่เปลี่ยนขนาดหรือชนิดยาเพราะประสิทธิภาพของยาจะแตกต่างกันในแต่ละราย ผู้ที่มีอาการข้างเคียงของยาควรปรึกษาแพทย์
- เลือกอาหารที่มีเกลือต่ำ ควรบริโภคอาหารรสธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งรสหวาน มัน เค็มจัด โดยฝึกให้ชินกับอาหารรสธรรมชาติ
- ลดน้าหนักส่วนเกิน ผู้ที่ลดน้าหนักได้ทุก 10 กิโลกรัม ความดันค่าบนจะลดลงเฉลี่ย 8 – 14 มิลลิเมตรปรอท
- ออกกาลังกายสม่าเสมอ วันละ 30 – 45 นาที แบบต่อเนื่องอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ และค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาเป็น 60 นาที เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้า เป็นต้น จะลดความดันค่าบนได้ 4 – 9 มิลลิเมตรปรอท สาหรับรายที่มีความดันสูงรุนแรงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มออกกาลังกาย
- เลือกบริโภคอาหารลดความดันโลหิต ( Dietary Approaches to Stop Hypertension, DASH ) จะช่วยลดความดันค่าบนได้ 8 – 14 มิลลิเมตรปรอท โดยเพิ่มการบริโภคผักสด ผลไม้ที่ให้โพแทสเซียม นมและผลิตภัณฑ์นมไขมันต่าที่ให้แคลเซียม ธัญพืชและถั่วเปลือกแข็งที่ให้ไฟเบอร์ และแมกนีเซียมให้มากขึ้นในแต่ละมื้อ และอาหารไขมันต่าแบบหมุนเวียน เช่น เนื้อไก่ไม่ติดหนัง ปลา อาหารมังสวิรัติ ควรลดการบริโภคเนื้อสัตว์ต่อมื้อไม่ให้มากเกินไป
- วัดความดันขณะนั่งพักที่บ้านสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง หรือจากสถานบริการใกล้บ้าน และบันทึกผลให้แพทย์ดูเมื่อไปตรวจตามนัด
- สร้างวิถีชีวิตให้เอื้อต่อการมีสุขภาพจิตดี รู้จักคลายเครียดและทาจิตใจให้สงบ เช่น ฝึกโยคะ ชี่กง การเจริญสติ การเจริญสมาธิ เป็นต้น
- เมื่อมีภาวะเจ็บป่วยด้วยโรคอื่นๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเรื่องโรคประจาตัว เนื่องจากยาบางอย่างมีผลข้างเคียงทาให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
การพยาบาลผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
การพยาบาลผู้ป่วยความดันโลหิตสูงโดยทั่วไปมีดังนี้
- แนะนา ส่งเสริม และดูแลสุขภาพโดยทั่วไป เพื่อป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง หรือถ้ามีความดันโลหิตสูงก็มีความรู้เพียงพอที่จะปฏิบัติตนให้ถูกต้องเหมาะสม
- ตรวจหาปัจจัยเสี่ยงที่จะทาให้เกิดความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ
- ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและการควบคุมโรคความดันโลหิตสูงแก่ประชาชนในทุกกลุ่มวัย โดยการสร้างสุขนิสัยหรือมีพฤติกรรมป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง ได้แก่
- การควบคุมอาหารเค็ม อาหารไขมัน และอาหารที่ให้พลังงานสูง คือ
- แนะนาให้ผู้ป่วยลดหรืองดรับประทานอาหารที่มีรสเค็ม เช่น น้าปลา ซีอิ๊ว ไข่เค็ม ของหมักดอง อาหารรสเค็มต่างๆ ซึ่งมักจะมีส่วนผสมของโซเดียม หลีกเลี่ยงการใช้สารอาหารและยาที่มีโซเดียมสูง
- ควบคุมอาหารไขมัน โดยใช้น้ามันพืช เช่น น้ามันถั่วเหลือง น้ามันดอกคาฝอย น้ามันข้าวโพด น้ามันราข้าว เป็นต้น แต่ไม่ควรใช้น้ามันมะพร้าวและน้ามันปาล์มเพราะให้พลังงานสูง ไม่ควรใช้น้ามันจากสัตว์เพราะเป็นไขมันชนิดอิ่มตัวซึ่งจะทาให้หลอดเลือดอุดตัน
- ควบคุมอาหารที่มีพลังงานสูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทาจากกะทิ หอยนางรม ไข่แดง อาหารที่มันมาก เช่น ข้าวขาหมู หนังเป็ด หนังไก่ หนังหมู มันกุ้ง มันปู
- การออกกาลังกาย แนะนาให้ผู้ป่วยออกกาลังกายโดยสม่าเสมอให้เหมาะสมกับสภาพหัวใจหลอดเลือด สภาพร่างกาย และสภาพแวดล้อม เช่น การเดินเร็ว วิ่งเหยาะ ขี่จักรยาน ว่ายน้า หรือแม้แต่การทางานบ้าน เป็นต้น ทั้งนี้ต้องระวังไม่ออกกาลังกายอย่างหักโหมหรือมากเกินไปและหลีกเลี่ยงการแข่งขันเพราะทาให้เกิดความเครียด
- หลีกเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบด้วย เพราะนิโคตินในบุหรี่ทาให้หลอดเลือดหดรัดตัวซึ่งทาให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะทาให้ความดันโลหิตสูงและหัวใจวายได้
- หลีกเลี่ยงภาวะเครียดซึ่งจะทาให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ควรทาจิตใจให้แจ่มใส หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่นการออกกาลังกาย เทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การนั่งสมาธิ การพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะการนอนหลับให้สนิท ถ้ามีปัญหาหรือมีความเครียดสูงอาจต้องปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์
- แนะนาเกี่ยวกับการรับประทานยา ให้รับประทานยาอย่างต่อเนื่องสม่าเสมอเพราะโรคนี้รักษาไม่หายขาด การรักษาอย่างสม่าเสมอช่วยควบคุมภาวะโรคไม่ให้เป็นมากขึ้นหรือมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นน้อยหรือช้าที่สุด ควรบอกให้ผู้ป่วยทราบเกี่ยวกับยาและผลข้างเคียงของยาโดยสังเขป ถ้ามีอาการผิดปกติจากผลข้างเคียงของยาให้ผู้ป่วยรีบไปพบแพทย์ ไม่ควรหยุดยาเอง ควรไปตรวจตามนัดทุกครั้ง และนายาที่มีทั้งหมดไปด้วย เพราะผู้ป่วยจะได้ยาตามระดับความรุนแรงของความดันโลหิต ไม่ซื้อยามารับประทานเอง
- แนะนาการวัดความดันโลหิตให้กับผู้ป่วยหรือผู้ดูแล (care giver) เพื่อประเมินผลการรักษาและพยาธิสภาพของผู้ป่วย การวัดความดันโลหิตที่บ้านจะได้ค่าที่เที่ยงตรงมากขึ้นเนื่องจากอยู่ในภาวะผ่อนคลายมากกว่า
- อธิบายให้ญาติหรือครอบครัวผู้ป่วยเข้าใจโรคและการดูแลผู้ป่วยตามความเหมาะสม เพื่อให้ความช่วยเหลือและให้กาลังใจแก่ผู้ป่วย
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
