หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
เผยแพร่เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2568, 23:17 น. โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
บทความนี้จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสำคัญเกี่ยวกับยา Fexofenadine ซึ่งเป็นยาแก้แพ้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยานี้ สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และทราบถึงข้อควรระวังต่างๆ ที่สำคัญ การมีความรู้เกี่ยวกับยาที่คุณใช้จะช่วยให้คุณจัดการกับอาการภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
Fexofenadine (เฟกโซเฟนาดีน) เป็นยาในกลุ่ม ยาต้านฮิสตามีน (Antihistamines) รุ่นที่ 2 (Second-Generation Antihistamine) ใช้สำหรับบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ เช่น โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) และลมพิษ (Chronic Idiopathic Urticaria) ยานี้มีข้อดีเด่นคือ ทำให้เกิดอาการง่วงซึมน้อยมาก เมื่อเทียบกับยาแก้แพ้รุ่นเก่า จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการแพ้โดยไม่กระทบต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ในประเทศไทยมีจำหน่ายในชื่อการค้า เช่น Allegra
Fexofenadine ออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งการทำงานของ ฮิสตามีน (Histamine) ซึ่งเป็นสารเคมีในร่างกายที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อเกิดปฏิกิริยาแพ้ ฮิสตามีนจะไปจับกับตัวรับ H1 (Histamine H1-receptors) ทำให้เกิดอาการต่างๆ ของภูมิแพ้ เช่น คัน จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก และผื่นลมพิษ
เลือกจับกับตัวรับ H1: Fexofenadine จะเข้าไปจับและยับยั้งตัวรับ H1 ได้อย่างจำเพาะเจาะจง
ไม่ผ่านเข้าสู่สมองในปริมาณมาก: คุณสมบัติสำคัญของยาแก้แพ้รุ่นที่ 2 คือไม่สามารถผ่านเข้าสู่สมองได้มากนัก ทำให้ลดผลข้างเคียงเรื่องอาการง่วงซึมได้เป็นอย่างดี
บรรเทาอาการแพ้: เมื่อการทำงานของฮิสตามีนถูกยับยั้ง อาการแพ้ต่างๆ ก็จะบรรเทาลง
Fexofenadine ใช้สำหรับบรรเทาอาการที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ ดังนี้:
โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ตามฤดูกาล (Seasonal Allergic Rhinitis): ใช้สำหรับบรรเทาอาการ เช่น จาม, น้ำมูกไหล, คันจมูก, คันเพดานปาก, คันคอ และคันตา/น้ำตาไหล
ลมพิษเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุ (Chronic Idiopathic Urticaria): ใช้สำหรับบรรเทาอาการคันและลดจำนวน ขนาดของผื่นลมพิษ
รูปแบบยา: ยาเม็ดสำหรับรับประทาน โดยทั่วไปมีขนาด 60 มิลลิกรัม (mg) และ 180 มิลลิกรัม (mg) นอกจากนี้ยังมีรูปแบบยาน้ำสำหรับเด็กด้วย
ขนาดยาที่ใช้:
สำหรับโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ตามฤดูกาล:
ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป: 60 มก. วันละ 2 ครั้ง หรือ 180 มก. วันละครั้ง
เด็กอายุ 6-11 ปี: 30 มก. วันละ 2 ครั้ง (หากมีรูปแบบยาที่เหมาะสม)
สำหรับลมพิษเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุ:
ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป: 180 มก. วันละครั้ง
ข้อแนะนำในการรับประทานยา:
รับประทานยาก่อนอาหาร: หรือตอนท้องว่าง ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนรับประทานอาหาร เพื่อให้ยาดูดซึมได้ดีที่สุด
หลีกเลี่ยงการรับประทานพร้อมน้ำผลไม้: เช่น น้ำเกรปฟรุต น้ำส้ม หรือน้ำแอปเปิล เนื่องจากน้ำผลไม้บางชนิดอาจลดการดูดซึมของยา ทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ ควรรับประทานยากับน้ำเปล่าเท่านั้น
ห้ามเคี้ยวหรือบดยาเม็ด: ให้กลืนยาทั้งเม็ดพร้อมน้ำเปล่า
หมายเหตุ: ขนาดยาที่เหมาะสมจะต้องได้รับการปรับโดยแพทย์หรือเภสัชกรตามอายุ อาการ และการตอบสนองของผู้ป่วยแต่ละราย ห้ามปรับขนาดยาเองเด็ดขาด
การแจ้งข้อมูลสุขภาพของคุณอย่างครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ Fexofenadine คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับ:
ประวัติการแพ้ยา: เคยแพ้ยา Fexofenadine หรือยาแก้แพ้ชนิดอื่น หรือส่วนประกอบใดๆ ในยาหรือไม่
โรคประจำตัวอื่นๆ: โดยเฉพาะโรคไต หรือโรคตับ
การตั้งครรภ์ หรือกำลังวางแผนตั้งครรภ์:
การให้นมบุตร:
ยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรอื่นๆ ที่กำลังใช้: รวมถึงยาที่ซื้อเอง โดยเฉพาะยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมหรือแมกนีเซียม
ควรใช้ Fexofenadine ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยบางราย:
ผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตบกพร่อง: แพทย์อาจพิจารณาปรับลดขนาดยา เนื่องจากยาถูกขับออกทางไต
ผู้สูงอายุ: ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจไวต่อผลข้างเคียงของยามากกว่าคนวัยหนุ่มสาว และมักมีการทำงานของไตที่ลดลง
ผู้ป่วยที่มีประวัติโรคหัวใจ หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ: แม้ว่า Fexofenadine จะมีผลต่อหัวใจน้อยกว่ายาแก้แพ้รุ่นเก่า แต่ก็ควรแจ้งแพทย์เพื่อความปลอดภัย
การดื่มน้ำผลไม้: อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาพร้อมน้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำเกรปฟรุต น้ำส้ม หรือน้ำแอปเปิล เพราะอาจลดประสิทธิภาพของยา
อาการที่ต้องเฝ้าระวังและควรพบแพทย์ทันที:
อาการแพ้ยาอย่างรุนแรง: เช่น ผื่นลมพิษรุนแรง, หายใจลำบาก, บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอ (ควรหยุดยาและไปพบแพทย์ฉุกเฉินทันที)
อาการที่ผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ: เช่น ใจสั่นรุนแรง, หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ, เจ็บหน้าอก (พบน้อยมาก)
อาการทางระบบประสาทที่ผิดปกติ: เช่น เวียนศีรษะรุนแรง, มึนงงผิดปกติ (พบน้อย)
โดยทั่วไป Fexofenadine ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจพิเศษใดๆ ระหว่างการใช้ยาเป็นประจำ นอกจากการติดตามอาการทางคลินิกและการตอบสนองต่อการรักษา
ยาที่อาจมีปฏิกิริยา:
ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมหรือแมกนีเซียม: เช่น ยา Antacid ที่ใช้แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ควรรับประทาน Fexofenadine ห่างจากยาลดกรดเหล่านี้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง เนื่องจากยาลดกรดอาจลดการดูดซึมของ Fexofenadine
Erythromycin หรือ Ketoconazole: ยาปฏิชีวนะและยาต้านเชื้อราบางชนิดอาจเพิ่มระดับ Fexofenadine ในเลือดได้เล็กน้อย
น้ำผลไม้: น้ำเกรปฟรุต, น้ำส้ม, น้ำแอปเปิล อาจลดการดูดซึมยาอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่
โรคประจำตัว:
โรคไต: ต้องปรับขนาดยา เนื่องจากยาถูกขับออกทางไต
โรคตับ: อาจมีการพิจารณาเป็นพิเศษในผู้ป่วยโรคตับรุนแรง แต่โดยทั่วไปยานี้ถูกเมตาบอไลซ์ที่ตับน้อย
สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งรายการยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรทั้งหมดที่คุณกำลังใช้ให้แพทย์และเภสัชกรทราบเสมอ
Fexofenadine เป็นยาที่โดยทั่วไปมีผลข้างเคียงน้อยมากและมักไม่รุนแรง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยได้แก่:
ปวดศีรษะ
ง่วงซึม (พบน้อยมากเมื่อเทียบกับยาแก้แพ้รุ่นเก่า)
คลื่นไส้
เวียนศีรษะ
ผลข้างเคียงที่พบน้อยแต่รุนแรง:
ปฏิกิริยาการแพ้ยาอย่างรุนแรง (Anaphylaxis): ซึ่งอาจแสดงออกด้วยผื่นลมพิษรุนแรง, หายใจลำบาก, ใบหน้า/ลิ้นบวม (เป็นภาวะฉุกเฉิน)
ใจสั่น, หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ: (พบน้อยมาก)
หากพบอาการรุนแรง หรืออาการที่น่ากังวล ควรหยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที
รับประทานยาตามขนาดที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำอย่างเคร่งครัด: ห้ามเพิ่มขนาดยาเอง
รับประทานยาตอนท้องว่าง: หรือ 1 ชั่วโมงก่อนอาหาร
รับประทานยาพร้อมน้ำเปล่าเท่านั้น: หลีกเลี่ยงน้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำเกรปฟรุต น้ำส้ม และน้ำแอปเปิล
หากมีอาการง่วงซึม (พบน้อย): ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือการทำงานกับเครื่องจักรที่ต้องใช้สมาธิ
แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่ใช้อยู่: รวมถึงยาลดกรดและอาหารเสริม เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างยา
หากรับประทานยา Fexofenadine เกินขนาด อาจเกิดอาการ เช่น ง่วงซึม, เวียนศีรษะ, ปากแห้ง หรือใจสั่น วิธีแก้ไข: ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที หรือติดต่อโรงพยาบาล/ศูนย์พิษวิทยาเพื่อขอคำแนะนำ การรักษาจะเน้นที่การดูแลตามอาการและประคับประคอง
Fexofenadine มักรับประทานวันละ 1 หรือ 2 ครั้ง: หากลืมรับประทานยาในมื้อใดมื้อหนึ่ง และยังไม่ถึงเวลารับประทานครั้งถัดไปมากนัก ให้รับประทานทันทีที่จำได้
หากใกล้ถึงเวลารับประทานครั้งถัดไปแล้ว: ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานยาในมื้อถัดไปตามตารางปกติ
ห้ามรับประทานยาครั้งละสองเท่าเพื่อชดเชยยาที่ลืมเด็ดขาด: เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง: ประมาณ 20-25°C (68-77°F) หรือตามที่ระบุบนฉลากยา
เก็บในที่แห้งและพ้นจากแสงแดดโดยตรง:
เก็บในภาชนะบรรจุเดิมที่ปิดสนิท:
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง:
ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ยาเสมอ: ห้ามใช้ยาที่หมดอายุแล้ว
Fexofenadine เป็นยาต้านฮิสตามีนรุ่นที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพสูงในการบรรเทาอาการภูมิแพ้ต่างๆ เช่น จมูกอักเสบจากภูมิแพ้และลมพิษ ด้วยข้อดีที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมน้อยมาก จึงช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ การใช้ยา Fexofenadine ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หรือกำลังใช้ยาอื่นๆ การทำความเข้าใจกลไกการทำงาน ข้อควรระวัง และผลข้างเคียง จะช่วยให้คุณใช้ยานี้ได้อย่างปลอดภัยและได้รับประโยชน์สูงสุดในการจัดการกับอาการภูมิแพ้
โปรดจำไว้ว่าข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น และไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรได้ หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เสมอ
วันที่เรียบเรียง: 26 กรกฎาคม 2568 ผู้เรียบเรียง: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว