siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

การตรวจปัสสาวะในผู้ป่วยเอสแอลอี: คู่มือสำหรับผู้ป่วยและแพทย์

วันที่เรียบเรียง: 21 มิถุนายน 2568
ผู้เรียบเรียง: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภานุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

โรคเอสแอลอีคืออะไร

Systemic Lupus Erythematosus (SLE) หรือ โรคลูปัส เป็นโรค autoimmune ที่ร่างกายสร้างแอนติบอดีทำลายเนื้อเยื่อตัวเอง ส่งผลต่ออวัยวะหลายระบบ เช่น ผิวหนัง ข้อต่อ ปอด หัวใจ และโดยเฉพาะ ไต ซึ่งพบความผิดปกติในไตได้ถึง 40-70% ของผู้ป่วย SLE การตรวจปัสสาวะเป็นวิธีสำคัญในการติดตามภาวะ ลูปัสในไต (Lupus Nephritis) เพื่อประเมินความรุนแรงและวางแผนการรักษา

ความสำคัญของการตรวจปัสสาวะในผู้ป่วย SLE

วิธีการตรวจปัสสาวะในผู้ป่วย SLE

1. การเก็บตัวอย่างปัสสาวะ

2. ประเภทของการตรวจปัสสาวะ

ผลตรวจปัสสาวะที่อาจพบในผู้ป่วย SLE

การแปลผลและการนำไปใช้

การดูแลผู้ป่วย SLE ที่มีการตรวจปัสสาวะผิดปกติ

การป้องกันภาวะแทรกซ้อน

ควรพบแพทย์เมื่อใด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

  1. ทำไมต้องตรวจปัสสาวะในผู้ป่วย SLE?

    • เพื่อตรวจหาความผิดปกติของไต (Lupus Nephritis) ซึ่งพบได้บ่อยใน SLE

  2. ผลตรวจปัสสาวะผิดปกติหมายถึงอะไร?

    • อาจบ่งชี้ Lupus Nephritis, การติดเชื้อ, หรือไตเสียหาย ต้องปรึกษาแพทย์

  3. ต้องตรวจปัสสาวะบ่อยแค่ไหน?

    • ทุก 3-6 เดือน หรือเมื่อมีอาการกำเริบ

  4. การตรวจปัสสาวะเจ็บหรือไม่?

    • ไม่เจ็บ เพียงเก็บปัสสาวะในภาชนะที่สะอาด

  5. หากพบโปรตีนในปัสสาวะ ต้องทำอย่างไร?

    • พบแพทย์เพื่อปรับยาและติดตาม Lupus Nephritis

สรุป

การตรวจปัสสาวะเป็นเครื่องมือสำคัญในการดูแลผู้ป่วย SLE โดยเฉพาะการตรวจหา Lupus Nephritis ซึ่งอาจนำไปสู่ไตวายหากไม่รักษา การตรวจอย่างสม่ำเสมอช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้ทันท่วงที ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และสังเกตอาการผิดปกติเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน