สีปัสสาวะบอกอะไรกับเรา

สีปัสสาวะของคนปกติจะมีสีเหลืองอ่อน จนถึงเหลืองเข็มใสไม่ขุ่น สีเหลืองเกิดจากเกิดจากสาร Urochrome ในปัสสาวะ

หลายท่านมาพบแพทย์เพราะสีของปัสสาวะเปลี่ยน

นอกจากการสังเกตสีปัสสาวะแล้ว ยังต้องสังเกตว่ามีอาการ หรือการเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นด้วย เช่น

 

  • อาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้

    ปัสสาวะคนปกติ

    ปัสสาวะขาวขุ่น

    ปัสสาวะสีแดงหรือชมภู

    ปัสสาวะมี Hemoglobin

    ปัสสาวะที่มี Methylene blue

  • ปัสสาวะบ่อยขึ้นหรือไม่
  • ปวดแสบขัดเวลาปัสสาวะหรือไม่
  • ปวดเอวหรือท้องน้อยหรือไม่
  • ชนิดของอาหารที่รับประทาน
  • ยาที่รับประทาน

การสังเกตสีของปัสสาวะทำได้ง่ายๆ โดยผู้ชายให้สังเกตสีเมื่อปัสสาวะเริ่มออก หรือสังเกตสีของน้ำในชักโครก ส่วนผู้หญิงสังเกตที่ชักโครก และกระดาษที่ใช้ซับปัสสาวะ ความผิดปกติของสีปัสสาวะที่พบได้

สีขาวแต่ขุ่น

ปัสสาวะขาวแต่ขุ่นมักจะพบในผู้ที่ดื่มนมเป็นปริมาณมากเกิดจากผลึกของ phosphate สาเหตุที่พบบ่อยอีกสาเหตุหนึ่ง คือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เช่น กรวยไตอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือเกิดจากมีน้ำเหลืองในปัสสาวะที่เรียกว่า Chyuria

ปัสสาวะออกมาเป็นสีอมแดง

ผู้มีปัสสาวะสีแดงมักจะรีบมาพบแพทย์สาเหตุที่สำคัญคือ

  • มีเลือดออกทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่ว เนื้องอก การติดเชื้อทางเดินระบบปัสสาวะ เมื่อเรานำปัสสาวะไปส่องกล้องจะพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ
  • มี Hemoglobin ในปัสสาวะ ปกติ Hemoglobin จะอยู่ในเม็ดเลือดแดงซึ่งไม่สามารถผ่านเข้ามาในปัสสาวะ การตรวจพบ Hemoglobin โดยที่ไม่มีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ หมายถึงเม็ดเลือดแดงมีการแตกตัว Hemolysis ทำให้ Hemoglobin ผ่านไตลงมาในปัสสาวะ อีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ทราบว่ามีการแตกของเม็ดเลือดแดง คือ การเจาะเลือด และนำไปปั่นเอาน้ำเหลืองมาดู จะพบว่าน้ำเหลืองเป็นสีชมภู
  • มี Myoglobin ในปัสสาวะ ปกติ Myoglobin จะพบในกล้ามเนื้อ หากกล้ามเนื้อมีการทำลายเช่น โรค Rhabdomyolysis จะทำให้มีสาร Myoglobin ในปัสสาวะซึ่งจะทำให้เกิดสีแดง เมื่อนำปัสสาวะไปส่องกล้องไม่พบเม็ดเลือดแดง และน้ำเหลืองในเลือดก็ใส
  • สีแดงของปัสสาวะเกิดจากอาหารที่รับประทาน เช่น Blackberries และ beets เนื่องจากมีสาร anthrocyanin
  • ยาที่ทำให้ปัสสาวะสีแดงได้แก่ phenytoin, phenothiazines


ปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลออกทางดำ

เกิดจากปัสสาวะมี Myoglobin หรือมี Hemoglobin ในปัสสาวะทำให้ปัสสาวะออกสน้ำตาลไปทางดำ ภาวะที่พบได้บ่อยคือ ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกโดยเฉพาะจากยา Quinine ที่ใช้รักษาโรคมาลาเรีย หรือผู้ที่เป็นโรคเลือด G6PD Deficiency เมื่อได้ยาที่แพ้จะเกิดเม็ดเลือดแดงแตก นอกจากนั้นยังเกิดจากการรับประทานถั่วในปริมาณที่มาก หรือจากยา  L-dopa  methyldopa,chloraquine, primaquine, furazolidone, metronidazole, nitrofurantoin, cascara/senna laxatives, methocarbamol, and sorbitol

ปัสสาวะมีสีส้ม

ผู้ที่มีปัสสาวะสีส้มส่วนใหญ่เกิดจากยาและอาหารได้แก่  phenazopyridine (Pyridium)ซึ่งเป็นยารักษาอาการปัสสาวะขัด ยารักษาวัณโรค Rifampin, phenacetin, sulfasalazine, Vitamin C, riboflavin,และ carrots

ปัสสาวะเป็นสีน้ำเงิน

ผู้ที่มีปัสสาวะสีเขียวหรือน้ำเงินมักจะเกิดจากยา ยาที่พบบ่อยได้แก่ Methylene blue ใช้รักษาอาการปัสสาวะขัด นอกจากนั้นยังมียาอีกหลายชนิด เช่น Amitriptyline, indomethacin, resorcinol, triamterine, cimetidine, phenergan,และ multivitamins

การตรวจเลือด CBC | การตรวจปัสสาวะ UA | สีปัสสาวะ | การตรวจอุจาระ | การตรวจน้ำตาล | การตรวจไขมัน | การตรวจการทำงานของไต | การตรวจการทำงานของตับ | การตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ | การตรวจเลือดเพื่อหามะเร็ง | การตรวจไวรัสตับอักเสบบี | การตรวจหัวใจ

เรียบเรียงวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

Google
 

เพิ่มเพื่อน