การรักษาโรคนอนไม่หลับ
หากคุณมีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับหรือหลับยากต้องใช้เวลามากกว่า 30 นาทีหรือตื่นเร็วทำให้ไม่สดชื่นหลังจากตื่นนอน เราเรียกนอนไม่หลับ นอนไม่หลับไม่ใช่โรคแต่เป็นอาการเนื่องจากสาเหตุต่างๆที่กระตุ้น เช่น ความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า โรคต่างๆ รวมทั้งพฤติกรรมในการนอน ยาบางชนิดก็ทำให้นอนไม่หลับเช่น ยาลดน้ำมูกยาแก้แพ้ ยารักษาโรคหัวใจ ยาลดความดันโลหิตสูง ยารักษาโรคหอบหืด
นอกจากภาวะต่างดังกล่าวก็ยังมีโรคที่ทำให้นอนไม่หลับ sleep disorder โรคดังกล่าวได้แก่
- Narcolepsy
- Sleep Apnea
- Periodic Leg Movements in Sleep (PLMS)
- Restless Legs Syndrome (RLS)
- Circadian Rhythm Disorder
การวินิจฉัยโรคนอนไม่หลับ
ท่าอาจจะกรอกตารางตรวจหาสาเหตุการนอนไม่หลับก่อนไปพบแพทย์แพทย์จะถามคำถาม เพื่อหาสาเหตุของการนอนไม่หลับ
- ให้อธิบายว่ามีปัญหานอนไม่หลับเป็นอย่างไร เช่นหลับยากหรือตื่นเร็วหรือตื่นบ่อย ตื่นเพราะอะไร มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง ใช้ยาอะไรบ้าง ดื่มกาแฟหรือดื่มสุราบ้างหรือไม่
- มีภาวะเครียด หรือวิตกกังวล หรือโรคซึมเศร้าหรือไม่
- นอนไม่หลับเป็นมานานเท่าใด
- เป็นทุกทุกคืนหรือไม่
- สามารถทำงานตอนกลางวันได้หรือไม่อารมณ์แกว่งหรือไม่
ผลกระทบจากการนอนไม่หลับ
ผลกระทบจาการนอนไม่หลับกระทบกับคุณภาพชีวิต คุณภาพการทำงาน และความปลอดภัย
- ผู้ที่นอนไม่หลับจะมีอัตราการเกิดโรคซึมเศร้า 4 เท่า
- การนอนไม่หลับเป็นความเครียดอาจจะทำให้เกิดโรคหัวใจ
- อาจจะเกิดอันตราขณะทำงาน ขับรถ
- ขาดงานบ่อย ไม่ก้าวหน้าในการทำงาน
การรักษานอนไม่หลับ
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยารักษานอนไม่หลับ
- ต้องหาสาเหตุว่านอนไม่หลับเกิดจากโรคอะไร และโรคนั้นรักษาด้วยยานอนหลับได้ผล
- นอนไม่หลับก่อให้เกิดผลเสียต่อชีวิตประจำวัน
- ใช้การรักษาวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล
- ภาวะนอนไม่หลับเป็นภาวะชั่วคราว
- ภาวะนอนไม่หลับเป็นอาการแสดงของโรคอื่น เช่น Alzheimer, dementia
หลักการให้ยารักษาภาวะนอนไม่หลับ
- ให้ยาขนาดน้อยที่สุด
- ควรจะใช้ระยะสั้น
- หากใช้ระยะยาวให้หยุดใช้ยาเป็นช่วงๆ
- ควรใช้ยาร่วมกับวิธีการอื่นร่วมด้วย
1ยานอนหลับ
ยานอนหลับเป็นยาที่ทำให้หลับง่าย ยานอนหลับที่ดีต้องให้ผลคือ นอนหลับเร็ว นอนหลับนานขึ้น ตื่นกลางคืนน้อยลง และสดชื่นหลังจากตื่น ยาที่ใช้แบ่งเป็น
- Benzodiazepines ยานี้เป็นยาที่ใช้บ่อย ยานี้ลดการกระตุ้นของเซลล์สมอง ผลข้างเคียงไม่มากและอัตราการติดยาไม่มาก ยาที่นิยมใช้ได้แก่ lorazepam , alprazolam , triazolam , flurazepam , temazepam , oxazepam , prazepam , quazepam , estazolam , flunitrazepam เนื่องจากยากลุ่มนี้มีผลต่อจิตประสาทและเป็นยาที่ทางอาหารและยาควบคุม การจ่ายยาจะต้องมีใบสั่งแพทย์ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง
ยากลุ่มนี้แบ่งตามการออกฤทธิ์เป็นสองแบบคือออกฤทธิ์ระยะสั้นได้แก่ยา lorazepam , alprazolam , triazolam ยากลุ่มนี้จะอยู่ในกระแสเลือดระยะสั้น ไม่ทำให้เกิดอาการง่วงนอนในเวลากลางวัน ส่วนอีกกลุ่มคือออกฤทธิ์ระยะยาว ยาจะอยู่ในกระแสเลือดเป็นเวลานานได้แก่ยา flurazepam,quazepam ยากลุ่มนี้จะทำให้ง่วงนอนในตอนกลางวัน และเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ
การให้ยากลุ่มนี้ต้องระวังในผู้สูงอายุ ควรจะได้ในขนาดครึ่งหนึ่งของคนปกติและควรจะได้ยาที่ออกฤทธิ์ระยะสั้น ยานี้ไม่ควรให้ในคนท้องและเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่เพราะยาจะผ่านไปสู่ลูกได้
หากได้ยาเกิดขนาดมักไม่ถึงกับเสียชีวิต ผู้ป่วยที่รับประทานยาเป็นเวลานานและหยุดยาอาจจะมีอาการนอนไม่หลับและเกิดร่วมกับอาการอย่างอื่น เช่นอาหารไม่ย่อย เหงื่อออก ใจสั่นในรายที่เป็นรุนแรงอาจจะมีภาพหลอน อาการหยุดยาจะเป็นประมาณ 1-3 สัปดาห์ สำหรับอาการหยุดยาที่ไม่รุนแรงอาจจะเป็นแค่ 1-2 วัน การที่จะหยุดยาควรจะค่อยลดขนาดยาลงไม่ควรหยุดยาทันทีเพราะจะเกิดผลข้างเคียง
ควรจะรับประทานยานานแค่ไหน
ยานอนหลับควรใช้ระยะสั้นไม่ควรให้ระยะยาวแต่บางรายก็มีความจำเป็นต้องให้ระยะยาวโดยมากไม่ควรให้เกิน 4 สัปดาห์
ข้อควรระวังในการใช้ยา ไม่ควรดื่มสุราขณะใช้ยานี้เพราะจะทำให้ยาออกฤทธิ์นานไม่ควรใช้ยานี้ในผู้สูงอายุที่ต้องตื่นบ่อบเนื่องจากอาจจะเกิดหกล้ม ไม่ควรใช้ยานี้ในผู้ที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร และไม่ควรให้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีโรค sleep apnea syndrome
- Non-Benzodiazepine Hypnotics เป็นยานอนหลับอีกชนิดหนึ่งที่ได้ผลค่อนข้างดีได้แก่ Zolpidem,Zopiclone ไม่ค่อยมีอาการดื้อยา และไม่ค่อยมีอาการติดยา ผลข้างเคียงของยาไม่มากเป็นยาที่เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง
- Antidepressants ยาแก้โรคซึมเศร้าเหมาสำหรับอาการนอนไม่หลับที่พบร่วมกับภาวะซึมเศร้า ยาใหม่ที่ได้ผลดีควรออกฤทธิ์ต่อ serotonin เช่น trazodone,nefazodone,paroxetine
- ยาอื่นได้แก่ ยาแก้แพ้เช่น chlorpheniramine,diphenhydramine,hydroxyzine อาจจะทำให้นอนหลับได้