โพแทสเซี่ยม
- โพแทสเซี่ยม
- โพแทสเซี่ยมในเลือดสูง
- โพแทสเซี่ยมในเลือดต่ำ
- ปริมาณโพแทสเซี่ยมในอาหาร
- ภาวะโพแทสเซี่ยมในเลือดต่ำ
- ภาวะโพแทสเซี่ยมในเลือดสูง
- โพแทสเซี่ยมและความดันโลหิต
หน้าที่ของโพแทสเซี่ยม
โปแทสเซียมเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายเป็นปกติ เช่น ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โปแทสเซียมช่วยควบคุมสมดุลของอิเล็กโตรไลต์และสมดุลของกรด-เบสในร่างกาย ป้องกันภาวะกรดเกิน (hyperacidity) และยังช่วยควบคุมความดันโลหิตที่สูงและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย และสามารถลดความเสี่ยงของภาวะการอุดตันของเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงสมอง (Stroke) ได้ถึง 30% โพแทสเซี่ยมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์ต่าง เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่างๆ นอกจากนั้นยังทำหน้าที่ร่วมกับเกลือ โซเดียม คลอไรด์ แคลเซี่ยม แมกนีเซี่ยมในการนำไฟฟ้า โพแทสเซี่ยมยังเป็นแร่ที่สำคัญในการบีบตัวของกล้ามเนื้อทั่วไป และกล้ามเนื้อหัวใจ และระบบทางเดินอาหาร โพแทสเซี่ยมยังมีหน้าที่ในการควบคุมความดันโลหิตการที่มีค่าโพแทสเซี่ยมสูงไปหรือต่ำเกินไปอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่นหัวใจเต้นผิดปกติหรือหยุดเต้น กล้ามเนื้ออ่อนแรง
โพแทสเซียมมีบทบาทสำคัญมากในร่างกาย ได้แก่:
- ช่วยให้กล้ามเนื้อสัญญา
- รักษาความสมดุลของอิเลคโตรไลท์
- ควบคุมความดันโลหิต
- ทำให้หัวใจทำงานได้อย่างถูกต้อง
- ช่วยในการกำจัดของเสีย
- ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์และสุขภาพ
- ส่งออกซิเจนไปยังสมอง
- การรักษาเสถียรภาพกระบวนการเผาผลาญอาหาร
ความสมดุลของโพแทสเซี่ยม
ร่างกายจะมีความสมดุลของเกลือแร่ ความสมดุลของโพแทสเซี่ยมขึ้นอยู่กับปริมาณของ เกลือโซเดี่ยม และแมกนีเซี่ยม กล่าวคือหากเรารับประทานเกลือโซเดียมมากไปจะทำให้เกลือโปแตศเซี่ยมต่ำลง นอกจากนั้น การอาเจียน หรือถ่ายเหลว เหงื่ออกมาก หรือการขาดสารอาหารจะทำให้เกลือโพแทสเซี่ยมต่ำลง
ร่างกายคนเราปรับสมดุลของโพแทสเซี่ยมโดยได้รับจากอาหารและน้ำดื่ม และสูญเสียทางปัสสาวะ เหงื่อ และทางเดินอาหาร
โพแทสเซี่ยมพบได้ในอาหารหลายประเภท เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ นม
ระดับโพแทสเซียมปกติในเลือด 3.5 – 5.0 mEq/L
ระดับโพแทสเซียมต่ำในเลือด < 3.5 mEq/L ซึม อ่อนเพลีย คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ตะคริว
ระดับโพแทสเซียมสูงในเลือด > 5.0 mEq/L เกิดการคั่งของน้ำในร่างกาย หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็วผิดปกต
ความผิดปกติที่พบได้
- โพแทสเซี่ยมมากเกินไป Hyperkalemia
- โพแทสเซี่ยมน้อยไป Hypokalemia
ภาวะโพแทสเซี่ยมในเลือดต่ำ Hypokalemia
เกิดจากกร่างกายเสียเกลือแร่โพแทสเซี่ยมซึ่งเกิดได้ทั้งทางปัสสาวะเช่นการได้รับยาขับปัสสาวะ หรือทางเดินอาหาร เช่นการเกิดคลื่นไส้หรือ่ายเหลวหากต่ำมากๆจะเกิดอาการ อ่อนแรงกล้ามเนื้อ ไม่มีแรง ท้องอืด หากเป็นมากอาจจะทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดปกติ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หากเกิดอาการดังกล่าวจำเป็นต้องรีบให้การรักษา
ความดันโลหิตสูง
มีรายงานว่าหากโพแทสเซี่ยมในเลือดต่ำจะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง เมื่อให้เกลือแร่โพแทสเซี่ยมจะทำให้ระดับความดันโลหิตลดลงได้ สำหรับคนทั่วไปไม่แนะนำให้ซื้อรับประทานเองเพราะอาจจะเกิดผลข้างเคียง
โพแทสเซี่ยมและโรคกระดูกพรุน
จากการศึกษาพบว่าการได้รับโพแทสเซี่ยมอย่างเพียงพอจะป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
โพแทสเซี่ยมกับโรคอัมพาต
การได้รับโพแทสเซี่ยมจากธรรมชาติอย่างเพียงพอจะลดการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง แต่การรับประทานโพแทสเซี่ยมเม็ดไม่ได้ลดการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
แหล่งอาหารที่ให้โพแทสเซี่ยม
ได้ผลไม้เช่นกล้วย มะนาว ส้ม avocados, cantaloupes, มะเขือเทศ มันฝรั่ง ปลาsalmon, cod,ไก่และเนื้อสัตว์
- มันฝรั่ง
- ผักขม
- เห็ด
- ถั่ว
- กล้วย
- มะเขือเทศ
- ส้ม
- แคนตาลูป
- แตงโม
- องุ่น
- พรุน
ขนาดที่ต้องการประจำวัน
ในเด็ก
- ทารกแรกเกิด - 6 เดือน: 400 mg/day
- เด็ก 7เดือน - 12เดือน: 700 mg/day
- เด็ก 1 -3 ปี: 3 grams (3,000 mg)/day
- เด็ก 4 - 8 ปี: 3.8 grams (3,800 mg)/day
- เด็ก 9 - 13 ปี: 4.5 grams (4,500 mg)/day
ผู้ใหญ่
- ผู้ใหญ่มากกว่า 19 ปี: 4.7 grams (4,700 mg)/day
- คนท้อง: 4.7 grams (4,700 mg)/day
- ให้นมบุตร: 5.1 grams (5,100 mg)/day
ต่อหน้าที่ 2 | การให้โพแทสเซี่ยมในการรักษาความดันโลหิต | ภาวะโพแทสเซี่ยมสูง | โพแทสเซี่ยมในเลือดต่ำ | ปริมาณโพแทสเซี่ยมในอาหาร