siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

ภาระน้ำตาล (Glycemic Load: GL) ของขนมไทย: คู่มือการเลือกบริโภคอย่างฉลาด

วันที่เผยแพร่: 28 กรกฎาคม 2568, 10:45 น. ผู้เขียน: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ที่มา: SiamHealth.net

ขนมไทยเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ แต่สำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ภาระน้ำตาล (Glycemic Load: GL) ของขนมไทยแต่ละชนิดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะอธิบายหลักการของ GL และนำเสนอค่า GL โดยประมาณของขนมไทยยอดนิยม เพื่อให้คุณสามารถเลือกบริโภคได้อย่างฉลาดและส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดน้อยที่สุด


1. ภาระน้ำตาล (Glycemic Load: GL) คืออะไร?

ภาระน้ำตาล (Glycemic Load: GL) คือค่าที่บ่งบอกว่าอาหารชนิดหนึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดมากน้อยเพียงใด โดยพิจารณาทั้งคุณภาพ (ดัชนีน้ำตาล: Glycemic Index, GI) และปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่รับประทานเข้าไป ค่า GL ที่สูงหมายถึงอาหารนั้นมีแนวโน้มที่จะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมาก ในขณะที่ค่า GL ที่ต่ำกว่าจะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอย่างช้าๆ และน้อยกว่า

การคำนวณ GL จะพิจารณาจาก:

การตีความค่า GL:

ขนมไทยส่วนใหญ่มักทำจากส่วนประกอบที่มีน้ำตาล แป้ง (เช่น แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว) และกะทิ ซึ่งล้วนแต่เป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตและไขมันที่อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้สูง ดังนั้น การรู้ค่า GL ของขนมไทยจะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกรับประทานได้อย่างเหมาะสม


ค่า GL ของขนมไทย

2. ค่าภาระน้ำตาล (GL) ของขนมไทยยอดนิยม (โดยประมาณ)

ค่า GL ของขนมไทยจะแตกต่างกันไปตามส่วนประกอบ วิธีการปรุง และปริมาณที่รับประทาน โดยส่วนมากขนมไทยที่ทำจากน้ำตาล ข้าวเหนียว แป้ง และกะทิ มักจะมีค่า GL ค่อนข้างสูง

ค่า GL โดยประมาณสำหรับปริมาณ 100 กรัมของขนมไทยแต่ละชนิด:

ขนมไทย ค่า GL โดยประมาณ (ต่อ 100 กรัม)
ข้าวเหนียวมะม่วง 25-30
ข้าวเหนียวสังขยา 25-30
ข้าวเหนียวถั่วดำ 20-25
ขนมตาล 20-25
ขนมหม้อแกง 20-25
เต้าส่วน 18-22
บัวลอย 15-20
ลอดช่อง 15-20
กล้วยบวชชี 12-15
ขนมชั้น 15-18
ทองหยิบ ทองหยอด 10-15
ขนมเปียกปูน 10-15
ขนมถ้วย 8-12
ขนมใส่ไส้ 8-12
วุ้นกะทิ 5-10

คำอธิบายเพิ่มเติมสำหรับขนมบางชนิด:


3. ข้อแนะนำในการบริโภคขนมไทยสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ

ขนมไทยเป็นส่วนหนึ่งของความสุขในการรับประทาน แต่การบริโภคอย่างฉลาดจะช่วยให้เรายังคงเพลิดเพลินได้โดยไม่กระทบต่อสุขภาพ:


สรุป

ขนมไทยแม้จะมีรสชาติอร่อยและเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม แต่หลายชนิดก็มีค่าภาระน้ำตาล (Glycemic Load) ค่อนข้างสูงเนื่องจากส่วนประกอบหลักที่เป็นน้ำตาลและแป้ง การทำความเข้าใจค่า GL ของขนมแต่ละชนิด และการควบคุมปริมาณการบริโภคอย่างเหมาะสม จะช่วยให้เราสามารถเพลิดเพลินกับขนมไทยได้อย่างสบายใจ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดมากเกินไป การเลือกบริโภคอย่างมีสติคือหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี

โปรดจำไว้ว่าข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น และไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือนักโภชนาการได้ หากคุณมีข้อสงสัยหรือข้อจำกัดด้านสุขภาพ ควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเสมอ

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

เพิ่มเพื่อน