siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

สุดยอดผักมหัศจรรย์: สารพัดประโยชน์ของแครอท

หากคุณกำลังมองหาของว่างที่อร่อย กรุบกรอบ และเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ แครอท คือคำตอบที่ยอดเยี่ยม แครอทเป็นผักรากที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามิน A, วิตามิน K, และโพแทสเซียม แม้จะเป็นผักราก แต่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตไม่สูงเท่ากับผักรากชนิดอื่น ๆ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพ


ข้อมูลโภชนาการของแครอท (ต่อแครอทขนาดกลาง 1 หัว หรือประมาณ 61 กรัม)

แครอทเป็นแหล่งของ วิตามิน A ชั้นยอด ซึ่งอยู่ในรูปของ เบต้าแคโรทีน ที่ทำให้แครอทมีสีส้มสดใส นอกจากนี้ยังมี โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โฟเลต และวิตามิน E ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย


ประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าทึ่งของแครอท

ประโยชน์ของแครอทส่วนใหญ่มาจากสารประกอบกลุ่มแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ นอกจากนี้ใยอาหารในแครอทยังมีส่วนช่วยในด้านสุขภาพอีกมากมาย

1. ช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

แครอทมีสารพฤกษเคมีหลายชนิดที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ สารโพลีฟีนอลในแครอทช่วยเพิ่มการหลั่งของน้ำดี ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ นอกจากนี้ ใยอาหารยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และโพแทสเซียมที่มีอยู่ในแครอทก็ช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ

2. ปกป้องและบำรุงสายตา

แครอทอุดมไปด้วย วิตามิน A และแคโรทีนอยด์อย่าง ลูทีน และ ซีแซนทีน ซึ่งสารเหล่านี้จะไปสะสมอยู่ในจอประสาทตาและช่วยป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ (AMD) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียการมองเห็น การรับประทานแครอทและผักสีส้มอื่น ๆ เป็นประจำจึงช่วยปกป้องดวงตาจากความเสียหายที่เกิดจากอายุและสิ่งแวดล้อมได้

3. ส่งเสริมสุขภาพฟันและช่องปาก

การศึกษาพบว่าการบริโภคอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง เช่น แครอท สามารถช่วยป้องกันปัญหาฟันผุและการสูญเสียฟันได้ อย่างไรก็ตาม การบริโภคแครอทไม่สามารถทดแทนสุขอนามัยในช่องปากที่ดีได้ ควรแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพฟันที่แข็งแรง

4. ลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม

การศึกษาเดียวกันที่กล่าวถึงเรื่องสุขภาพฟันยังพบความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคแครอทกับประโยชน์ทางสมองด้วย การรับประทานแครอทและผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเป็นประจำดูเหมือนจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมได้

5. ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง

วิตามิน A ในแครอทช่วยปกป้อง DNA จากความเสียหายจากอนุมูลอิสระซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งได้ แครอทมีหลายสีและแต่ละสีก็มีสารต้านอนุมูลอิสระที่แตกต่างกันไป:

งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากแครอทสีม่วงสามารถปกป้องเซลล์ลำไส้ใหญ่จากความเสียหายของ DNA ได้ถึงกว่า 20% สารต้านอนุมูลอิสระในแครอทจึงช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ทั่วร่างกาย


การแพ้และผลข้างเคียงที่ควรทราบ

การแพ้อาหารจากแครอทเป็นกรณีที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็เป็นไปได้ หากคุณแพ้ละอองเกสรดอกเบิร์ช อาจเกิดภาวะภูมิแพ้ข้ามชนิด (Oral Allergy Syndrome) จากการรับประทานแครอทได้เช่นกัน อาการอาจเกิดขึ้นทันทีหรือภายในหนึ่งชั่วโมงหลังรับประทาน หากสงสัยว่ามีอาการแพ้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้

นอกจากนี้ การรับประทานแครอท (หรืออาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง) ในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ผิวหนังมีสีเหลืองส้มได้ชั่วคราว เรียกว่า ภาวะแคโรทีนีเมีย (Carotenemia) ซึ่งไม่เป็นอันตราย และสีผิวจะกลับมาเป็นปกติเมื่อลดปริมาณการบริโภคลง


วิธีเลือกซื้อ จัดเก็บ และนำไปประกอบอาหาร

แครอทสามารถหาซื้อได้ตลอดทั้งปี ควรเลือกซื้อแครอทที่แน่น แห้ง และไม่มีรอยช้ำหรือรอยเน่าเสีย เพื่อการเก็บรักษาที่นานขึ้น ควรตัดส่วนใบสีเขียวออกก่อน แล้วนำแครอทไปเก็บไว้ในช่องแช่ผักในถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ จะสามารถเก็บได้นานหลายสัปดาห์

ก่อนนำไปรับประทาน ควรล้างทำความสะอาดแครอทให้หมดจดด้วยแปรงผักใต้ก๊อกน้ำ ไม่จำเป็นต้องปอกเปลือกหากไม่ต้องการ สามารถนำแครอทไปประกอบอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการกินดิบในสลัด, นำไปประกอบอาหารประเภทซุปหรือสตูว์, หรือนำไปคั่วเพื่อดึงความหวานตามธรรมชาติออกมา

 

 

 

เพิ่มเพื่อน