พอลิแซ็กคาไรด์: คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ดีต่อสุขภาพ แต่ก็มีข้อจำกัด
พอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) คือ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน  เกิดจากการรวมตัวของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวจำนวนมาก  เป็นแหล่งพลังงานที่ดี  และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ  แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณา
    
    
น้ำตาลเชิงซ้อน (Polysaccharides)
น้ำตาลเชิงซ้อนเกิดจากการรวมตัวของน้ำตาลเชิงเดี่ยวหลายหน่วย (ตั้งแต่สิบหน่วยขึ้นไป) รวมกันเป็นโครงสร้างที่ยาวและซับซ้อน โพลีแซ็กคาไรด์เป็นแหล่งพลังงานที่ย่อยช้าและให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างที่สำคัญของน้ำตาลเชิงซ้อน ได้แก่:
  - แป้ง (Starch)
    แป้งเป็นโพลีแซ็กคาไรด์ที่ประกอบด้วยหน่วยกลูโคสหลายร้อยถึงหลายพันหน่วย เชื่อมต่อกันด้วยพันธะไกลโคซิดิก พบมากในธัญพืช ข้าว ขนมปัง และมันฝรั่ง แป้งจะถูกย่อยเป็นกลูโคสก่อนที่จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด 
  - ไกลโคเจน (Glycogen)
    ไกลโคเจนเป็นโพลีแซ็กคาไรด์ที่เก็บพลังงานสำรองในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะในตับและกล้ามเนื้อ เมื่อร่างกายต้องการพลังงาน ร่างกายจะสลายไกลโคเจนเพื่อปล่อยกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือด 
  - เซลลูโลส (Cellulose)
    เซลลูโลสเป็นโพลีแซ็กคาไรด์ที่ประกอบด้วยกลูโคสเช่นกัน แต่โครงสร้างของพันธะไกลโคซิดิกในเซลลูโลสทำให้ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถย่อยได้ มันจึงเป็นเส้นใยอาหารที่ช่วยในการย่อยอาหาร 
ข้อดีของการรับประทานโพลีแซ็กคาไรด์
  - ให้พลังงานอย่างยั่งยืน:โพลีแซ็กคาไรด์มีลักษณะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยช้า ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถดึงพลังงานจากมันได้อย่างยาวนานและคงที่ เป็นแหล่งพลังงานที่ดีสำหรับการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่  รู้สึกอิ่มนาน  เหมาะสำหรับผู้ควบคุมน้ำหนัก  และผู้ป่วยเบาหวาน
 
  -  ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การย่อยโพลีแซ็กคาไรด์ใช้เวลานาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ช่วยลดการกระตุ้นของอินซูลินและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน 
 
  - อุดมไปด้วยใยอาหาร: โพลีแซ็กคาไรด์ที่มีโครงสร้างของเซลลูโลส เช่น ข้าวกล้อง ผักใบเขียว และผลไม้ เป็นแหล่งเส้นใยอาหารที่ดี ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ช่วยในการขับถ่าย ลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้     และช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
 
  - เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ใยอาหารบางชนิด  เช่น  เบต้ากลูแคน  ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน
 
  - แหล่งอาหารที่ดี: พบมากในธัญพืชไม่ขัดสี  ผัก  ผลไม้  ซึ่งมีวิตามิน  แร่ธาตุ  และสารต้านอนุมูลอิสระ
 
  - ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง: การบริโภคพอลิแซ็กคาไรด์  ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ  หลอดเลือด  เบาหวาน  และมะเร็งบางชนิด
 
  -  มีความสามารถในการเก็บน้ำโพลีแซ็กคาไรด์บางชนิด เช่น เซลลูโลส สามารถช่วยในการดูดซับน้ำและเพิ่มปริมาณให้กับอาหาร ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ซึ่งสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ 
 
    
ข้อเสียของโพลีแซ็กคาไรด์
  - 
    
ย่อยยากในบางกรณี
    
      - โพลีแซ็กคาไรด์บางชนิด เช่น เซลลูโลส ไม่สามารถย่อยได้โดยตรงในระบบย่อยอาหารของมนุษย์ เพราะขาดเอนไซม์ที่จะย่อยสลายมัน ซึ่งทำให้มันเป็นแหล่งเส้นใยอาหารที่ดี แต่ก็ไม่สามารถให้พลังงานได้มากนัก  
 
      - ผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหาร  เช่น  โรคลำไส้แปรปรวน  อาจมีอาการท้องอืด  แน่นท้อง  หลังรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง
 
    
   
  - 
    
หากบริโภคมากเกินไปอาจเกิดปัญหาในระบบย่อยอาหาร
    
      - การบริโภคโพลีแซ็กคาไรด์มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องผูก หรือท้องเสียได้ เนื่องจากมันต้องใช้เวลาย่อยนานและเพิ่มภาระให้กับระบบทางเดินอาหาร
 
      - ใยอาหารอาจขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุ  เช่น  เหล็ก  แคลเซียม  แต่สามารถแก้ไขได้โดยรับประทานอาหารให้หลากหลาย
 
      
   
  - 
    
อาจเพิ่มความเสี่ยงในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยแป้ง
    
      - ในกรณีที่มีปัญหาการย่อยแป้ง เช่น ภาวะแพ้แลคโตส หรือการย่อยแป้งไม่ดี (เช่น ในผู้ที่มีโรคเซลิแอค) การบริโภคโพลีแซ็กคาไรด์บางชนิดอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ท้องอืด ท้องเสีย หรืออาการไม่สบายท้อง
 
    
   
  - 
    
อาจมีผลกระทบจากการแปรรูป
    
      - โพลีแซ็กคาไรด์บางชนิดที่ถูกแปรรูปมากเกินไป เช่น แป้งขัดขาว อาจสูญเสียคุณค่าทางอาหารไปและเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็วเหมือนกับคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ
 
      - แม้จะมีส่วนผสมของพอลิแซ็กคาไรด์  เช่น  ขนมปังขาว  อาจมีน้ำตาล  ไขมัน  และโซเดียมสูง  ควรเลือกบริโภคอย่างระมัดระวัง
 
      
   
  - อาจทำให้ได้รับพลังงานมากเกินไป: แม้จะย่อยช้า  แต่หากรับประทานในปริมาณมาก  ก็อาจทำให้ได้รับพลังงานเกิน  เสี่ยงต่อโรคอ้วนได้ 
 
ข้อสรุป
พอลิแซ็กคาไรด์  เป็นคาร์โบไฮเดรตที่  ดีต่อสุขภาพ  ควรเป็นส่วนหนึ่งของอาหารประจำวัน  แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม  เลือกแหล่งที่มาจากธรรมชาติ  และปรุงประกอบอาหารอย่างถูกวิธี  เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
คำแนะนำเพิ่มเติม
  - เลือกบริโภคโพลีแซ็กคาไรด์จากแหล่งธรรมชาติ เช่น ธัญพืชเต็มเมล็ด ผัก และผลไม้
 
  - หลีกเลี่ยงการบริโภคแป้งขัดขาวและอาหารแปรรูปที่มีปริมาณโพลีแซ็กคาไรด์ต่ำ
 
  - ควบคุมปริมาณการบริโภคเพื่อป้องกันปัญหาทางระบบย่อยอาหาร
 
  - ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ  เพื่อช่วยในการย่อยใยอาหาร
 
  - เลือกอาหารแปรรูปที่มีใยอาหารสูง  และน้ำตาล  ไขมันต่ำ
 
  - ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ  หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริโภคพอลิแซ็กคาไรด์
 
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
    
  
     
       
  