แอปริคอต: ผลไม้เพื่อสุขภาพที่อัดแน่นด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

แอปริคอต (Apricot) เป็นผลไม้ขนาดเล็กสีเหลืองส้มที่มีรสหวานอมเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้วยังเป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพได้อย่างหลากหลาย ซึ่งทำให้แอปริคอตได้รับความนิยมในฐานะผลไม้เพื่อสุขภาพทั่วโลก

คุณค่าทางโภชนาการของแอปริคอต

แอปริคอตมีสารอาหารหลากหลายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งรวมถึง:

แคลอรี่ต่ำ: แอปริคอตเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือมองหาขนมเพื่อสุขภาพ
วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน: แอปริคอตมีวิตามินเอสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อการมองเห็นและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ เบต้าแคโรทีนยังช่วยป้องกันอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของการแก่ก่อนวัย
วิตามินซี: ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และยังมีประโยชน์ในการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส
ใยอาหาร: แอปริคอตมีใยอาหารที่สูง ซึ่งดีต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
โพแทสเซียม: ช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย ควบคุมความดันโลหิต และส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ

ประโยชน์ทางสุขภาพของแอปริคอต

เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
แอปริคอตมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและโรคต่าง ๆ
ส่งเสริมสุขภาพดวงตา
ด้วยปริมาณวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนสูง แอปริคอตจึงช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา ลดความเสี่ยงต่อโรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุและภาวะตาแห้ง
บำรุงผิวพรรณ
สารต้านอนุมูลอิสระในแอปริคอต เช่น เบต้าแคโรทีนและวิตามินซี ช่วยลดริ้วรอย ป้องกันการเกิดผิวแห้งและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ
เสริมสุขภาพหัวใจ
แอปริคอตมีโพแทสเซียมและใยอาหารที่ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต ส่งเสริมการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด
ช่วยในการย่อยอาหาร
ใยอาหารในแอปริคอตช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้และลดอาการท้องผูก ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

วิธีการรับประทานแอปริคอต

แอปริคอตสามารถรับประทานได้หลากหลายวิธี:

สด: เป็นวิธีที่ได้รับคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด และเหมาะเป็นของว่างที่ให้พลังงานต่ำ
แห้ง: แอปริคอตแห้งมีรสหวานเข้มข้นและพกพาง่าย แต่ควรเลือกแบบที่ไม่มีการเติมน้ำตาลหรือสารกันเสีย
น้ำผลไม้หรือน้ำปั่น: แอปริคอตสามารถนำไปทำเป็นน้ำปั่นเพื่อเพิ่มความสดชื่น และอาจผสมกับผลไม้อื่น ๆ ได้
ใช้ในการปรุงอาหาร: แอปริคอตสามารถนำไปใส่ในสลัด ข้าวโอ๊ต หรือทำเป็นซอสแยมเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับเมนูอาหาร

ข้อควรระวังในการรับประทานแอปริคอต

น้ำตาลในแอปริคอตแห้ง: แอปริคอตแห้งมีปริมาณน้ำตาลสูงกว่าผลไม้สดและแคลอรี่ที่เข้มข้นกว่า จึงควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม
ปริมาณใยอาหารที่สูง: สำหรับบางคน ใยอาหารที่สูงอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือแน่นท้องได้ ดังนั้นควรเริ่มรับประทานในปริมาณเล็กน้อยก่อนแล้วค่อย ๆ เพิ่ม
สารกันบูด: แอปริคอตแห้งบางชนิดมีการใช้สารกันบูด เช่น ซัลไฟต์ ซึ่งอาจเป็นสารก่อภูมิแพ้ในบางคน ควรเลือกแอปริคอตแห้งที่ปราศจากสารกันบูด

สรุป

แอปริคอตเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งในด้านการเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณ ช่วยการย่อยอาหาร และบำรุงสุขภาพดวงตา นอกจากนั้นยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการ แม้ว่าแอปริคอตแห้งจะสะดวกและให้พลังงาน แต่ควรระมัดระวังในการบริโภคให้พอดีเพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลเกินจำเป็น

ตารางแสดงสารอาหาร Apricot
น้ำหนัก 100 กรัม
Calories	51
	% DailyValue*
Total Fat 0.4g
Saturated Fat0g
Trans Fat 0g
Polyunsaturated Fat 0.1g
Monounsaturated Fat 0.2g
Cholesterol 0mg
Sodium 1mg
Total Carbohydrates 11.7g	4%
Dietary Fiber 2.1g	7%
Sugars 9.6g
Protein <1.5g

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว