หลักการป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
หลักการที่สำคัญในการป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากคือการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก และเพิ่มปัจจัยเสริมในการป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก ปัจจัยเสี่ยงบางปัจจัยก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลุกหมาก
- อายุ
- ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
- เชื้อชาติ
- ฮอร์โมน
- วิตามินอี
- อาหารและแคลเซี่ยม
ปัจจัยเสริมเพื่อป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
- กรดโฟลิก
- ยา Finasteride and Dutasteride
ปัจจัยต่อไปนี้ไม่มีผลต่อการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- Selenium and vitamin E
- Diet
- Multivitamins
- Lycopene
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
- อายุ มะเร็งต่อมลูกหมากจะเป็นคนอายุมาก การป้องกันมะเร็งที่ดีคือการรู้อาการมะเร็งและรีบตรวจตั้งแต่เป็นมะเร็งในระยะเริ่มแรก
- ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก หากมีญาติสายตรง หรือญาติเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากหลายคนโดยเฉพาะเป็นในขณะอายุน้อย ควรจะคัดกรองมะเร็งตั้งแต่อายุน้อย
- ฮอร์โมน ต่อมลุกหมากจะใช้ฮอร์โมน dihydrotestosterone (DHT) เมื่อเรารับประทานฮอร์โมน testosterone ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นฮอร์โมน dihydrotestosteron โดยเอนไซม์ในร่างกาย ฮอร์โมน dihydrotestosterone จะทำให้ต่อมลูกหมากโตและอาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ควรจะรับประทานฮอร์โมน testosterone เมื่อมีความจำเป็น
อาหารเพื่อสุขภาพ
เรื่อง อาหารจะเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากยังไม่ชัดเจน แต่ควรจะมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อลูกหมาก แม้ว่าจะขาดหลักฐานว่าการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจะลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพก็สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้
- เลือกอาหารไขมันต่ำ มีการศึกษาบางการศึกษาชี้ว่าผู้ชายที่รับประทานไขมันมากจะมีความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลุกหมากเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มีการพิสูจน์ แต่การลดอาหารไขมันจะช่วยเรื่องลดน้ำหนักลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
- ให้ใช้ไขมันจากพืชแทนไขมันจากสัตว์ เชื่อว่าไขมันจากสัตว์จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก เช่นใช้น้ำมะมะกอก
- เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ เชื่อว่าสารอาหารในผักและผลไม้จะลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
- รับประทานปลาที่มีไขมันมาก เช่นปลา salmon ปลา tuna ปลา herring ซึ่งมี omega-3 fatty acids มาก เชื่อว่า omega-3 จะลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ลดการบริโภคนมและผลิตภัณฑ์นม จากการศึกษาชายที่รับประทานนมและผลิตภัณฑ์นมประจำจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มขึ้น (มีการศึกษาอื่นๆมีผลขัดแย้งกัน พบว่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย)
- เชื่อว่าสาร Lycopene จะลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่จากการศึกษาพบว่าการได้รับ Lycopene เสริมไม่ช่วยลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
- อาหารที่ทำมาจากนม และแคลเซี่ยมจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากเล็กน้อย
ควบคุมน้ำหนัก
ผู้ที่อ้วนน้ำหนักเกินโดยเฉพาะมีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 จะมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ให้คุมน้ำหนักโดยการคุมอาหาร และออกกำลังกาย
ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายเป็นประจำจะลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลุกหมาก โรคหัวใจ และโรคอ้วน
ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่น อายุ เชื้อชาติ ประวัติการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากในครอบครัว แต่ก็มีปัจจัยหลายปัจจัยที่สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้
วิตามินอาหารเสริม
- การให้วิตามินอี และหรือ selenium ไม่ได้ลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก จากการศึกษา (Cancer Prevention Trial (SELECT)) พบว่าการรับประทานวิตมิน อี จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
- การศึกษาโปรตีนที่ได้จากถั่วเหลือง ที่เรียกว่า isoflavones อาจจะได้ผลในการลดมะเร็งต่อมลูกหมาก จะต้องรอผลการศึกษา
- กรดโฟลิก จากการศึกษา 10 ปี พบว่าผู้ที่รับประทานกรดโฟลิกเสริมเพียงวันละ1 มิลิกรัมจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่คนที่รับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกจะเกิดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหทมากต่ำ
- จากการศึกษาพบว่าการรับประทานวิตามินรวมเป็นประจำหลายครั้งต่อสัปดาห์ จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งชนิดรุนแรงเพิ่มขึ้น
ดังนั้นจะเห็นว่าการให้วิตามินและอาหารเสริมจะมีทั้งคุณและโทษ ก่อนที่จะรับยาจะต้องปรึกษาแพทย์
ยา
- ยา finasteride และ dutasteride (Avodart) ยาทั้งสองชนิดใช้รักษาต่อมลูกหมากโตยา Finasteride และ dutasteride จะป้องการเกิดฮอร์โมน dihydrotestosterone (DHT) โดยการปิดกั้นเอนไซม์ของร่างกาย จากการศึกษาพบว่าการใช้ยาดังกล่าวจะลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ยา aspirin มีการวิจัยบางชิ้นแสดงว่าการใช้ aspirinจะลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ต้องศึกษาเพิ่ม
- http://www.cancer.gov/types/prostate/patient/prostate-prevention-pdq#section/_12
- http://www.cancer.org/cancer/prostatecancer/moreinformation/prostatecancerearlydetection/prostate-cancer-early-detection-prevention