หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
ความเครียด (Stress) เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เราสามารถเรียนรู้วิธีการผ่อนคลายและจัดการกับมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการความเครียดไม่ได้หมายถึงการกำจัดความเครียดให้หมดไป แต่คือการเรียนรู้วิธีรับมือกับมันอย่างถูกวิธี เพื่อลดผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต
ความเครียดทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็งตัวอย่างไม่รู้ตัว การคลายกล้ามเนื้อแบบก้าวหน้าเป็นวิธีที่ช่วยลดความตึงเครียดได้ดี โดยการเกร็งและคลายกล้ามเนื้อทีละส่วน เริ่มจากเท้า ไล่ขึ้นมาจนถึงศีรษะ ทำซ้ำแต่ละส่วนประมาณ 3-4 วินาที จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและตระหนักถึงความตึงเครียดของกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
วิธีปฏิบัติ: นั่งหรือนอนในท่าที่สบาย หายใจเข้าและเกร็งกล้ามเนื้อส่วนเท้าค้างไว้ 3-4 วินาที จากนั้นหายใจออกและคลายกล้ามเนื้อช้าๆ แล้วจึงเปลี่ยนไปทำกับกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
การหายใจลึกๆ เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลเร็วที่สุดในการลดความเครียด เพราะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตได้ทันที
วิธีปฏิบัติ: นั่งในท่าที่สบาย หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ ให้เต็มปอดจนท้องป่อง กลั้นหายใจไว้ 2-3 วินาที จากนั้นหายใจออกทางปากช้าๆ โดยให้ระยะเวลาการหายใจออกยาวกว่าการหายใจเข้า ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง
การทำสมาธิช่วยให้จิตใจสงบและมีสมาธิมากขึ้น การทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดระดับความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจได้ในระยะยาว
วิธีปฏิบัติ: นั่งในท่าที่สบาย หลับตาลง และมุ่งความสนใจไปที่ลมหายใจเข้า-ออก อาจทำเป็นประจำวันละ 15-20 นาที ก่อนนอน
การออกกำลังกายช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด และทำให้สมองหลั่งสารแห่งความสุข (Endorphins) ออกมา ส่วนการยืดกล้ามเนื้อช่วยลดอาการข้อติดและปวดเมื่อยตามตัว
วิธีปฏิบัติ: ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 15 นาที เช่น การเดิน, ว่ายน้ำ, หรือเล่นเทนนิส และควรทำการยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ
การใช้จินตนาการเป็นวิธีที่ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายได้ง่ายๆ โดยการหลับตาลงและนึกถึงสถานที่ที่ทำให้คุณมีความสุข เช่น ชายหาดที่เงียบสงบ หรือสถานที่ที่เคยเดินทางไปแล้วประทับใจ
วิธีปฏิบัติ: หลับตาและจินตนาการถึงภาพดีๆ หรือมองภาพที่ทำให้คุณมีความสุข แล้วจินตนาการว่าคุณอยู่ในสถานที่นั้น
เมื่อความเครียดเกิดจากปัญหาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การปรับเปลี่ยนวิธีคิดจะช่วยให้คุณรับมือกับมันได้ดีขึ้น
ยอมรับความจริง: ยอมรับว่ามีบางอย่างที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น คำพูดของคนอื่น หรือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
เปลี่ยนมุมมอง: พยายามมองหาโอกาสในทุกวิกฤติ หรือมองโลกในแง่บวกมากขึ้น
ตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผล: การกำหนดเป้าหมายในชีวิตประจำวันที่ทำได้จริง จะช่วยสร้างความมั่นใจและความภูมิใจเมื่อทำสำเร็จ
พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อวันมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ควบคุมอารมณ์โกรธ: เมื่อโกรธ ให้หยุดสิ่งที่ทำอยู่แล้วหาสิ่งอื่นทำแทน เช่น เดินเล่น หรือทำกิจกรรมที่ชอบ เพื่อระบายความโกรธ
หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น: เช่น หากรถติดทำให้หงุดหงิด ให้ลองออกจากบ้านให้เช้าขึ้น หรือเปลี่ยนเส้นทาง
จัดการเวลา: วางแผนการทำงานและชีวิตส่วนตัวให้มีความสมดุล
นพ.ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร เป็นอายุรแพทย์ 30 ปี แพทย์เวชศสตรครอบครัว...