siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

พี่บุญศรี

วิธีการจัดการกับความขัดแย้งระหว่างบุคคล: สร้างความสัมพันธ์เชิงบวก

ความขัดแย้ง (Conflict) เป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นกับคนในครอบครัว, เพื่อน, หรือเพื่อนร่วมงาน ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์นั้นกำลังจะสิ้นสุด แต่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความแตกต่างทางความคิด ความต้องการ หรือความเชื่อ การเรียนรู้วิธีจัดการกับความขัดแย้งอย่างเหมาะสมจึงเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนความแตกต่างให้กลายเป็นโอกาสในการทำความเข้าใจกัน และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

1. ทำความเข้าใจสาเหตุของความขัดแย้ง

ความขัดแย้งมักเกิดจากหลายปัจจัยผสมผสานกัน การทำความเข้าใจสาเหตุจะช่วยให้เราสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด:

2. เทคนิคการจัดการกับความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้น การใช้เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นและนำไปสู่การหาทางออกร่วมกันได้:

ก. การสื่อสารที่เปิดเผยและเคารพซึ่งกันและกัน

การสื่อสารคือหัวใจสำคัญของการแก้ไขความขัดแย้ง ควรยึดหลักการสื่อสารที่สร้างสรรค์และไม่ก้าวร้าว

ข. การจัดการอารมณ์ของตนเอง

อารมณ์ที่รุนแรงจะทำให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น ดังนั้นควรจัดการกับอารมณ์ของตัวเองก่อน

ค. การหาทางออกร่วมกัน

เป้าหมายสูงสุดของการจัดการความขัดแย้งคือการหาทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้

3. สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเกิดความขัดแย้ง

สรุป

ความขัดแย้งระหว่างบุคคลเป็นโอกาสที่เราจะได้เรียนรู้และทำความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น การจัดการกับความขัดแย้งด้วยสติ การสื่อสารที่สร้างสรรค์ และความเคารพซึ่งกันและกัน จะช่วยให้เราเปลี่ยนความแตกต่างให้เป็นพลังขับเคลื่อนความสัมพันธ์ให้เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างยั่งยืน

 

11111

วิธีการที่จะจัดการกับปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างบุคคล

คนเราเป็นสัตว์สังคมต้องอยู่รวมกันจะแยกอยู่เดี่ยวๆไม่ได้ แต่การอยู่รวมกันก็เกิดปัญหาความต้องการไม่ตรงกัน ความคิดไม่ตรงกันทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งจะนำไปสู่ความเครียด วิธีการที่จะจัดการกับปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างบุคคลมีดังนี้

  1. เผชิญกับปัญหา เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นให้นัดหมายวัน และเวลาที่จะปรับความเข้าใจ
  2. ให้รับฟังปัญหาของกันและกันโดยที่ไม่มีการขัดขวาง หากสถานการณ์รุนแรงให้หยุดจนกระทั้งอารมณ์สงบค่อยคุยกัน หรืออาจจะเขียนใส่กระดาษ แล้วแลกเปลี่ยนกันอ่าน หลังจากนั้นหนึ่งวันให้กลับมาปรึกษากันอีกครั้ง
  3. สรุปปัญหาให้นำปัญหาที่เกิดมาประเมินว่า ปัญหาใดยอมรับได้ ปัญหาใดยังต้องแก้ไขเพื่อหาข้อสรุปแก้ไขต่อไป
  4. หาทางแก้ไข เมื่อทราบปัญหาแล้วก็หาแนวทางแก้ไข อย่ารีบร้อนตัดแนวทางใดแนวทางหนึ่ง ให้หาหลายๆแนวทาง แล้วปรึกษากันถึงผลดีผลเสียของแต่ละแนวทาง
  5. ให้เคารพและปฏิบัติตามแนวทางที่ได้เลือกเพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
  6. การนำแผนมาปฏิบัติ เมื่อใครไม่ปฏิบัติตามก็ให้ชี้แจงในลักษณะที่ไม่ก้าวร้าว
  7. ทบทวนข้อตกลง เมื่อได้ปฏิบัติแล้วและปฏิบัติไประยะหนึ่งให้ประเมินว่าสำเร็จตามแผนหรือไม่ หากไม่สำเร็จให้ปฏิบัติข้อหนึ่งใหม่

กลับหน้าเดิม