การจัดการกับความโกรธ

เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยโกรธมากบ้างน้อยบ้างตามแต่เหตุการณ์ บางคนอาจจะแสดงออกมาก บางคนอาจจะแสดงออกน้อย ความโกรธเป็นอารมณ์ปกติของทุกคนหากไม่มาก และสามารถคุมได้ก็ไม่เกิดปัญหา แต่หากอารมณ์โกรธมากเกินความควบคุมก็จะเกิดปัญหากับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล กับงาน และคุณภาพชีวิต

ความโกรธคืออะไร

ความโกรธคืออารมณ์หนึ่งของคนเราเหมือน รัก เสียใจซึ่งมักมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจเช่นหัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียด สาเหตุของความโกรธอาจจะเกิดจากภายนอก เช่น คนบางคนเมื่อเห็นหน้าก็จะเกิดอารมณ์ เพื่อนร่วมงานเจ้านายหรือเหตุการณ์เช่นรถติดน้ำท่วม ความโกรธอาจจะเกิดจากภายในตัวเอง เช่นสุขภาพตัวเองความจำเสื่อม

การแสดงออกของความโกรธ

ความโกรธเป็นเป็นการเตรียมพร้อมของเราในการป้องกันตัวเองจากสิ่งที่มากระทบกับตัวเรา การแสดงออกมักจะเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนและพฤติกรรมก้าวร้าว แต่สังคมมีกฎเกณฑ์ และกฎหมายดังนั้นทุกคนควรที่จะควบคุมอารมณ์โกรธให้อย่างเหมาะสมซึ่งมีวิธีการดังนี้

  1. การแสดงออก expression การแสดงออกถึงความโกรธไม่ใช่ให้แสดงความก้าวร้าวแต่ให้แสดงว่าท่านต้องการอะไร และจะได้สิ่งนั้นได้อย่างไรโดยที่ไม่ทำร้ายคนอื่นโดยหลักการเคารพตัวเองและเคารพผู้อื่นด้วย
  2. การกดความโกรธ suppressing ซึ่งสามารถกระทำได้โดยหยุดคิดเรื่องที่โกรธ คิดสิ่งที่ดีและมีความสุขเปลี่ยนความโกรธไปในทางสร้างสรรค์ ข้อเสียคือเมื่อท่านไม่สามารถแสดงความโกรธ ความเครียดยังคงอยู่อาจจะทำให้ท่านเป็นความดันโลหิตสูง หรือซึมเศร้า นอกจากนั้นอาจจะทำให้เกิดผลเสียอย่างอื่นคือไปแสดงความโกรธกับคนอื่นที่ไม่มีส่วนร่วม กล่าวร้ายลับหลังแทนที่จะเผชิญหน้าถกปัญหา มักจะมีพฤติกรรมพูดจาถักถางไม่เป็นมิตร ดูถูกคนอื่นเป็นประจำ  ตำหนิในทุกๆเรื่อง คนกลุ่มนี้มักจะมีเพื่อนน้อย
  3. การระงับความโกรธ คือนอกจากจะไม่แสดงความโกรธแล้วยังต้องควบคุมอารมณ์ และชีพขจร

การจัดการกับความโกรธ

เป้าประสงค์ของการจัดการกับความโกรธคือลดอารมณ์โกรธ และการตอบสนองต่อความโกรธทั้งทางร่างกายและจิตใจ ท่านไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนหรือสิ่งที่ทำให้ท่านโกรธแต่ท่านสามารถควบคุมความโกรธได้ซึ่งมีวิธีการดังนี้

  1. การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  2. การเปลี่ยนขบวนความคิด
  3. การแก้ปัญหา ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ไข วางแผนการแก้ปัญหาให้ดีที่สุด และไม่ต้องกล่าวโทษตัวเองหากปัญหานั้นยังไม่สามารถแก้ได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าคุณจะได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
  4. การสื่อสารที่ดีคนที่โกรธมักจะด่วนหาข้อสรุปเมื่อมีความโกรธอย่ารีบตัดสินใจอย่าพูดสิ่งที่ผุดขึ้นมาจากสมองให้คิดก่อนว่าต้องการอะไร ต้องพูดอย่างไร ขณะเดียวกันต้องรับฟังความคิดเห็นคนอื่นและคิดก่อนที่จะตอบ เมื่อมีการตำหนิท่านจงรับฟังและพิจารณาเนื้อหาว่าเป็นจริงแค่ไหนห้ามโกรธแค้นคนที่ตำหนิ
  5. การใช้อารมณ์ขัน เมื่อมีความโกรธหรือความเครียดจงใช้อารมณ์ขันช่วยแก้สถานการณ์แต่ต้องใช้ให้ถูกกาลเทศะ
  6. เตือนตัวเองด้วยคำง่ายๆเช่น ใจเย็นๆ
  7. การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม หลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่ทำให้ท่านโกรธเช่นเลี่ยงการจราจร เลี่ยงการพูดเรื่องที่ทำให้โกรธ
  • เปลี่ยนเวลาคุย หากพบว่าการพูดคุยหรือปรึกษาบางเวลาทำให้เกิดความโกรธ เช่นการพูดคุยเวลาเย็นทำให้โกรธง่าย อาจจะเนื่องจากเครียดจาดงาน ให้เปลี่ยนเวลามาตอนเช้า
  • หลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นทำให้โกรธ เช่นการถกปัญหาในบางเรื่อง
  • หาทางเลี่ยง เช่นการเลียงเวลาออกจากบ้านเพื่อป้องกันรถติด

การเปลี่ยนขบวนความคิด

คนเราเมื่อโกรธมักจะลืมตัว พูดจาเสียดัง ด่าคน พูดคำหยาบ และอาจจะไม่มีเหตุผลขณะที่โกรธมักจะคิดว่าสิ่งนั้นมันน่าโมโห ทุกอย่างได้พังหมดแล้ว ให้เปลี่ยนเป็นว่าเรากำลังหัวเสีย เรากำลังไม่พอใจ ความโกรธไม่สามารถแก้ปัญหาและอาจจะทำให้เกิดปัญหามากขึ้น

อย่าใช้คำว่า"ไม่" และ"เสมอ"กับตัวเองและคนอื่น เพราะจะเหตุผลว่าที่เราโกรธนั้นถูกต้อง และไม่มีทางที่จะแก้ไขเช่น ไม่ทำงาน หรือลืมเสมอ มีการพิสูจน์แล้วว่าการใช้คำดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาได ้และยังก่อให้เกิดความบาดหมางระหว่างเพื่อนร่วมงานด้วย ตัวอย่างเช่นการนัดประชุมมักจะมีคนที่สายประจำ อย่ากล่าวว่า"เธอสายเป็นประจำ" "เธอเป็นคนไม่รับผิดชอบ"ให้คิดว่าเป้าประสงค์คือการประชุมซึ่งก็ได้มีการประชุมตามเป้าประสงค์ วิธีแก้ปัญหาให้แจ้งแก่คนที่สายถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และปรึกษาว่าจะแก้ปัญหาให้สำเร็จได้อย่างไร อาจจะนัดให้สายอีกครึ่งชั่วโมง เพื่อที่จะมาได้ทันและไม่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์

คนที่โกรธมักจะมีความต้องการหลายๆอย่าง เช่นความยุติธรรม การยอมรับ ข้อตกลง ความต้องการที่จะทำตามวิธีทางของเขา เมื่อไม่ได้รับตามที่ต้องการก็จะเกิดความโกรธ

ความโกรธแต่ละคนรุนแรงไม่เหมือนกัน

คนบางคนจะมีแนวโน้มที่จะโกรธง่ายและโกรธรุนแรง เนื่องจากมีความทนทานต่อแรงกระตุ้นน้อยกว่าคนอื่น สาเหตุอาจจะเกิดจากพันธุ์กรรมและสิ่งแวดล้อม พบว่าเด็กที่เกิดในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีจะอารมณ์เสียง่าย

เมื่อไรจึงจะต้องพบจิตแพทย์

ความโกรธเป็นอารมณ์ของคนปกติ หากอารมณืของคุณไม่สามารถควบคุมได้ และส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือคุณภาพชีวิต และคุณต้องการการเรียนรู้เพื่อที่จะควบคุมการแสดงออก และการจัดการเกี่ยวกับการโกรธ คุณสามารถพบจิตแพทย์หรือนักจิตเพื่อปรับตัวเอง

กลับหน้าเดิม