siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

การจัดการกับความโกรธ: เข้าใจอารมณ์และควบคุมตนเอง

ความโกรธ (Anger) เป็นอารมณ์ปกติของมนุษย์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เมื่อความโกรธอยู่เหนือการควบคุมและกลายเป็นการทำลายล้าง ก็อาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์, การทำงาน และคุณภาพชีวิตโดยรวม การเรียนรู้วิธีจัดการกับความโกรธอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขและสร้างสรรค์


1. ความโกรธคืออะไรและเกิดจากอะไร?

ความโกรธ คือสภาวะทางอารมณ์ที่มีความรุนแรงแตกต่างกันไป ตั้งแต่ความหงุดหงิดเล็กน้อยไปจนถึงความเกรี้ยวกราดรุนแรง เมื่อเราโกรธ ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา เช่น อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตสูงขึ้น รวมถึงระดับฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline) และนอร์อะดรีนาลีน (Noradrenaline) ที่เพิ่มขึ้น

สาเหตุของความโกรธ สามารถเกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน:


2. ทำไมบางคนถึงโกรธง่ายกว่าคนอื่น?

นักจิตวิทยาระบุว่าผู้ที่โกรธง่ายมักมีลักษณะนิสัยบางอย่างที่เรียกว่า "ความอดทนต่อความคับข้องใจต่ำ" (Low frustration tolerance) ซึ่งหมายถึงการที่พวกเขารู้สึกว่าตนเองไม่ควรต้องเผชิญกับความไม่สะดวกหรือความรำคาญใด ๆ เลย สาเหตุของความโกรธง่ายมีดังนี้:


3. การแสดงออกของความโกรธ

การแสดงออกของความโกรธโดยสัญชาตญาณคือการตอบสนองอย่างก้าวร้าว ซึ่งเป็นกลไกการเอาตัวรอดตามธรรมชาติ แต่ในสังคมปัจจุบันมีกฎเกณฑ์และบรรทัดฐานที่ต้องควบคุมพฤติกรรมเหล่านั้น การแสดงออกของความโกรธจึงมีหลายวิธี:


4. เทคนิคการจัดการกับความโกรธ (Anger Management)

เป้าหมายของการจัดการความโกรธคือการเรียนรู้วิธีควบคุมอารมณ์และตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างสร้างสรรค์ โดยสามารถทำได้ดังนี้:

ทำไมบางคนถึงโกรธมากกว่าคนอื่น ๆ ?

นักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการความโกรธกล่าวว่า คนบางคน "หัวร้อน" มากกว่าคนอื่นๆ พวกเขาโกรธง่าย แสดงออกและรุนแรงกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ไม่แสดงความโกรธด้วยวิธีการก้าวร้าว แต่มักจะหงุดหงิดและไม่พอใจอยู่เสมอ คนโกรธง่ายมักไม่ด่าและโยนของ บางครั้งพวกเขาปลีกตัวออกจากสังคม บูดบึ้ง หรือเจ็บป่วยทางร่างกาย

คนที่โกรธง่ายมักจะมีลักษณะที่นักจิตวิทยาบางคนเรียกว่ามีความอดทนต่อความคับข้องใจต่ำ หมายความว่าพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาไม่ควรต้องอยู่ภายใต้ความคับข้องใจ ความไม่สะดวก หรือความรำคาญ พวกเขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ และพวกเขาจะโกรธมากเป็นพิเศษหากสถานการณ์ดูไม่ยุติธรรม เช่น ถูกแก้ไขเพราะความผิดพลาดเล็กน้อย

ทำไมบางคนจึงโกรธง่าย

มีงานวิจัยที่สนับสนุนว่าความโกรธมีความสัมพันธ์กับลักษณะนิสัยใจคอ สิ่งที่ทำจนเป็นนิสัย รวมไปถึงทัศนคติ รวมไปถึงปัจจัยเหล่านี้ก็เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้คนเรากลายเป็นคนที่แสดงความโกรธออกมารุนแรงมากกว่าคนอื่น ได้แก่

ดีไหมที่จะไม่ควบคุมอาการโกรธ

การวิจัยพบว่าการไม่ควบคุมการโกรธ และปล่อยให้มันเกิด แท้จริงแล้วเป็นการเพิ่มความโกรธและความก้าวร้าว และไม่ได้ช่วยอะไรคุณ แก้ไขสถานการณ์

วิธีที่ดีที่สุดคือการหาว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นความโกรธของคุณ จากนั้นพัฒนากลยุทธ์เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งกระตุ้นเหล่านั้นทำให้คุณรู้สึกแย

 

5. เมื่อไรที่ควรพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา?

หากคุณรู้สึกว่าความโกรธของคุณควบคุมไม่ได้ และเริ่มส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์, การทำงาน, หรือชีวิตโดยรวมอย่างรุนแรง นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณควรขอคำปรึกษาจากนักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อเรียนรู้เทคนิคการจัดการความโกรธที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

 

ความเครียด

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

เพิ่มเพื่อน