การป้องกันโรคอัลไซเมอร์



จากการศึกษาทางระบาดวิทยา กิจกรรมที่ใช้ทักษะทางสติปัญญาเช่นเล่นหมากรุก หรือปฏิสัมพันธ์ทางสังคมพบว่าช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ แม้จะไม่พบความสัมพันธ์เชิงเหตุผลก็ตาม

การศึกษาจากทั่วโลกเพื่อวัดการป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์มักให้ผลการศึกษาที่ขัดแย้งกัน ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดสนับสนุนว่ามีวิธีใดที่ป้องกันโรคอัลไซเมอร์อย่างมีประสิทธิผล อย่างไรก็ตามการศึกษาทางระบาดวิทยาหลายชิ้นแสดงความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆ อาทิอาหาร โรคหลอดเลือดหัวใจ ยา หรือกิจกรรมที่ใช้ทักษะทางสติปัญญา กับการลดความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่ยังจำเป็นต้องมีงานวิจัยต่อไปเพิ่มเติมเพื่ออธิบายบทบาทว่าปัจจัยเหล่านี้ลดอัตราการเกิดของโรคนี้ได้อย่างไร

ส่วนประกอบของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ได้แก่ ผักและผลไม้ ขนมปัง ข้าวสาลีและธัญพืชต่างๆน้ำมันมะกอกปลา และไวน์แดง ทั้งหมดสามารถลดความเสี่ยงและช่วงเวลาการเป็นโรคอัลไซเมอร์

  • รับประทานอาหาร organic หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านขบวนการผลิตเนื่องจากมีสารที่เป็นอันตรายต่อสมอง เช่น น้ำตาล น้ำตาลผลไม้ (แนะนำอย่ารับประทานเกินวันละ 25 กรัม) ยาฆ่าแมลง DDT รับประทานเนื้อ นม ที่เลี้ยงด้วยหญ้า
  • ทดแทนน้ำตาลด้วยไขมันที่มีคุณภาพ เช่น อะโวคาโด เนยที่ทำจากนมวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้า น้ำมันมะพร้าว ถั่วต่างๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มี gluten(พบมากในแป้งสาลี) และ casein (พบมากใน นม pasteurized) gluten จะกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เกิดการอักเสบและภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง
  • รักษาสมดุลของเชื้อในลำไส้ โดยการหลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านขบวนการผลิต หลีกเลี่ยงน้ำตาล อาหารผ่านการปรับแต่พันธุกรรม ยาปฏิชีวนะน้ำที่มีคลอรีน และรับ probiotic

วิธีการอื่นที่ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม

  • ให้อดอาหารเป็นระยะ เนื่องจากเมื่อร่างกายขาดอาหารร่างกายใช้ Ketones มาให้พลังงานแทนซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์
  • รับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกสูงได้แก่ ผักและผลไม้ และควรจะรับประทานผักสดมากกว่าสุข
  • ให้รับวิตามินดีให้เพียงพอ อาจจะโดยการรับประทานหรือการอาบแดด วิตามินดี จะลดการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์
  • หลีกเลี่ยงสารปรอท วัสดุที่ใช้อุดฟันจะมีสารปรอทประมาณร้อยละ50 ให้ปรึกษาทันฑแพทย์เกี่ยวกับวัสดุที่ใช้อุดฟัน
  • ลดการใช้สารที่มีอลูมิเนียม อลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญ ในยาดับกลิ่นกาย และวัคซีน
  • ลดการใช้ยา นอนหลับ ยาต้านโรคซึมเศร้า ยาลดไขมันกลุ่ม Statin
  • วิตามินหลายชนิดเช่น วิตามินบี12 วิตามินบี3 วิตามินซี หรือกรดโฟลิก ในบางงานวิจัยพบว่าช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ แต่ในบางการศึกษากล่าวว่าไม่พบผลของวิตามินต่อการเกิด หรือการดำเนินโรคอย่างมีนัยสำคัญ ซ้ำยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่สำคัญ 
  • สารเคอร์คิวมิน (curcumin) จากขมิ้นพบว่ามีประสิทธิผลบ้างในการป้องกันการทำลายสมองในหนูทดลอง

แม้ว่าปัจจัยเสี่ยงด้านโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น ภาวะเลือดมีคอเลสเทอรอลมาก ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และการสูบบุหรี่ จะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อการเกิด และระยะเวลาการดำเนินโรคอัลไซเมอร์ หรือช่วยทำให้การดำเนินโรคอัลไซเมอร์ดีขึ้น

  • อย่างไรก็ตามการใช้ยากลุ่มยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตรอยด์ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน ไอบูโปรเฟน ช่วยลดความเสี่ยงจะเป็นโรคอัลไซเมอร์ในบางคน
  • กิจกรรมที่ใช้ทักษะทางสติปัญญาเช่นอ่านหนังสือ เล่นหมากกระดาน เล่นปริศนาอักษรไขว้ เล่นดนตรี หรือมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมช่วยชะลอการเกิดหรือลดความรุนแรงของโรคอัลไซเมอร์ การพูดได้สองภาษาสามารถชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์เช่นกัน

สรุปว่าไม่มีหลักฐานอันสอดคล้องกันหรือเชื่อได้ว่าแปะก๊วยให้ผลในการป้องกันความบกพร่องของการรู้ และการศึกษาล่าสุดสรุปว่าแปะก๊วยไม่มีผลในการลดอัตราอุบัติการณ์ของโรคอัลไซเมอร์

อาหารจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ Alzheimer

จากการวิจัยพบว่าอาหารจะมีส่วนสำคัญของการเกิดโรคอัลไซเมอร์โดยเฉพาะอาหารที่ผ่านขบวนการผลิต ซึ่งจะมีไขมันที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเป็นจำนวนมากและมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพลดลง และอาหารยังอุดมไปด้วยอาหารจำพวกแป้ง ปัจจัยเหล่านี้จะเสริมกันทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์

ผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์

ภาวะดื้อต่ออินซูลินจะเป็นความเสี่ยงของเกิดโรคหลอดเลือดแข็งซึ่งภาวะดังกล่าวจะพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและโรคอัลไซเมอร์ เชื่อว่า ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่ดื่มสุรา เบาหวาน ผู้ที่น้ำตาลในเลือดสูง และอ้วนจะเป็นความเสี่ยงร่วมของการเกิดโรคทั้งสอง

น้ำตาลในเลือดสูงจะสัมพันธ์กับการเกิดโรคอัลไซเมอร์

มีการศึกษาตีพิมพ์ปี2013 พบว่าน้ำตาลสูงจะมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอัลไซเมอร์น้ำตาลที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 70-85 โดยไม่ควรเกิด 95 มก%

การออกกำลังกายทำให้โรคอัลไซเมอร์ดีขึ้น

มีการรายงานว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะป้องกันสมองจากโรคสมองเสื่อและอัลไซเมอร์

  • ผู้ป่วยที่เริ่มเป็นโรคนี้หากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะพบว่าเรื่องความจำและอารมณ์ดีขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ออกกำลัง
  • พบว่าการออกกำลังแบบ aerobic สัปดาห์ละ 4 ครั้งติดต่อกันหกเดือนพบว่าระดับ tau tangles (สารที่บ่งถึงโรคอัลไซเมอร์) ลดลงในกลุ่มที่ออกกำลังกาย
  • การออกกำลังกายทำให้ขบวนการเรียนรู้ การตัดสินใจ ดีขึ้น

การนอนหลับสนิทและพอเพียงจะช่วยป้องกันโรคได้

สมองของคนเราจะขับของเสียรวมทั้งproteins amyloid-beta ในช่วงที่หลับสนิทเซลล์สมองจะลดขนาดลงทำให้เกิดการขับของเสียดีขึ้นดังนั้นจึงต้องหลับสนิทอย่างเพียงพอ

  • เด็กวัยเรียนควรจะได้นอนวันละ 10-13 ชั่วโมง
  • ผู้ที่มีอายุ118-64 ปีควรจะนอนวันละ7-9 ชั่วโมง
  • ผู้ที่อายุมากกว่า 65 ปีนอนวันละ7-8 ชั่วโมง

 

การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์  

สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ ระยะความรุนแรงของโรค พฤติกรรมของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ การวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ ยารักษาความจำเสื่อม การป้องโรคอัลไซเมอร์ ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ปัญหารการนอนหลับ การรักษาโรคอัลไซเมอร์ อาการของโรคอัลไซเมอร์