siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

ไข้ทัยฟอยด์ และไข้พาราทัยฟอยด์(Typhoid fever and Paratyphoid fever)

ลักษณะโรค

เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียทั่วร่างกายโดยมีอาการไข้ลอย ปวดศีรษะอ่อนเพลียเบื่ออาหาร ไอแห้งๆพบอาการท้องผูกในผู้ใหญ่มากกว่าท้องร่วง อาการแสดงได้แก่หัวใจเต้นช้า ม้ามโต มีผื่นดอกกุหลาบ (rose spots)นอกจากนี้ี้ ยังมีผลต่อเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลือง พบการติดเชื้ออย่างอ่อนๆหรือการติดเชื้อแบบ atypical ได้บ่อย

ในผู้ป่วยไข้ทัยฟอยด์แผลในลำไส้เล็ก (ulcerationofPeyer's patches) ทำให้เกิดเลือดออกในลำไส้ หรือลำไส้ทะลุได้(พบได้ประมาณ1 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วย) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะหลังของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษามีอาการไข้ไม่มีเหงื่อ และประสาทเฉื่อยชา อาจจะสูญเสียความรู้สึกของการได้ยินบ้างเล็กน้อย และอาจมีการอักเสบของต่อมพาโรติด (parotid gland)อัตราป่วยตายตามปกติ 10 เปอร์เซ็นต์อาจจะลดเหลือต่ำกว่า1เปอร์เซ็นต์ ถ้าได้รับการรักษาด้วยยาต้านจุลชีพทันท่วงทีการกลับเป็นโรคใหม่พบประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาและในกลุ่มที่ได้รับยาต้านจุลชีพจะยิ่งพบได้สูงขึ้นถึง 15-20 เปอร์เซ็นต์ส่วนที่มีอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่ปรากฎอาการนั้น พบได้ในพื้นที่ที่เกิดโรคเป็นประจำ

ไข้พาราทัยฟอยด์มีอาการคล้ายคลึงกันเพียงแต่อาการไม่รุนแรงเท่าทัยฟอยด์แ ละมีอัตราป่วยตายต่ำกว่ามาก การกลับเป็นโรคใหม่อาจพบได้ประมาณ 3-4 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยถ้าเมื่อใดไม่ใช่เป็นการติดเชื้อซัลโมเนลล่าทั่วร่างกาย อาการที่แสดงจะมีเพียงกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบเท่านั้น

เชื้อสาเหตุสามารถแยกได้จากเลือดปัสสาวะ และอุจจาระหลังจากสัปดาห์แรกผ่านไป ในคนไข้ที่ได้กินยาปฏิชีวนะไปแล้วยังพอจะแยกเชื้อได้จากไขกระดูก ผลการตรวจ antibody ด้วยวิธีagglutinationในระหว่างสัปดาห์ที่สอง ใน pair sera ของผู้ป่วยพบว่าครั้งหลังสูงกว่าครั้งแรกเกินกว่า4 เท่าขึ้นไปซึ่งจะพบได้น้อยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยไข้ทัยฟอยด์ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมาก่อนแต่การตรวจสอบนี้มีขีดจำกัดด้านความไวจึงไม่ช่วยในการวินิจฉัยมากนัก

เชื้อก่อโรค :

ไข้ทัยฟอยด์เกิดจากเชื้อ Salmonellatyphiที่เป็นแบคทีเรียชนิดแท่งสามารถแยกออกได้เป็น 106 types โดยวิธี phage typingซึ่งมีประโยชน์ต่อการศึกษาระบาดวิทยาของโรค

ไข้พาราทัยฟอยด์เกิดจากเชื้อ3serotypesดังนี้(1) SalmonellaparatyphiA, (2) S. paratyphi B (S. schottm?lleri)และ(3) S. paratyphi C (S. hirschfeldii) และสามารถแยกเป็น phage types ต่าง ๆ ได้อีก

การเกิดโรค

พบได้ทั่วโลก ในสหรัฐอเมริกานั้น พบผู้ป่วยไข้ทัยฟอยด์ได้ประปรายด้วยจำนวนที่ใกล้เคียงกันโดยน้อยกว่า 500 รายต่อปี มาเป็นเวลาหลายปี(เมื่อเปรียบเทียบกับปี ค.ศ.1950ที่มี

ผู้ป่วยถึง 2,484 ราย) เนื่องมาจากการปรับปรุงทางด้านสุขาภิบาล ทำให้โรคนี้ถูกกำจัดออกไปจากพื้นที่ในหลาย ๆ แห่งดังนั้น ผู้ป่วยที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้จึงเป็นผู้ป่วยที่นำเข้ามาจากพื้นที่ที่พบโรคเป็นประจำ

มีรายงานพบหลายสายพันธุ์ที่ดื้อยาปฏิชีวนะหลายชนิด (multi-resistant) เกิดขึ้นในทวีปเอเซีย ตะวันออกกลางและลาตินอเมริกา

ไข้พาราทัยฟอยด์ พบเกิดขึ้นประปรายหรือเกิดระบาดในวงจำกัด บางทีอาจจะมีผู้ป่วยมากกว่าที่พบในรายงานก็ได้ ในการจำแนกเชื้อพาราทัยฟอยด์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดานั้นพบได้บ้างนานๆ ครั้งและที่พบได้บ่อย คือ paratyphoid B ส่วน A พบได้น้อยกว่า สำหรับC นั้น พบได้น้อยมาก

แหล่งรังโรค

วิธีการแพร่เชื้อ

ระยะฟักตัว

ขึ้นอยู่กับจำนวนของเชื้อที่ได้รับตามปกติมีช่วงอยู่ระหว่าง 1-3สัปดาห์แต่สำหรับไข้พาราทัยฟอยด์ที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ใช้เวลา 1-10 วัน

ระยะติดต่อของโรค

พบเชื้อได้ตลอดเวลาที่มีเชื้อออกมากับสิ่งขับถ่ายตามปกติตั้งแต่สัปดาห์แรกจนถึงฟื้นไข้หลังจากนั้นก็แตกต่างกันไป (ตามปกติ 1-2 สัปดาห์สำหรับไข้พาราทัยฟอยด์)ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของคนไข้ทัยฟอยด์ที่ไม่ได้รับการรักษาจะปล่อยเชื้อแบคทีเรียเป็นเวลา 3 เดือน หลังจากที่มีอาการ และ 2-5 เปอร์เซ็นต์ ที่กลายเป็นพาหะถาวรในบางคนที่ได้รับเชื้อพาราทัยฟอยด์อาจกลับกลายเป็นพาหะที่ถุงน้ำดีได้ตลอดไป

ความไวและความต้านทานต่อการรับเชื้อ

คนทั่วไปมีความไวต่อเชื้อนี้ และจะรับเชื้อได้ง่ายในคนที่ไม่มีกรดในกระเพาะอาหาร (gastric achlorhydria) ภูมิต้านทานที่ค่อนข้างเฉพาะเกิดขึ้นหลังจากที่มีอาการของโรค หรือการติดเชื้อแบบไม่ปรากฎอาการหรือภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน แต่ไม่เพียงพอที่จะป้องกันโรคได้ในกรณีที่กินเชื้อเข้าไปเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่ที่มีโรคเป็นประจำพบว่า ไข้ทัยฟอยด์มักจะเป็นกับเด็กก่อนวัยเรียนเรียนและเด็กวัยเรียน

โรคไทฟอยด์ วิธีการควบคุม