แคลอรี่ (Calorie) การนับแคลอรี่ แคลอรี่กับความอ้วน ??

แคลอรี่ หรือ แคลอรี (calorie) คือ หน่วยในการวัดพลังงานในอาหารหรือเครื่องดื่มที่มักจะพบในฉลากอาหาร สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจะต้องรู้ถึงปริมาณแคลอรี่ที่เรารับประทานเพื่อที่จะคุมน้ำหนัก

สรุป แคลอรี่ (cal) คือ หน่วยวัดพลังงานเมื่อพูดถึงพลังงานที่ได้จากอาหาร เราจะเรียกว่า Calorie แทนการใช้คำว่าพลังงาน( Energy) โดยจะเขียนแคลอรี่ที่ได้จากอาหารนี้ด้วย C ตัวใหญ่ โดย 1 Calorie (พลังงานที่ได้จากอาหาร) จะมีค่าเท่ากับ 1,000 standard calories ซึ่งมีค่าเท่ากับ 1 kcal สรุปก็คือ 1,000 cal = 1 Cal = 1 kcal

ปริมาณพลังงานในสารอาหาร

สารอาหารที่ให้พลังงาน คือ อาหารจำพวกโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน

โปรตีน จะให้พลังงาน 4 แคลอรี่ต่อกรัม
คาร์โบไฮเดรต จะให้พลังงาน 4 แคลอรี่ต่อกรัม
ไขมัน จะให้พลังงานสูงสุดคือ 9 แคลอรี่ต่อกรัม

จะเห็นได้ว่าหากเรารับปริมาณอาหารเท่ากันไขมันจะให้พลังงานมากที่สุด

วันหนึ่งเราควรได้แคลอรี่เท่าไร

โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงต้องการอาหารที่ให้พลังงานประมาณ 2000 calories ต่อวัน หากต้องการลดน้ำหนักจะต้องได้รับอาหารที่พลังงานไม่เกิน 1500 calories ต่อวัน ส่วนผู้ชายต้องการอาหารที่ให้พลังงาน 2500 calories ต่อวันหากต้องการลดน้ำหนักจะต้องได้รับอาหารที่พลังงานไม่เกิน 2000 calories ต่อวัน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับอายุ ส่วนสูง กิจวัตรประจำวัน

วิธีความนวนแคลรอลี่อ่านที่นี่

การลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร

หากเราได้รับอาหารที่มีพลังงานเกินน้ำหนักเราก็จะขึ้น หลายคนลดน้ำหนักโดยการอดอาหารซึ่งก็อาจจะได้ผลระยะหนึ่ง แต่ในที่สุดทนความหิวไม่ได้จึงกลับมารับประทานอาหารเหมือนเดิม ดังนั้นการลดน้ำหนักที่ดีจึงไม่ใช่การอดอาหาร

มีวิธีการที่จะลดน้ำหนักดังนี้

รับประทานอาหารโปรตีนเพิ่มขึ้น อาหารโปรตีนเป็นสารอาหารที่แนะนำสำหรับผู้ที่จะลดน้ำหนักจะลดความอยากอาหารลงได้ร้อยละ 60 และเพิ่มการเผาพลาญพลังงานพบว่า

เมื่อรับประทานโปรมากจะช่วยเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นวันละ 80-100 แคลอรี่ี่
เมื่อรับประทานโปรตีนร้อยละ30ของพลังงานที่ได้รับจะทำให้การรับประทานอาหารมีพลังงานลดลงประมาณ 441 แคลอรี่ี่
โปรช่วยลดความอยากอาหารลงได้ร้อยละ60

หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เป็นต้น จากการศึกษาพบว่าผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วยร้อยละ60
ให้ดื่มน้ำให้มาก การดื่มน้ำมากจะช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงาน พบว่าหากเราดื่มน้ำวันละ 8 แก้วจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญ 96 แคลอรี่ี่ โดยเฉพาะการดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหารจะช่วยเราลดการรับประทานอาหาร กาแฟ หรือชาก็สามารถเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
ให้ออกกำลังกายโดยการเดิน วิ่ง หรือว่ายน้ำ และออกกำลังกายโดยการยกน้ำหนัก ซิตอัฟ การออกกำลังกายจะเพิ่มการเผาผลาญทำให้มีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ขณะที่การยกน้ำหนักจะเป็นการเพิ่มกล้ามเนื้อ
ลดอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรท พบว่าการลดอาหารพวกแป้งจะทำให้ลดปริมาณการรับประทานอาหาร และยังลดการเกิดโรคเบาหวาน