siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

Amoxicillin: ข้อมูลยาและการใช้งานที่ครอบคลุม

 

Amoxicillin คืออะไร

Amoxicillin (อะม็อกซิซิลลิน) เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเพนิซิลลิน (Penicillin) ที่ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์ผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ทำให้เชื้อตาย ช่วยกำจัดเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ มีชื่อทางการค้าว่า Amoxil และมีทั้งรูปแบบยาเม็ด (250 มก., 500 มก., 875 มก.), แคปซูล, ยาน้ำแขวนตะกอน (125 มก./5 มล., 250 มก./5 มล.), และยาฉีด



ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา Amoxicillin

Amoxicillin ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ไวต่อยานี้ในหลายระบบของร่างกาย ดังนี้

ข้อควรทราบ: ไม่ควรใช้ Amoxicillin รักษาการติดเชื้อหนองในในพื้นที่ที่มีการดื้อยาสูง เนื่องจากเชื้ออาจดื้อต่อยาในกลุ่มนี้

 

ขนาดและวิธีการใช้ยา Amoxicillin

ขนาดยาขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนัก และความรุนแรงของการติดเชื้อ ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยทั่วไปมีขนาดยาดังนี้

การใช้งาน รูปแบบยา ขนาดยา ความถี่ ระยะเวลา
ผู้ใหญ่ (การติดเชื้อไม่รุนแรง) ยาเม็ด/แคปซูล 250 มก. ทุก 8 ชม. (วันละ 3 ครั้ง) 7-10 วัน
ผู้ใหญ่ (การติดเชื้อไม่รุนแรง) ยาเม็ด/แคปซูล 500 มก. ทุก 12 ชม. (วันละ 2 ครั้ง) 7-10 วัน
ผู้ใหญ่ (การติดเชื้อรุนแรง) ยาเม็ด/แคปซูล 500 มก. ทุก 8 ชม. (วันละ 3 ครั้ง) 10-14 วัน
ผู้ใหญ่ (การติดเชื้อรุนแรง) ยาเม็ด/แคปซูล 875 มก. ทุก 12 ชม. (วันละ 2 ครั้ง) 10-14 วัน
เด็ก (อายุ >3 เดือน) ยาน้ำ 20-40 มก./กก./วัน แบ่งให้ทุก 8 ชม. 7-14 วัน
Helicobacter pylori (ผู้ใหญ่) ยาเม็ด/แคปซูล 1 กรัม (Amoxicillin) + 500 มก.(Clarithromycin) + 30 มก. (Lansoprazole) ทุก 12 ชม. (วันละ 2 ครั้ง) 14 วัน

คำแนะนำการใช้

ผลข้างเคียงของ Amoxicillin

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยานี้มีดังนี้

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย

ผลข้างเคียงรุนแรง (หยุดยาและพบแพทย์ทันที)

 

หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ให้หยุดยาและพบแพทย์

ข้อควรระวังและสิ่งที่ควรแจ้งแพทย์

ก่อนใช้ยานี้ควรระวังและแจ้งข้อมูลต่อไปนี้ให้แพทย์ทราบ

ปฏิกิริยาตอยาอื่น

ยานี้อาจมีปฏิกิริยากับยาต่อไปนี้

ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างยา

วิธีเก็บรักษา

การเก็บรักษายาควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

สรุป

Amoxicillin เป็นยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในหลายระบบของร่างกาย เช่น ทางเดินหายใจ ผิวหนัง ทางเดินปัสสาวะ และ H. pylori ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์และครบตามกำหนด หากมีอาการรุนแรง เช่น อาการแพ้รุนแรง ท้องร่วงรุนแรง หรือตับอักเสบ ควรรีบพบแพทย์ทันที ข้อมูลนี้ไม่สามารถแทนคำแนะนำจากแพทย์ได้

เผยแพร่เมื่อ:

โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

เพิ่มเพื่อน