ปูพรมสกัดหวัดนกลาม ก.เกษตรออกประกาศฉบับใหม่สั่งห้ามเลี้ยงสัตว์ปีกในรัศมี 10


ผู้จัดการรายวัน - ปูพรมสกัดหวัดนกลาม ก.เกษตรออกประกาศฉบับใหม่สั่งห้ามเลี้ยงสัตว์ปีกในรัศมี 10 กม.เป็นเวลา 90 วันในทุกพื้นที่ที่พบเชื้อ เจอเป็ดไล่ทุ่งติดหวัดนกฆ่าทิ้งทั้งฝูงทันที พร้อมขีดเส้นตาย ต้องเข้าระบบฟาร์มก่อนสิ้นปี "สุดารัตน์" ตั้งด่านสกัดคุมการเคลื่อนย้ายวันนี้ทั่วประเทศ "ทักษิณ" สั่ง สธ. ศึกษาวัคซีนไก่ และเตรียมจัดเวิร์กชอปใหญ่ ด้านแพทย์ศิริราชยังไม่ให้ "น้องเอ" กลับบ้าน ขอตรวจอีกรอบเพื่อความมั่นใจ

 น.พ.สุรพงษ์ สืบวงลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการปรชุม ครม.ว่า ก่อนวาระการประชุม ครม.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาหวัดนก ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งพบว่าสถานการณ์ไข้หวัดนกในสัตว์ปีกมีพื้นที่ที่พบเชื้อและอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังที่ยังไม่ครบ 21 วัน ณ วันที่ 24 ต.ค.48 รวมท 5 จังหวัด 10 อำเภอ 17 จุด ประกอบด้วย สุพรรณบุรี 1 จุด 1 อำเภอ กาญจนบุรี 4 จุด 2 อำเภอ นครปฐม 4 จุด 2 อำเภอ กำแพงเพชร 6 จุด 3 อำเภอ และนนทบุรี 2 จุด 2 อำเภอ       สำหรับการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนกขณะนี้ ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเข้มงวด ในการควบคุมเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก และซากสัตว์ปีกให้มีการเอ็กซเรย์ในพื้นที่เสี่ยงทั้ง 21 จังหวัด โดยให้มีการทำลายเชื้อโรคด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น ยังออกประกาศ 2 ฉบับเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การนำสัตว์ปีก เข้าเลี้ยงในพื้นที่ที่พบเชื้อโรคไข้หวัดนก และมีการเข้มงวดมาตรการควบคุมและป้องกันโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีก เช่น ห้ามนำสัตว์ปีกเข้าเลี้ยงภายในรัศมี 10 กม. รอบจุดเกิดโรคไข้หวัดนกเป็นระยะเวลา 90 วัน นับจากวันที่ทำลายสัตว์ปีกครั้งสุดท้าย และให้ทำลายเชื้อโรคด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์

รวมทั้งให้เฝ้าระวังเชิงรุกและเชิงรับตามโครงการรณรงค์ค้นหาไข้หวัดนกในสัตว์ปีกแบบบูรณาการตั้งแต่วันที่ 1ต.ค. ถึง 31 ธ.ค.2548 ในพื้นที่ 21 จังหวัด คือสุพรรณบุรี ชัยนาท สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี อ่างทอง ปทุมธานี สิงห์บุรี นครนายก นนทบุรี กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย อุทัยธานี ตราด นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสาคร ทั้งนี้ ให้มีการรายงานสัตว์ปีกป่วยตายทุกวัน และให้ทำลายเชื้อโรคด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ดังกล่าวทุก 2 สัปดาห์จนกระทั่งถึง 31 ธ.ค.48

ส่วนพื้นที่ที่พบเชื้อโรคไข้หวัดนกให้ทำลายเชื้อโรคทุกๆ สัปดาห์อย่างน้อย 3 ครั้ง พร้อมทั้งเข้มงวดในการควบคุมเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก หรือซากสัตว์ปีก หากพบการฝ่าฝืน หรือพบการกระทำความผิดตามกฎหมายก็จะดำเนินคดี และยึดสัตว์ทำลาย โดยห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกและซากสัตว์ปีกในพื้นที่รัศมี 10 กม. รอบจุดพบโรคเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน

น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การป้องกันโรคไข้หวัดนกในเป็ดไล่ทุ่งให้มีการสุ่มตรวจ ทุกฝูงในทุก 2 สัปดาห์ หากพบเชื้อให้ดำเนินการทำลายทั้งฝูงทันที ทั้งนี้ให้เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งห่างจากสัตว์ปีกชนิดอื่นและชุมชน และต้องผลักดันเข้าสู่ระบบโรงเรือนหรือฟาร์มให้ได้ภาคในวันที่ 31 ธ.ค.นี้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังให้มีการจัดประชุมระดมความเห็นเพื่อหาแนวทาง ในการป้องกันโรคไข้หวัดนกอย่างยั่งยืนโดยเน้นนโยบายรับฟังความเห็นจาก ภายนอกให้มาก โดยขอให้นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมการจัดประชุมระดมความเห็นดังกล่าว โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเอง ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยฝ่ายวิชาการ จากทั้งในประเทศ และองค์กรต่างประเทศ รวมถึงตัวแทนผู้เลี้ยงสัตว์ปีกด้วย

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้พูดถึงเรื่องวัคซีนสัตว์ปีก โดยกำชับให้กระทรวงสาธารณสุขไปศึกษาว่าสามารถทำได้หรือไม่ และเป็นไปได้หรือไม่ เพราะมีความเป็นห่วง ซึ่งประเด็นนี้ในกลุ่มประเทศอียูที่ไทยส่งออกไก่ในหลายประเทศมีความกังวลและไม่สนับสนุนให้ฉีดวัคซีนในสัตว์ปีก เพราะห่วงเรื่องสารตกค้าง จึงได้มอบให้นายพินิจ ไปดูแลเรื่องนี้ และกำชับให้กระทรวงเกษตรฯ ดูแลการทำงาน ของปศุสัตว์จังหวัดอย่างเข้มงวดและบูรณาการหลายๆ ฝ่าย ซึ่งเรื่องของวัคซีนสัตว์ปีก รมว.สธ.ชี้แจงว่าสามารถที่จะทำได้ แต่การใช้วัคซีนต้องมีวินัย ต้องตรวจให้ละเอียด ถ้านำวัคซีนไปฉีดในไก่ที่มีเชื้ออยู่แล้วจะกลายเป็นว่าไก่ตัวนั้นจะสามารถอยู่ได้ และสามารถแพร่ระบาดต่อไปอีกได้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องพิจารณาให้ดี

สำหรับเรื่องเป็ดไล่ทุ่งนั้น รมว.มหาดไทยอยากให้ยกเลิกภายในเดือน ธ.ค.นี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงว่าการยกเลิกอาจจะกระทบต่อวิถีชีวิตของเกษตรกรที่ทำกันมารุ่นปู่ย่า ตายาย ดังนั้นควรจะเชิญทุกฝ่ายมาคุยกัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกร ที่เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง ที่สำคัญควรจะรักษาวิถีชีวิตเหล่านี้ให้มากที่สุด โดยที่นานาชาติรับได้

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ แถลงภายหลังการประชุมแก้ไขปัญหาไข้หวัดนก ซึ่งนายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ออกประกาศควบคุมการย้ายสัตว์ปีกทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเห็นชอบที่จะประสานผู้ว่าราชการจังหวัดและตำรวจตั้งด่านสกัดสัตว์ปีกที่เคลื่อนย้ายโดยไม่มีใบอนุญาต หากพบมีการลักลอบ สัตว์ที่เคลื่อนย้ายจะถูกยึดทำลาย ส่วนเจ้าของจะถูกดำเนินคดี มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท โดยจะเริ่มตั้งด่านตั้งแต่วันนี้(26 ต.ค.) เป็นต้นไป

สำหรับ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มไก่ชน มีโรงเลี้ยงที่ปลอดภัยจากเชื้อ 2.เป็ดไล่ทุ่งรัฐบาลจะเข้าไปช่วยทำโรงเลี้ยงจากเดิมที่ปล่อยให้เลี้ยงเอง 3.ไก่พื้นเมือง กระทรวงเกษตรฯ จะเข้าไปทำโรงเลี้ยงกลางให้ชาวบ้านมาร่วมกันเลี้ยงและดำเนินตามวัตถุประสงค์เดิม คือไว้บริโภคและจำหน่ายในครัวเรือน และ 4.กลุ่มที่เลี้ยงสัตว์ปีกและสุกรปนกันจะต้องมีการกำหนดสัดส่วนและพื้นที่ระยะห่างระหว่างกันในการเลี้ยง รวมทั้งวางโครงสร้างการผลิตให้มีตลาดรองรับ

หลุดบัญชี 2 ลุ้นอีก 2 คน

น.พ.ไพจิตร์ วราชิต อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยผลการตรวจ เชื้อไข้หวัดนกของผู้ป่วยเฝ้าระวังไข้หวัดนกว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยเฝ้าระวังหวัดนก 4 ราย สำหรับนายทองปรน กล่อมปัญญา ที่ จ.นครปฐม และคนงานในฟาร์มไก่ที่ จ.สุรินทร์ ที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ผลตรวจไม่พบเชื้อหวัดนก

ขณะที่เด็กหญิงอายุ 4 ขวบ ที่ ต.ท่ามะขาม จ.กาญจนบุรี และเด็กชายอายุ 15 ปี อยู่ อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ขณะนี้ผลยังไม่ออกมา

นางยุพิน เบ็ญพาด มารดา ด.ช.รณฤทธิ์ เบ็ญพาด หรือน้องเอ อายุ 7 ขวบ ชาว อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ที่ติดเชื้อหวัดนกพร้อมนายบังอร เบ็ญพาด บิดาที่เสียชีวิต ไปก่อนหน้านี้ กล่าวว่า แพทย์ยังไม่ได้อนุญาตให้ลูกชายกลับบ้าน โดยในช่วงเช้า ได้มาตรวจร่างกาย และนำเสมหะไปตรวจอีกรอบ เพื่อดูว่ายังมีเชื้ออีกหรือไม่ สำหรับลูกชายนั้น ขณะนี้อาการปกติแล้ว ร่าเริง แจ่มใส และเล่นซุกซนเหมือนกับเด็กปกติทั่วไป และอยากกลับบ้าน

เพิ่มเพื่อน