siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ


Terbutaline: คู่มือการใช้ยาอย่างปลอดภัยและข้อมูลสำคัญสำหรับบรรเทาอาการหอบหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

วันที่เผยแพร่: 29 กรกฎาคม 2568, 21:27 น. ผู้เขียน: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ที่มา: SiamHealth.net

บทความนี้จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสำคัญเกี่ยวกับยา Terbutaline (เทอร์บูทาลีน) ซึ่งเป็นยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์สั้น (SABA) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อบรรเทาอาการหอบหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยานี้ สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และทราบถึงกลไกการออกฤทธิ์ ข้อบ่งใช้ และข้อควรระวังต่างๆ ที่สำคัญ การมีความรู้เกี่ยวกับยาที่คุณใช้จะช่วยให้คุณจัดการกับอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


1. Terbutaline คืออะไร?

Terbutaline (เทอร์บูทาลีน) เป็นยาในกลุ่ม ยาขยายหลอดลมกลุ่ม Beta-agonists ชนิดออกฤทธิ์สั้น (Short-Acting Beta-Agonists - SABA) เช่นเดียวกับ Salbutamol (Albuterol) ซึ่งใช้สำหรับบรรเทาอาการหอบหืดเฉียบพลัน และอาการหายใจลำบากอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาวะหลอดลมหดเกร็ง เช่น ในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ยานี้ออกฤทธิ์เร็วภายในไม่กี่นาที และมีระยะเวลาการออกฤทธิ์ประมาณ 4-6 ชั่วโมง ทำให้เป็นยาสำคัญที่ผู้ป่วยโรคหอบหืดต้องพกติดตัวไว้เสมอสำหรับบรรเทาอาการกำเริบฉุกเฉิน หรือใช้ก่อนการออกกำลังกายเพื่อป้องกันอาการ ชื่อทางการค้าที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ Bricanyl, Brethine เป็นต้น Terbutaline มีจำหน่ายหลายรูปแบบ เช่น ยาเม็ด, ยาน้ำเชื่อม, ยาสำหรับพ่นละอองฝอย, และยาฉีด


2. กลไกการออกฤทธิ์: Terbutaline ทำงานอย่างไร?

Terbutaline ออกฤทธิ์โดยการจับกับและกระตุ้นตัวรับ Beta-2 adrenergic receptors ซึ่งมีอยู่มากบนผิวของเซลล์กล้ามเนื้อเรียบที่ผนังหลอดลมเป็นหลัก เมื่อตัวรับ Beta-2 ถูกกระตุ้น จะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในเซลล์ที่นำไปสู่:


ยาขยายหลอดลม

3. Terbutaline ใช้รักษาโรคอะไร? (ข้อบ่งใช้ของการใช้ยา)

Terbutaline ใช้รักษาโรคระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก ดังนี้:


4. ขนาดและวิธีการใช้ยา

Terbutaline มีหลายรูปแบบและความเข้มข้นที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วยและรูปแบบยา:

ก. ยาเม็ดรับประทาน:

ข. ยาน้ำเชื่อม (Syrup):

ค. ยาสำหรับพ่นละอองฝอย (Nebulizer Solution):

ง. ยาฉีด (Subcutaneous/Intravenous):

วิธีการใช้ยา:

หมายเหตุ: ขนาดยาและรูปแบบการใช้จะถูกกำหนดโดยแพทย์ผู้รักษาตามสภาพอาการ อายุ และการตอบสนองของผู้ป่วย ห้ามปรับขนาดยาเองเด็ดขาด


5. สิ่งที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

การแจ้งข้อมูลสุขภาพของคุณอย่างครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ Terbutaline คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับ:


6. ข้อควรระวังในการใช้ยา

ควรใช้ Terbutaline ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยบางราย:


7. ระหว่างที่ใช้ยาจะต้องระวังอาการหรือการตรวจพิเศษอะไร?

อาการที่ต้องเฝ้าระวังและควรพบแพทย์ทันที:

การตรวจพิเศษ:


8. ปฏิกิริยาระหว่างยา: ใช้ร่วมกับยาอื่นได้หรือไม่?

Terbutaline สามารถทำปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ได้บางชนิด สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งรายการยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรทั้งหมดที่คุณกำลังใช้ให้แพทย์และเภสัชกรทราบเสมอ

ยาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ:


9. ผลข้างเคียงหรือไม่พึงประสงค์ของยา

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (มักเกิดจากการใช้ยาเกินขนาด หรือไวต่อยา):

ผลข้างเคียงที่พบน้อยแต่รุนแรง:

หากพบอาการรุนแรง หรืออาการที่น่ากังวล ควรรีบหยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที


10. วิธีลดหรือป้องกันผลข้างเคียงของยา


11. หากได้รับยาเกินขนาดต้องทำอย่างไร?

หากได้รับยา Terbutaline เกินขนาด อาจเกิดอาการรุนแรง เช่น ใจสั่นรุนแรง, หัวใจเต้นเร็วมาก, เจ็บหน้าอก, ความดันโลหิตสูงหรือต่ำผิดปกติ, มือสั่นมาก, วิตกกังวล, คลื่นไส้, เวียนศีรษะ, หรือมีภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ วิธีแก้ไข: ควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลหรือปรึกษาแพทย์ทันที การรักษาจะเน้นที่การดูแลประคับประคองและรักษาตามอาการเฉพาะหน้า


12. หากลืมใช้ยาต้องทำอย่างไร?


13. การเก็บรักษายา


14. ความปลอดภัยในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร


สรุป

Terbutaline เป็นยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์สั้น (SABA) ที่มีความสำคัญในการบรรเทาอาการหอบหืดเฉียบพลันและอาการทางเดินหายใจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลอดลมหดเกร็ง ด้วยกลไกการออกฤทธิ์ที่รวดเร็ว ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้นทันที อย่างไรก็ตาม การใช้ Terbutaline จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลและคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการใช้ยาในขนาดที่เหมาะสม การเรียนรู้วิธีการใช้ยาพ่นที่ถูกต้อง (หากใช้รูปแบบพ่น) และการเฝ้าระวังผลข้างเคียง จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุดจากยาและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โปรดจำไว้ว่าข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น และไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรได้ หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เสมอ

 

 

หอบหืด

โรคหอบหืด

โรคหอบหืดเป็นโรคที่เกิดจากภูมิแพ้จะมีอาการหอบ หรือเหนื่อยเมื่อสัมผัสสารภูมิแพ้ การรักษาต้องหลีกเลี่ยงและใช้ยาพ่นป้องกันอาการหอบหืด โรคหอบหืด


ปอดบวม

โรคปอดบวม

โรคปอดบวมเกิดจากปอดติดเชื้อโรคทำให้มีเซลล์เม็ดเลือดขาว และเชื้อโรคในปอด ผู้ป่วยจะมีอาการหอบเหนื่อย ไอมีเสมหะ ไข้สูง ปอดบวม


หลอดลมอักเสบ

โรคหลอดลมอักเสบ

โรคหลอดลมอักเสบเกิดจากเชื้อโรค ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม ผู้ป่วยจะมีไข้ ไอ แต่ไม่หอบมาก หลอดลมอักเสบ