```
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
บทความนี้จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและสำคัญเกี่ยวกับยา Bromhexine ซึ่งเป็นยาละลายเสมหะและยาขับเสมหะที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยานี้ สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย และทราบถึงข้อบ่งใช้และข้อควรระวังต่างๆ ที่สำคัญ การมีความรู้เกี่ยวกับยาที่คุณใช้จะช่วยให้คุณจัดการกับอาการไอมีเสมหะได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
Bromhexine (บรอมาซิน) เป็นยาในกลุ่ม ยาละลายเสมหะ (Mucolytic Agent) และ ยาขับเสมหะ (Expectorant) ที่ใช้สำหรับรักษาโรคระบบทางเดินหายใจที่มีอาการไอมีเสมหะเหนียวข้น ยานี้ช่วยลดความหนืดของเสมหะและเพิ่มการขับเสมหะออกจากทางเดินหายใจ ทำให้ผู้ป่วยไอเอาเสมหะออกมาได้ง่ายขึ้นและรู้สึกสบายขึ้น Bromhexine เป็นสารสังเคราะห์ที่มีโครงสร้างคล้ายกับสารที่พบในพืช Adhatoda vasica ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ใช้ในการรักษาอาการไอและโรคระบบทางเดินหายใจมานานแล้ว Bromhexine มีจำหน่ายหลายรูปแบบ เช่น ยาเม็ด, ยาน้ำเชื่อม, และยาสำหรับพ่น
Bromhexine ออกฤทธิ์หลักๆ ดังนี้:
ละลายเสมหะ (Mucolysis): Bromhexine ทำงานโดยตรงกับเซลล์ที่ผลิตเสมหะในทางเดินหายใจ โดยไปทำลายโครงสร้างของสายมิวโคโปรตีน (mucoproteins) และมิวโคโพลีแซคคาไรด์ (mucopolysaccharides) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้เสมหะเหนียวข้น การทำลายโครงสร้างนี้ทำให้เสมหะมีความหนืดลดลงและเหลวขึ้น
กระตุ้นการหลั่งสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจ: ยานี้ช่วยเพิ่มปริมาณของสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจ ทำให้เสมหะมีความชุ่มชื้นและเคลื่อนตัวได้ง่ายขึ้น
กระตุ้นการทำงานของขนอ่อน (Ciliary Activity): Bromhexine ช่วยกระตุ้นการทำงานของขนอ่อนเล็กๆ (cilia) ที่บุอยู่ในเยื่อบุทางเดินหายใจ ซึ่งทำหน้าที่พัดโบกเสมหะและสิ่งแปลกปลอมออกจากปอด การทำงานของขนอ่อนที่ดีขึ้นจะช่วยให้เสมหะถูกขับออกได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การทำงานร่วมกันของกลไกเหล่านี้ทำให้ Bromhexine มีประสิทธิภาพในการลดความเหนียวของเสมหะและช่วยให้ขับเสมหะออกจากทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น
Bromhexine ใช้สำหรับรักษาโรคระบบทางเดินหายใจทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง ที่มีอาการไอมีเสมหะเหนียวข้น หรือมีปัญหาในการขับเสมหะ:
โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลันและเรื้อรัง (Acute and Chronic Bronchitis):
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease - COPD):
โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema):
โรคหลอดลมโป่งพอง (Bronchiectasis):
โรคหอบหืดที่มีเสมหะข้นเหนียว (Asthma with tenacious sputum):
โรคปอดอักเสบ (Pneumonia):
ภาวะอื่นๆ ที่มีการสะสมของเสมหะเหนียวข้น: เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจ หรือหลังการผ่าตัด
Bromhexine มีหลายรูปแบบและขนาดที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วยและรูปแบบยา:
ก. รูปแบบยาเม็ด:
ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป: 8 มก. วันละ 3 ครั้ง
ข. รูปแบบยาน้ำเชื่อม (Syrup):
ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป: 10 มล. (8 มก.) วันละ 3 ครั้ง
เด็กอายุ 6-11 ปี: 5 มล. (4 มก.) วันละ 3 ครั้ง
เด็กอายุ 2-5 ปี: 2.5 มล. (2 มก.) วันละ 3 ครั้ง
เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี: 1.25 มล. (1 มก.) วันละ 3 ครั้ง (ตามคำแนะนำของแพทย์)
ค. รูปแบบยาฉีด (Intravenous - IV):
ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานยาได้ หรือในภาวะเฉียบพลันที่มีเสมหะเหนียวข้นมาก (บริหารโดยบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเท่านั้น)
วิธีการใช้ยา:
สามารถรับประทานยาพร้อมอาหารหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้
ดื่มน้ำให้เพียงพอในระหว่างวัน เพื่อช่วยให้เสมหะเหลวและขับออกได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเสริมประสิทธิภาพของยาละลายเสมหะ
หมายเหตุ: ขนาดยาและรูปแบบการใช้จะถูกกำหนดโดยแพทย์ผู้รักษาตามสภาพอาการ อายุ และการตอบสนองของผู้ป่วย ห้ามปรับขนาดยาเองเด็ดขาด
การแจ้งข้อมูลสุขภาพของคุณอย่างครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ Bromhexine คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับ:
ประวัติการแพ้ยา: เคยแพ้ยา Bromhexine หรือ Ambroxol (ซึ่งเป็นยาในกลุ่มเดียวกัน) หรือส่วนประกอบใดๆ ในยาหรือไม่
โรคประจำตัวอื่นๆ: โดยเฉพาะ
โรคแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ (Peptic Ulcer Disease): หรือมีประวัติเลือดออกในทางเดินอาหาร
โรคไตบกพร่องรุนแรง หรือตับบกพร่องรุนแรง:
โรคหอบหืด (Asthma): (แม้จะพบน้อยมากที่ Bromhexine กระตุ้นหลอดลมหดเกร็ง แต่ก็ควรแจ้ง)
การตั้งครรภ์ หรือกำลังวางแผนตั้งครรภ์:
การให้นมบุตร:
ยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรอื่นๆ ที่กำลังใช้: รวมถึงยาที่ซื้อเอง หรือยาที่ใช้เป็นครั้งคราว โดยเฉพาะยาแก้ไอ (Antitussives)
ควรใช้ Bromhexine ด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยบางราย:
ผู้ป่วยที่มีประวัติแผลในกระเพาะอาหาร หรือมีเลือดออกในทางเดินอาหาร: Bromhexine อาจกระตุ้นการหลั่งเมือกในกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจทำให้อาการแย่ลง
ผู้ป่วยที่มีภาวะไตบกพร่องรุนแรง หรือตับบกพร่องรุนแรง: ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง และแพทย์อาจพิจารณาปรับลดขนาดยา หรือเพิ่มระยะห่างของการให้ยา เนื่องจากยาและสารที่เกิดจากการเผาผลาญยาอาจสะสมในร่างกาย
ปฏิกิริยาแพ้ยาทางผิวหนังที่รุนแรง (Severe Cutaneous Adverse Reactions - SCARs): มีรายงานพบน้อยมากเกี่ยวกับปฏิกิริยาแพ้ยาทางผิวหนังที่รุนแรง เช่น Stevens-Johnson Syndrome (SJS) และ Toxic Epidermal Necrolysis (TEN) หากมีผื่นผิวหนัง, ตุ่มพอง, หรืออาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เกิดขึ้น ควรหยุดยาและไปพบแพทย์ทันที
การระคายเคืองทางเดินหายใจ (จากการพ่นยา): การพ่นยา Bromhexine อาจทำให้เกิดอาการไอ หรือระคายเคืองในลำคอ
อาการที่ต้องเฝ้าระวังและควรพบแพทย์ทันที:
ปฏิกิริยาแพ้ยาทางผิวหนังที่รุนแรง: เช่น ผื่นแดง, ตุ่มพอง, ผิวหนังลอก, มีไข้, ปวดตามตัว (แม้พบน้อยมาก แต่ต้องรีบแจ้งแพทย์)
อาการแพ้ยาอย่างรุนแรง: ผื่นลมพิษขึ้นทั่วตัว, บวมที่ใบหน้า ลิ้น หรือคอ, หายใจลำบาก (เป็นภาวะฉุกเฉิน)
หายใจลำบาก, หายใจมีเสียงหวีด (Wheezing), แน่นหน้าอก: (พบน้อยมากจาก Bromhexine)
อาการทางเดินอาหารที่รุนแรงผิดปกติ: ปวดท้องรุนแรง, อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำคล้ายยางมะตอย
โดยทั่วไป Bromhexine ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจพิเศษใดๆ ระหว่างการใช้ยาเป็นประจำ นอกจากการติดตามอาการทางคลินิกและการตอบสนองต่อการรักษา
Bromhexine โดยทั่วไปมีปฏิกิริยากับยาอื่นน้อยมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งรายการยา วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรทั้งหมดที่คุณกำลังใช้ให้แพทย์และเภสัชกรทราบเสมอ
ยาที่ควรระวังเป็นพิเศษ:
ยาแก้ไอ (Antitussives) หรือยาที่กดการไอ: เช่น Dextromethorphan, Codeine ไม่ควรใช้ร่วมกับ Bromhexine เนื่องจากยาแก้ไอจะไปกดการขับเสมหะออก ทำให้เสมหะสะสมมากขึ้น ซึ่งจะขัดขวางการทำงานของ Bromhexine และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้
ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics): Bromhexine อาจช่วยเพิ่มความเข้มข้นของยาปฏิชีวนะบางชนิด (เช่น Amoxicillin, Cefuroxime, Doxycycline, Erythromycin) ในหลอดลมได้เล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในการรักษาการติดเชื้อ
Bromhexine เป็นยาที่โดยทั่วไปมีผลข้างเคียงน้อยมากและมักไม่รุนแรง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยได้แก่:
ระบบทางเดินอาหาร: คลื่นไส้, อาเจียน, ท้องเสีย, ปวดท้อง, อาหารไม่ย่อย
ปวดศีรษะ
เวียนศีรษะ
ผื่นผิวหนัง (พบน้อย)
ผลข้างเคียงที่พบน้อยแต่รุนแรง:
ปฏิกิริยาแพ้ยาทางผิวหนังที่รุนแรง (เช่น Stevens-Johnson Syndrome, Toxic Epidermal Necrolysis)
ปฏิกิริยาการแพ้ยาอย่างรุนแรง (Anaphylaxis): ผื่นลมพิษทั่วตัว, หายใจลำบาก, บวม
หลอดลมหดเกร็ง (Bronchospasm): (พบน้อยมาก)
หากพบอาการรุนแรง หรืออาการที่น่ากังวล ควรรีบหยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที
รับประทานยาตามขนาดและเวลาที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด: ห้ามปรับขนาดยาเอง
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ในระหว่างวัน เพื่อช่วยให้เสมหะเหลวและขับออกได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเสริมการทำงานของยา
หากมีอาการคลื่นไส้/อาหารไม่ย่อย: ลองรับประทานยาพร้อมอาหาร หรือปรึกษาแพทย์เพื่อปรับขนาดยาหรือเปลี่ยนรูปแบบ
สังเกตอาการผิดปกติที่ผิวหนัง: หากมีผื่นหรือตุ่มพองเกิดขึ้น ควรหยุดยาและรีบปรึกษาแพทย์ทันที
แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่ใช้อยู่: โดยเฉพาะยาแก้ไอ เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างยา
หากได้รับยา Bromhexine เกินขนาด อาจเกิดอาการคลื่นไส้, อาเจียน, ท้องเสีย, เวียนศีรษะ, หรือปวดท้อง วิธีแก้ไข: ควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลหรือปรึกษาแพทย์ทันที การรักษาจะเน้นที่การดูแลตามอาการและประคับประคอง เนื่องจากยังไม่มียาแก้พิษเฉพาะสำหรับ Bromhexine
Bromhexine มักรับประทานวันละ 3 ครั้ง: หากลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกได้
หากใกล้ถึงเวลาของยาครั้งถัดไปแล้ว: ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานตามตารางปกติ
ห้ามรับประทานยาเพิ่มเป็นสองเท่าเพื่อชดเชยยาที่ลืมเด็ดขาด: เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง: ประมาณ 20-25°C (68-77°F) หรือตามที่ระบุบนฉลากยา
เก็บในที่แห้งและพ้นจากแสงแดดโดยตรง:
เก็บในภาชนะบรรจุเดิมที่ปิดสนิท:
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง:
ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ยาเสมอ: ห้ามใช้ยาที่หมดอายุแล้ว
สตรีมีครรภ์: Bromhexine จัดอยู่ใน Pregnancy Category C (จากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบผลข้างเคียง แต่ไม่มีข้อมูลเพียงพอในมนุษย์) โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้ยา Bromhexine ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้เสมอ
การให้นมบุตร: Bromhexine สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตรขณะใช้ยานี้ เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยง
Bromhexine เป็นยาละลายเสมหะและยาขับเสมหะที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการไอมีเสมหะเหนียวข้นในโรคระบบทางเดินหายใจต่างๆ ด้วยกลไกการทำงานที่ช่วยลดความหนืดของเสมหะและส่งเสริมการขับเสมหะ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้น ยานี้โดยทั่วไปมีผลข้างเคียงน้อยและไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม การใช้ Bromhexine ควรอยู่ภายใต้การดูแลและคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีประวัติแผลในกระเพาะอาหาร หรือมีปัญหาไต/ตับ การทำความเข้าใจข้อบ่งใช้ ข้อควรระวัง และผลข้างเคียง จะช่วยให้คุณใช้ยานี้ได้อย่างปลอดภัยและได้รับประโยชน์สูงสุด
โปรดจำไว้ว่าข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น และไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรได้ หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เสมอ
วันที่เผยแพร่: 29 กรกฎาคม 2568, 17:00 น. ผู้เขียน: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ที่มา: SiamHealth.net
![]() |
โรคหอบหืด โรคหอบหืดเป็นโรคที่เกิดจากภูมิแพ้จะมีอาการหอบ หรือเหนื่อยเมื่อสัมผัสสารภูมิแพ้ การรักษาต้องหลีกเลี่ยงและใช้ยาพ่นป้องกันอาการหอบหืด โรคหอบหืด |
![]() |
โรคปอดบวม โรคปอดบวมเกิดจากปอดติดเชื้อโรคทำให้มีเซลล์เม็ดเลือดขาว และเชื้อโรคในปอด ผู้ป่วยจะมีอาการหอบเหนื่อย ไอมีเสมหะ ไข้สูง ปอดบวม |
![]() |
โรคหลอดลมอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบเกิดจากเชื้อโรค ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม ผู้ป่วยจะมีไข้ ไอ แต่ไม่หอบมาก หลอดลมอักเสบ |