
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
ตับเป็นอวัยวะขนาดใหญ่และสำคัญอย่างยิ่ง ทำหน้าที่เปรียบเสมือนโรงงานกลางของร่างกาย ทั้งผลิตสารที่จำเป็น กักเก็บพลังงาน และที่สำคัญคือการกำจัดสารพิษ ซึ่งรวมถึงแอลกอฮอล์ แม้ตับจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไปอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้ตับได้รับความเสียหายเกินกว่าจะฟื้นฟู นำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า "โรคตับจากแอลกอฮอล์" (Alcoholic Liver Disease - ALD) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความเจ็บป่วยและเสียชีวิต
บทความนี้จะอธิบายถึงกลไกการเกิดโรค, ระยะของโรค, อาการ, ปัจจัยเสี่ยง, และแนวทางการรักษา เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถดูแลสุขภาพตับของคุณได้อย่างดีที่สุด
โรคตับจากแอลกอฮอล์มักจะดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปผ่าน 3 ระยะสำคัญ ซึ่งความรุนแรงและความสามารถในการฟื้นฟูจะแตกต่างกันไป
ไม่ใช่ทุกคนที่ดื่มหนักจะเกิดโรคตับแข็ง ปัจจัยเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ:
ปริมาณและระยะเวลาที่ดื่ม: เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด ยิ่งดื่มมากและนาน ยิ่งเสี่ยงสูง
เพศ: ผู้หญิง มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคตับจากแอลกอฮอล์ได้ง่ายและรุนแรงกว่าผู้ชาย แม้จะดื่มในปริมาณที่น้อยกว่าก็ตาม
โรคอ้วน: ไขมันที่สะสมจากความอ้วนจะยิ่งเพิ่มภาระให้ตับและเร่งให้เกิดความเสียหาย
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ: ผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือ ซี หากดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้โรคตับดำเนินไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับเร็วขึ้นมาก
พันธุกรรม: ปัจจัยทางพันธุกรรมมีผลต่อเอนไซม์ที่ใช้ในการเผาผลาญแอลกอฮอล์
แพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยอาศัยหลายองค์ประกอบร่วมกัน:
การซักประวัติ: โดยเฉพาะประวัติการดื่มแอลกอฮอล์อย่างละเอียด
การตรวจร่างกาย: แพทย์จะมองหาสัญญาณของโรคตับเรื้อรัง เช่น ดีซ่าน, ท้องมาน, ฝ่ามือแดง, จุดแดงคล้ายแมงมุมที่ผิวหนัง (Spider nevi), และขนาดของตับและม้าม อาการตับแข็ง
การตรวจเลือด: เพื่อประเมินการทำงานของตับ (ค่าเอนไซม์ตับ, บิลิรูบิน, โปรตีนอัลบูมิน) และดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (อาจพบภาวะโลหิตจาง, เกล็ดเลือดต่ำ)
การตรวจทางรังสีวิทยา: เช่น อัลตราซาวนด์ช่องท้อง เพื่อดูโครงสร้างของตับและประเมินภาวะไขมันพอกตับหรือตับแข็ง
การตรวจชิ้นเนื้อตับ (Liver Biopsy): ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและประเมินความรุนแรงของโรค
เป้าหมายหลักของการรักษาคือการหยุดยั้งความเสียหายและจัดการภาวะแทรกซ้อน
การหยุดดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด (Abstinence): นี่คือ รากฐานที่สำคัญที่สุดของการรักษา ในทุกระยะของโรค การหยุดดื่มเป็นวิธีเดียวที่จะเปิดโอกาสให้ตับได้ฟื้นฟูและป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม
การดูแลด้านโภชนาการ: ผู้ป่วยโรคตับจากแอลกอฮอล์มักมีภาวะขาดสารอาหารรุนแรง การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนและพลังงานสูง และจำกัดอาหารเค็ม (ในกรณีมีภาวะท้องมาน) เป็นสิ่งจำเป็น
การรักษาด้วยยา:
ยาขับปัสสาวะ: เพื่อลดอาการบวมและท้องมาน
ยารักษาตามอาการ: เช่น วิตามินเคเพื่อช่วยการแข็งตัวของเลือด, ยาปฏิชีวนะเมื่อมีการติดเชื้อ
ในกรณีตับอักเสบรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ ยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบ
การรักษาภาวะแทรกซ้อน: เช่น การส่องกล้องเพื่อรัดหลอดเลือดขอดในหลอดอาหาร, การเจาะระบายน้ำในช่องท้อง
การปลูกถ่ายตับ (Liver Transplantation): เป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับผู้ป่วยโรคตับแข็งระยะสุดท้าย โดยผู้ป่วยจะต้องหยุดดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างน้อย 6 เดือนและผ่านเกณฑ์การประเมินที่เข้มงวด
วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดโรคตั้งแต่แรก:
ดื่มอย่างจำกัดและพอประมาณ: ตามคำแนะนำสากล ผู้หญิงไม่ควรดื่มเกิน 1 หน่วยดื่มมาตรฐานต่อวัน และผู้ชายไม่ควรเกิน 2 หน่วยดื่มมาตรฐานต่อวัน
รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสมและออกกำลังกายสม่ำเสมอ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ และ บี
ปรึกษาแพทย์ หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมการดื่มหรือสุขภาพตับของคุณ
โรคตับจากแอลกอฮอล์เป็นภัยเงียบที่ร้ายแรง แต่สามารถป้องกันและจัดการได้หากตรวจพบแต่เนิ่นๆ การตระหนักรู้และตัดสินใจหยุดดื่มคือของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณสามารถมอบให้กับตับและสุขภาพโดยรวมของคุณได้
https://stanfordhealthcare.org/medical-conditions/liver-kidneys-and-urinary-system/alcoholic-cirrhosis.html
https://www.healthline.com/health/early-signs-of-liver-damage-from-alcohol
https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/alcoholinduced-liver-disease
https://my.clevelandclinic.org/departments/digestive/medical-professionals/hepatology/alcoholic-liver-disease#defination-tab
https://www.mountsinai.org/health-library/diseases-conditions/alcoholic-liver-disease
การอดสุรา โรคพิษสุราเรื้อรัง คุณเมาหรือไม่ อาการขาดสุรา สุราช่วยลดอัตราการเสียชีวิต ผลเสียต่อสุขภาพ การอดสุรา