หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
บทนำ การตรวจหาคีโตน (Ketone) ในปัสสาวะ คือหนึ่งในทักษะการดูแลตนเองที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 หรือผู้ที่ใช้ยาอินซูลิน คีโตนเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นเมื่อขาดพลังงานจากน้ำตาล และการตรวจพบคีโตนในปริมาณสูงอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันที่อันตรายอย่าง ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน (Diabetic Ketoacidosis - DKA) บทความนี้จะให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับการตรวจคีโตน ตั้งแต่สาเหตุที่ต้องตรวจ ไปจนถึงวิธีปฏิบัติเมื่อตรวจพบ
โดยปกติ ร่างกายจะใช้ "น้ำตาลกลูโคส" เป็นแหล่งพลังงานหลัก ซึ่งต้องอาศัยฮอร์โมนอินซูลินในการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ แต่เมื่อร่างกาย ขาดอินซูลินอย่างรุนแรง จะไม่สามารถใช้น้ำตาลได้ ร่างกายจึงต้องหันไป สลายไขมันที่เก็บสะสมไว้ออกมาใช้เป็นพลังงานแทน
กระบวนการสลายไขมันนี้จะสร้างสารที่เป็นผลพลอยได้คือ "คีโตน" ซึ่งมีความเป็นกรดออกมา เมื่อคีโตนถูกผลิตออกมาในปริมาณมากเกินกว่าที่ตับจะกำจัดได้ทัน มันจะสะสมในกระแสเลือดและถูกขับออกมาทางปัสสาวะ การตรวจพบคีโตนในปัสสาวะจึงเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังขาดอินซูลินอย่างหนัก
การตรวจหาคีโตนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์และกลุ่มผู้ป่วยต่อไปนี้:
เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง: หากตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแล้วพบว่าสูงกว่า 250-300 มก./ดล. ติดต่อกัน 2 ครั้ง
เมื่อมีอาการเจ็บป่วย: โดยเฉพาะเมื่อมีไข้, คลื่นไส้, อาเจียน หรือมีการติดเชื้อใดๆ
ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1: ควรมีแผ่นตรวจคีโตนติดบ้านไว้เสมอ
ผู้ป่วยที่ใช้ยาอินซูลินปั๊ม: หากพบว่าระดับน้ำตาลสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ
หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวาน
เมื่อมีอาการของภาวะ DKA: เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดท้อง, หรือหายใจหอบลึก
การตรวจคีโตนในปัสสาวะสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านโดยใช้ แผ่นตรวจคีโตน (Ketone Test Strips)
เก็บปัสสาวะที่ใหม่สดในภาชนะที่สะอาด
จุ่มปลายแผ่นทดสอบลงในปัสสาวะตามเวลาที่ระบุข้างกล่อง
นำแผ่นทดสอบขึ้นมาเคาะส่วนเกินออก รอสักครู่ (ประมาณ 15-60 วินาที)
เทียบสีที่ปรากฏบนแผ่นทดสอบกับแถบสีข้างขวดเพื่ออ่านผล
การแปลผล:
Negative (ไม่มี): ไม่พบสีเปลี่ยนแปลง แสดงว่าปกติ
Trace (น้อย): สีเริ่มเปลี่ยนเล็กน้อย
Small to Moderate (ปานกลาง): สีเข้มขึ้นอย่างชัดเจน
Large (สูง): สีเข้มมาก
ข้อควรจำ: หากตรวจพบระดับคีโตนตั้งแต่ระดับ ปานกลาง (Moderate) ถึงสูง (Large) ถือเป็นภาวะผิดปกติที่ต้องรีบปรึกษาแพทย์หรือไปโรงพยาบาลทันที
ดื่มน้ำเปล่ามากๆ: ดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้ว ทุกๆ 30-60 นาที เพื่อช่วยขับคีโตนออกจากร่างกายและป้องกันภาวะขาดน้ำ
ฉีดอินซูลินเสริม: หากคุณได้รับการสอนจากแพทย์เกี่ยวกับการฉีดอินซูลินเสริม (Correction Dose) ให้ฉีดอินซูลินชนิดออกฤทธิ์เร็วตามแผนการรักษา
งดการออกกำลังกาย: ห้ามออกกำลังกายเด็ดขาด เมื่อตรวจพบคีโตนและมีระดับน้ำตาลสูง เพราะจะยิ่งทำให้ระดับน้ำตาลและคีโตนสูงขึ้นไปอีก
ตรวจซ้ำ: ตรวจระดับน้ำตาลและคีโตนซ้ำทุก 2-4 ชั่วโมง
รีบไปพบแพทย์: หากตรวจซ้ำแล้วระดับคีโตนยังคงสูง หรือเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือหายใจหอบ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันทีโดยไม่ต้องรอ
หากตรวจพบคีโตนต้องปรึกษาแพทย์
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว