โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง (Aortic Aneurysm)

หลอดเลือดแดงใหญ่ (Aorta) เป็นท่อนำเลือดแดง จากหัวใจไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย โดยเริ่มต้นจากบริเวณขั้วหัวใจ ขึ้นไปยังยอดอกแล้วทอดโค้งไปด้านหลัง เคียงข้างกระดูกสันหลังในช่องอก ผ่านกระบังลมเข้าไปยังช่องท้อง ก่อนจะแยกเป็น เป็นแขนงหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงขา 2 ข้าง และอวัยวะในอุ้งเชิงกราน


หลอดเลือดแดงใหญ่

ความสำคัญของหลอดเลือดแดงใหญ่ คือ เปรียบเสมือนท่อประปาหลัก ที่ให้แขนงหล่อเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง ประสาทไขสันหลัง แขน ขา และอวัยวะในช่องท้อง ได้แก่ ตับ ไต สำไส้ เป็นต้น ดังนั้นหากมีพยาธิสภาพหรือความผิดปกติเกิด ขึ้นกับหลอดเลือดแดงใหญ่ย่อมส่งผลกระทบต่ออวัยวะส่วนต่างๆ ได้ หรือ หากหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองปริแตกจะทำให้เสีย ชีวิตได้ 

หลอดเลือดโป่งพองคืออะไร?

หลอดเลือดโป่งพองเกิดจากผนังของหลอดเลือดเลือดแดงใหญ่โป่งพองเหมือนบอลลูนตัว

หลอดเลือดโป่งพองของหลอดเลือดสามารถผ่าหรือแตกออกได้:

  • แรงสูบฉีดเลือดสามารถแบ่งชั้นของผนังหลอดเลือดแดงเซาะอยู่ระหว่างผนุงหลอดเลือด ปล่อยให้เลือดรั่วไหลระหว่างพวกเขา กระบวนการนี้เรียกว่าการ Dissecting aneurysm

  • หลอดเลือดโป่งพองสามารถแตกออกจนหมด ทำให้เลือดออกภายในร่างกาย สิ่งนี้เรียกว่าการแตกร้าว Rupture aneurysm

  • การผ่าและการแตกเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่จากหลอดเลือดโป่งพอง

อาการและอาการแสดงของโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง (Aortic Aneurysm)

ผู้ป่วยหลายรายอาจไม่มีอาการใดๆ นำมาก่อน เพียงแต่ตรวจพบโดยบังเอิญจากการถ่ายภาพเอ๊กซเรย์ทรวงอก หรือ คลำก้อนเต้น ได้ในช่องท้อง ผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองในช่องอก อาจมีอาการจากการกดเบียดของหลอดเลือดต่ออวัยวะข้าง เคียง เช่น กดหลอดลมทำให้หายใจลำบาก กดเบียดหลอดอาหารทำให้กลืนลำบาก กดเบียดเส้นประสาทที่เลี้ยงกล่องเสียง ทำให้เสียงแหบ เป็นต้น ถ้ามีอาการแน่นอก ปวดหลัง หน้ามืดหมดสติ หรือไอเป็นเลือด อาจบ่งชี้ว่ามีการปริแตกของหลอดเลือด แดงใหญ่

ผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพอง อาจคลำพบก้อนเต้นได้ในช่องท้อง หรือมีอาการปวดท้อง ปวดหลัง หากพบมีอาการดังกล่าว ควรไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์จะให้การวินิจฉัยได้จากการสอบถามประวัติอาการ ตรวจร่างกายร่วมกับการตรวจค้นเพิ่มเติม เช่น การถ่ายภาพเอกซเรย์ทรวงอก หรือช่องท้อง, การตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวน์ (Ultrasound) การถ่ายภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan )

หากหลอดเลือดโป่งพองของหลอดเลือดที่แตกไม่สามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้องและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพทันเวลา ก็อาจทำให้เลือดออกภายในที่คุกคามถึงชีวิตได้ ซึ่งนำไปสู่โอกาสในการเสียชีวิตอย่างกะทันหันเพิ่มขึ้น ดังนั้นการแจ้งสัญญาณเตือนและอาการของหลอดเลือดโป่งพองของหลอดเลือดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

5 สัญญาณเตือนและอาการที่อาจสงสัยว่าเป็นหลอดเลือดโป่งพองของหลอดเลือดแดงใหญ่ ได้แก่

1) เจ็บหน้าอกหรือเจ็บหน้าอก เวียนศีรษะหรือหน้ามืด ปวดหลัง ไอเป็นเลือด (ไอเป็นเลือด) และหมดสติเนื่องจากการแตกร้าว

2) ปวดท้องกะทันหันหรือรุนแรง การขยายตัวเป็นจังหวะหรือมวลในช่องท้องอันเนื่องมาจากการโป่งของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่บริเวณช่องท้อง

3) หายใจลำบาก เช่น เกิดจากการโป่งของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องอกกดทับของหลอดลม

4) กลืนลำบาก (กลืนลำบาก) เนื่องจากการขยายตัวของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ทรวงอกดทับของหลอดอาหารจากภายนอก

5) เสียงแหบจากการกดทับของเส้นประสาทกล่องเสียงที่เกิดซ้ำซึ่งส่งไปเลี้ยงกล้ามเนื้อภายในกล่องเสียงทั้งหมด

ที่สำคัญกว่านั้น ความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับขนาดของโป่งพองและอัตราการเติบโต หลอดเลือดโป่งพองในช่องท้องบางครั้งเติบโตช้าโดยไม่มีอาการที่สังเกตได้ ดังนั้นผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการทางคลินิก กรณีเป็นหลอดเลือดโป่งพองของเอออร์ตาที่ไม่มีอาการ สามารถตรวจสิ่งผิดปกติได้อย่างแม่นยำโดยการตรวจด้วยภาพรังสี เช่น เอกซเรย์หน้าอก อัลตราซาวนด์เอออร์ตาช่องท้อง และซีทีสแกน (การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์) ร่วมกับการตรวจช่องท้องและการคลำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ . หากละเลยหลอดเลือดโป่งพองของหลอดเลือดและไม่ได้รับการรักษา ภาวะแทรกซ้อนมักเป็นอันตรายถึงชีวิต อย่ารอจนสายเกินไป หากมีอาการและอาการแสดงดังกล่าวข้างต้น ต้องไปพบแพทย์ทันที

หลอดเลือดโป่งพองมีกี่ประเภท?

1หลอดเลือดโป่งพองของทรวงอก

หลอดเลือดโป่งพองของทรวงอกเกิดขึ้นในหน้าอก ผู้ชายและผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโป่งพองของหลอดเลือดบริเวณทรวงอกเท่ากัน ซึ่งมักพบได้บ่อยเมื่ออายุมากขึ้น4

หลอดเลือดโป่งพองของทรวงอกมักเกิดจาก ความดันโลหิตสูง หรือการได้บาดเจ็บอย่างกะทันหัน บางครั้งผู้ที่มีความผิดปกติของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่สืบทอดมา เช่น กลุ่มอาการ Marfan และกลุ่มอาการ Ehlers-Danlos จะได้รับหลอดเลือดโป่งพองของหลอดเลือดบริเวณทรวงอก

อาการและอาการแสดงของหลอดเลือดโป่งพองของหลอดเลือดบริเวณทรวงอกอาจรวมถึงอาการต่อไปนี้:

  • เจ็บเฉียบพลันที่หน้าอกหรือหลังส่วนบน เฉียบพลัน

  • หายใจ

  • ไม่อิ่ม หายใจลำบากหรือกลืนลำบาก

2หลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้อง

หลอดเลือดโป่งพองในช่องท้องเกิดขึ้นใต้หน้าอก หลอดเลือดโป่งพองของหลอดเลือดในช่องท้องเกิดขึ้นบ่อยกว่าโป่งพองของหลอดเลือดในทรวงอก

หลอดเลือดโป่งพองในช่องท้องพบได้บ่อยในผู้ชายและในคนอายุ 65 ปีขึ้นไป หลอดเลือดโป่งพองของหลอดเลือดในช่องท้องพบได้บ่อยในคนผิวขาวมากกว่าคนผิวดำ

หลอดเลือดโป่งพองในช่องท้องมักเกิดจากหลอดเลือด (หลอดเลือดแดงแข็ง) แต่การติดเชื้อหรือการบาดเจ็บก็สามารถทำให้เกิดได้เช่นกัน

หลอดเลือดโป่งพองในช่องท้องมักไม่มีอาการใดๆ หากบุคคลมีอาการ อาจรวมถึงอาการต่อไปนี้: การ

  • สั่นหรือปวดลึกที่หลังหรือด้านข้าง

  • ปวดที่ก้น ขาหนีบ หรือขา

3หลอดเลือดอื่นๆ โป่งพอง

อาจเกิดขึ้นในส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หลอดเลือดโป่งพองแตกในสมองอาจทำให้เกิด โรคหลอดเลือดสมองได้ โป่งพองส่วนปลาย—ที่พบในหลอดเลือดแดงอื่นที่ไม่ใช่เอออร์ตา—สามารถเกิดขึ้นที่คอ ในขาหนีบ หรือหลังเข่า หลอดเลือดโป่งพองเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะแตกหรือผ่าน้อยกว่าโป่งพองของหลอดเลือด แต่อาจทำให้เกิดลิ่มเลือดได้ ลิ่มเลือดเหล่านี้สามารถแตกออกและป้องกันการไหลเวียนของเลือดผ่านหลอดเลือดแดง

ปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง (Aortic Aneurysm)

โรคและพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพที่ทำลายหัวใจและหลอดเลือดของคุณยังเพิ่มความเสี่ยงต่อหลอดเลือดโป่งพอง สูบบุหรี่ เป็นพฤติกรรมที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดโป่งพอง

ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่

ความผิดปกติของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่สืบทอดมาบางอย่าง เช่น กลุ่มอาการ Marfan (ซึ่งจะมีความผิดปกติหลาย ระบบคือ มีรูปร่างสูงผอม แขนขาและ นิ้วยาว เพดานปากสูง สายตาผิดปกติ มีโรคลิ้นหัวใจรั่วร่วม) มักมีอาการของโรคหลอด เลือดตั้งแต่อายุวัยหนุ่มสาวและกลุ่มอาการ Ehlers-Danlos อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อหลอดเลือดโป่งพองของหลอดเลือด ครอบครัวของคุณอาจมีประวัติหลอดเลือดโป่งพองที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงของคุณได้

แนวทางการรักษาโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง (Aortic Aneurysm)

เนื่องจากถ้ามีการแตกของหลอดเลือดแดงใหญ่ จะทำให้มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 50 ถึง 90% ความเสี่ยงต่อหลอดเลือด แดงใหญ่แตกมีความสัมพันธ์กับขนาดของหลอดเลือดแดงใหญ่ ยิ่งมีหลอดเลือดขนาดโตยิ่งมีโอกาสแตกง่าย ภาวะความดัน โลหิตสูงจะเสริมให้มีโอกาสแตกมากขึ้น ดังนั้น แนวทางการรักษา จึงนับเริ่มตั้งแต่การควบคุมความดันโลหิต การงดสูบบุหรี่ การหลีกเลี่ยงการเบ่งถ่าย รวมจนถึงการผ่าตัด รักษา

การพิจารณารักษาโดยการผ่าตัด ขึ้นกับอาการของผู้ป่วย ขนาดหลอดเลือดแดงใหญ่ที่โตจนเสี่ยงต่อการปริแตก หรือ หลอด เลือดแดงใหญ่ที่โตเร็วผิดปกติ  ถ้าตรวจพบหลอดเลือดแดงโป่งพองในขนาดที่ไม่โตมาก แพทย์จะแนะนำให้ตรวจติดตามเฝ้า ระวังเป็นระยะ

การรักษาด้วยวิธีผ่าตัด

การผ่าตัดโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องอาศัยทีมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และ สถานที่ที่มีอุปกรณ์การ ผ่าตัดพร้อมเพรียงรวมทั้งมีความพร้อมในการให้เลือดและส่วนประกอบของเลือด

การผ่าตัดใหญ่แบบเปิด (open surgery) 

ถือเป็นการผ่าตัดที่เป็นมาตรฐาน โดยผ่าตัดผ่านทางช่องทรวงอก หรือช่องท้อง ขึ้นกับตำแหน่งพยาธิสภาพของหลอดเลือด แล้วใส่หลอดเลือดเทียมทดแทน

การผ่าตัดด้วยวิธีการสอดใส่หลอดเลือดเทียมชนิดหุ้มด้วยขดลวด (Stent Graft)

ผ่านทางหลอดเลือดแดงที่ขาหนีบเพื่อ สอดหลอดเลือดเทียมเข้าไปใส่แทนที่หลอดเลือดแดงใหญ่ที่โป่งพองในช่องอกหรือช่องท้อง เป็นทางเลือกใหม่ ที่เริ่มใช้ในภาย หลังเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งการผ่าตัดวิธีหลังนี้จะมีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก ลดอัตราการเสี่ยง และ การให้เลือด ผลในระยะสั้นและระยะกลางยังมีประสิทธิภาพดี แต่ต้องติดตามผลระยะยาวต่อไป

การผ่าตัดแต่ละวิธีจะขึ้นกับตำแหน่งพยาธิสภาพของโรค สภาพความแข็งแรงของผู้ป่วย ซึ่งแพทย์จะพิจารณาและประเมินเพื่อให้ ผู้ป่วยได้ทราบและร่วมในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

ภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัด

เนื่องจากการผ่าตัดโรคหลอดเลือดแดงใหญ่เป็นการผ่าตัดใหญ่และส่วนใหญ่ผู้ป่วยสูงอายุ จึงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ในระบบ ต่างๆได้ เช่น ระบบหัวใจ ปอด สมอง ไต ซึ่งบางครั้งอาจรุนแรงถึงชีวิต

การประเมินสภาพร่างกายของผู้ป่วยและความรุนแรงของโรคก่อนการผ่าตัดรวมทั้งการให้ข้อมูลกับผู้ป่วยนับเป็นสิ่งสำคัญอย่าง มาก เพื่อช่วยให้การวางแผนการรักษาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

Google
 

เพิ่มเพื่อน