siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ


พิษสุรา: ภาวะฉุกเฉินที่คุกคามชีวิต

พิษจากแอลกอฮอล์: ทําความเข้าใจอาการ ความเสี่ยง และวิธีการ

ภาวะพิษสุรา (Alcohol Poisoning) เป็นภาวะที่ร่างกายได้รับแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไปในช่วงเวลาสั้น ๆ จนทำให้ระบบการทำงานของร่างกายหยุดชะงัก เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้รวดเร็วและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การตระหนักถึงสัญญาณและอาการของพิษสุราเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างถูกวิธี

สาเหตุของภาวะพิษสุรา

พิษสุรามักเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากในระยะเวลาสั้นๆ หรือการดื่มแบบบังคับดื่ม (Binge Drinking) การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอย่างรวดเร็วทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายจึงไม่สามารถเผาผลาญแอลกอฮอล์ได้ทัน จนแอลกอฮอล์ไปขัดขวางการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบหายใจและการไหลเวียนโลหิต

พิษสุรา

ดื่มสุรามากแค่ไหนจึงเกิดพิษจากสุรา

ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ทำให้เกิดภาวะพิษสุรา (Alcohol Poisoning) แตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยปัจจัยหลักที่กำหนดได้แก่ น้ำหนักตัว เพศ อายุ การดื่มในปริมาณที่มากในเวลาสั้น และการเผาผลาญแอลกอฮอล์ในร่างกายของแต่ละคน

โดยทั่วไป ภาวะพิษสุรามักเกิดขึ้นเมื่อมีการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่สูงเกินไปภายในเวลาสั้น ๆ หรือที่เรียกว่า “การดื่มแบบบังคับดื่ม” (binge drinking) โดยแบ่งตามเกณฑ์ดังนี้:

ปริมาณนี้สามารถทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือด (Blood Alcohol Concentration หรือ BAC) สูงเกิน 0.08% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่เริ่มมีความเสี่ยง เมื่อ BAC สูงถึงประมาณ 0.3% จะเพิ่มโอกาสในการเกิดอาการพิษสุรารุนแรง เช่น สับสน อาเจียน หายใจลำบาก และอาจหมดสติ เมื่อ BAC สูงถึง 0.4% หรือมากกว่า จะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากพิษสุราได้

สัญญาณและอาการของพิษสุรา ได้แก่:

หากมีสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบติดต่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันที เพราะภาวะพิษสุรานั้นอันตรายถึงชีวิต

ดื่มนานแค่ไหนจึงจะเกิดพิษสุรา

ระยะเวลาในการดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำให้เกิดภาวะพิษสุรา (Alcohol Poisoning) นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ดื่มเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่ม ความเข้มข้นของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความสามารถในการเผาผลาญแอลกอฮอล์ของร่างกาย และปัจจัยส่วนบุคคลอื่น ๆ รวมถึงน้ำหนักตัวและการรับประทานอาหารก่อนหรือขณะดื่ม

อย่างไรก็ตาม ภาวะพิษสุรามักเกิดขึ้นเมื่อมีการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากภายในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือที่เรียกว่า "binge drinking" ซึ่งหมายถึงการดื่ม 4 แก้วขึ้นไปภายใน 2 ชั่วโมงสำหรับผู้หญิง และ 5 แก้วขึ้นไปในเวลาเดียวกันสำหรับผู้ชาย การดื่มในลักษณะนี้สามารถทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือด (BAC) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเกินระดับที่ร่างกายจะสามารถจัดการได้ ส่งผลให้เกิดอาการของภาวะพิษสุราทันที

การดื่มในปริมาณที่มากอย่างต่อเนื่องในระยะสั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถทำให้เกิดภาวะพิษสุราได้ โดยที่:

ดังนั้นการป้องกันภาวะพิษสุราอย่างมีประสิทธิภาพ คือการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ รู้ข้อจำกัดของตนเอง และไม่ดื่มเกินขอบเขตของร่างกาย

อาการของภาวะพิษสุรา

เมื่อมีภาวะพิษสุราเกิดขึ้น ร่างกายจะส่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการดังนี้:

  1. สับสนและเวียนศีรษะอย่างรุนแรง
  2. อาเจียนบ่อยหรืออย่างรุนแรง
  3. หายใจช้า อาจน้อยกว่าแปดครั้งต่อนาที หายใจติดขัด หรือมีเสียงผิดปกติขณะหายใจ
  4. อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงหรือไม่สม่ำเสมอ
  5. สูญเสียการตอบสนองต่อสิ่งรอบตัว ไม่สามารถปลุกให้ตื่นได้
  6. อุณหภูมิร่างกายต่ำ ทำให้มีอาการตัวเย็นและสีผิวคล้ำหรือซีด
  7. หมดสติ
  8. อาการชัก


ปัจจัยเสี่ยง

มีหลายปัจจัยที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นพิษจากแอลกอฮอล์ ได้แก่:

อันตรายของภาวะพิษสุรา

การเกิดพิษสุราส่งผลกระทบที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น:

การปฐมพยาบาลผู้ที่มีภาวะพิษสุรา

หากคุณคิดว่ามีคนเป็นพิษจากแอลกอฮอล์ ให้ไปพบแพทย์ทันที สิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นสัญญาณปกติก็ตาม

การให้ความช่วยเหลือที่ถูกต้องแก่ผู้ที่มีภาวะพิษสุรามีความสำคัญต่อการรักษาชีวิต:

การป้องกัน

เพื่อหลีกเลี่ยงพิษจากแอลกอฮอล์:

ภาวะแทรกซ้อนพิษสุรา

ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอาจเป็นผลมาจากพิษจากแอลกอฮอล์ ได้แก่:

สรุป

ภาวะพิษสุราเป็นภาวะที่อันตรายและต้องได้รับการช่วยเหลือทันที การตระหนักถึงอาการและการให้การปฐมพยาบาลที่ถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิต ในขณะเดียวกัน การดื่มอย่างมีความรับผิดชอบและหลีกเลี่ยงการดื่มในปริมาณมากเกินไปสามารถช่วยป้องกันภาวะพิษสุราได้

ทบทวนวันที่ 10/11/2024

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

Google
 

เพิ่มเพื่อน