สาเหตุโรคกลัวอ้วน
ยังไม่มีใครทราบสาเหตุแน่ชัด เชื่อว่าจะเป็นอาการหนึ่งของโรคซึมเศร้า และคนที่มีความมั่นใจในตัวเองต่ำ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมเช่น ความวิตกกังวล ความโกรธ ความเหงา และที่สำคัญคือการอยู่ในหมู่คนที่นิยมหุ่นนางแบบ
สาเหตุการเกิดโรค
ปัจจัยเรื่องชีวเคมีของร่างกาย
- ร่างกายสร้างสารเคมีบางชนิดเกี่ยวข้องกับการปฏิเสธความหิวในผู้ป่วย Anorexia nervosa เนื่องจากมีงานวิจัยที่ พบว่าเมื่อให้สารต้านก็สามารถเพิ่มน้ำหนักขึ้นได้
- มีการเปลี่ยนแปลงของระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ปริมาณของ cortisol ทํางานของต่อมไธรอยด์ถูกกด ปริมาณฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์ลดลง
- มีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อสมองบางส่วน เมื่อน้ำหนักเพิ่มปริมาณเนื้อสมองกลับสู่ปกติ
- พบการใช้น้ำตาลในสมองลดลง glucose metabolism ลดลงทั่วทั้งสมอง และจะเพิ่มขึ้นเมื่อน้ำหนักตัวกลับสู่ปกติ
- มีความผิดปกติของสารสื่อประสาท ทั้ง serotonin dopamine และ norepinephrine ซึ่งมี ส่วนในการควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
- ปริมาณ leptin ในเลือดน้อยเป็นลักษณะสําคัญที่พบในช่วง acute Anorexia nervosa และจะเพิ่มขึ้นเมื่อ น้ำหนักกลับมาเพิ่มอีกครั้ง
ปัจจัยทางจิตใจและอารมณ์
เนื่องจากผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักขาดความเป็นตัวของตัวเอง (autonomy) และส่วนมากจะยอมให้ พ่อแม่เข้ามามีอิทธิพลในทุกๆ เรื่อง ทั้งความคิดเห็น การตัดสินใจ การที่ผู้ป่วยสามารถควบคุมตนเองในการอดอาหาร จึงถือเป็นการทําให้ตนเองเป็นคนสําคัญ ไม่พึ่งพาใคร และมีบทบาทในสังคมและ ทางเพศมากขึ้น ควบคุมตนเองได้ในบางด้าน
Social Factors
ผู้ป่วย Anorexia nervosa มักอยู่ในสังคมที่เน้นเรื่องความผอมหรือการออกกําลังกาย
ลักษณะทางคลินิก (Clinical features)
ความรู้สึกกลัวอ้วนหรือกลัวน้ำหนักขึ้นในผู้ป่วย Anorexia nervosa ให้ผู้ป่วยปฏิเสธอาหาร แม้ จะยังมีความหิวหรือความอยากอาหารเหมือนปกติ ผู้ป่วยมักปฏิเสธที่จะ รับประทานอาหารกับคนในครอบครัวหรือในที่สาธารณะเนื่องจากไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ ผู้ป่วยพยายามลดปริมาณอาหารที่รับประทาน แต่บางครั้งอดใจไม่ได้ทานอาหารมากผู้ป่วยมักจะทำให้อาเจียน มีการใช้ยาระบาย หรือยาขับปัสสาวะ มีการออกกําลังหักโหมเพื่อลดน้ำหนัก หลังจากที่ผู้ป่วยทําให้น้ำหนักตัวลดลงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้มีอาการทางกายตามมามากมาย เช่น อ่อนเพลีย มีภาวะขาดน้ำ อุณหภูมิร่างกายตํ่า ความดันโลหิตตํ่า หัวใจเต้นช้า ตัวบวม ปวดท้อง บางรายถึงขั้นหมดสติ และตรวจพบความผิดปกติของเกลือแร่ในร่างกายหลายอย่าง ในผู้ป่วยหญิงมักมีปัญหาประจําเดือนขาด และถ้าอาเจียนมาก ใช้ยาขับปัสสาวะหรือยาระบายมาก มักมีเกลือแร่ต่ำ การเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจนั้นเกิดจาก การสูญเสียดกลือแร่โพแทสเซียมออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทําให้เสียชีวิตได้
การวินิจฉัย
การวินิจฉัย Anorexia nervosa ในปัจจุบัน ยังใช้เกณฑ์ของ DSM-IV TR โดยมีพฤติกรรมและความ ผิดปกติต่างๆ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือน เกณฑ์ในการวินิจฉัย
- การทําให้ตนเองอยู่ในผอมโดยมีน้ำหนักน้อยกว่าร้อย85เมื่อเทียบคนที่มีส่วนสูงและอายุเดียวกัน ภาวะอดอาหารอย่างหนัก
- มีความต้องการที่จะทําให้ตนเองผอมอย่างจริงจัง หรือมีความกลัวที่จะอ้วนอย่างรุนแรงแม้ว่าน้ำหนักจะน้อยกว่าปกติ
- มีการหลงผิดว่ารู้ร่างที่ผอมดูดี
- มีอาการหรืออาการแสดงทางด้านร่างกายที่เป็นผลมาจากการอดอาหาร โดยเฉพาะสตรีจะมีการขาดประจำเดือน 3 เดือนติดต่อกัน
ชนิดของโรคกลัวอ้วน
แบ่งออกเป็นสองชนิด
- ผู้ป่วยจะรับประทานอาหารน้อย ไม่มีการทำให้อาเจียน หรือการใช้ยาระบาย
- ผู้ป่วยจะรับประทานอาหารปกติ แต่จะทำให้อาเจียน หรือใช้ยาระบาย หรือยาขับปัสสาวะ
การวินิจฉัยแยกโรค
เนื่องจากอาการใน Anorexia nervosa คล้ายกับโรคทางกายและโรคทางจิตเวชหลายโรค ดังนั้นการ วินิจฉัยแยกโรคจึงมีความสําคัญ
- โรคทางกาย เช่น เนื้องอกในสมอง มะเร็ง เบาหวาน เบาจืด อาจพบลักษณะอาเจียน น้ำหนักลดได้
- โรคซึมเศร้า มีอาการที่พบร่วมกันได้หลายอย่าง เช่น อารมณ์ซึมเศร้า ร้องไห้ นอนไม่ หลับ ย้ำคิด หรือบางครั้งมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย แต่มีบางอาการที่สามารถแยกได้ เช่น ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจะไม่อยากอาหาร ในขณะที่ผู้ป่วยโรคกลัวอ้วน Anorexia nervosa ยังมีความอยากอาหารปกติ
- โรคจิตเภทผู้ป่วยโรคนี้มักหลงผิดว่ามียาพิษในอาหาร จึงไม่ยอมรับประทาน แต่ไม่พบว่ามีความคิดย้ำ ถึงการกลัวอ้วน หรือ ขยับตัวตลอดเวลาเพื่อลดความอ้วนเหมือน Anorexia
การดูแลรักษา (Treatment)
การรักษาในโรงพยาบาล เป็นการรักษาหลักสําหรับผู้ป่วยโรคกลัวอ้วนที่มีภาวะขาดอาหารอย่าง รุนแรง ส่วนมากผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตํ่ากว่าร้อยละ 20 ของน้ำหนักที่ควรจะเป็น ต้องได้รับการรักษาแบบผู้ป่วยใน การรับเข้ารักษาในโรงพยาบาลนั้นขึ้นกับปัจจัยหลายประการ ซึ่งมีแนวทางหลัก ดังต่อไปนี้
- ให้การฟื้นฟูด้านสารอาหาร และรักษาภาวะทางกายที่เกิดตามมาจากการขาดอาหาร
- ให้คําปรึกษาด้านโภชนาการ เพื่อให้ผู้ป่วยกลับไปมีพฤติกรรมการรับประทานที่ปลอดภัย
- ทําจิตบําบัดส่วนบุคคล เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยแก้ไขความคิดที่ผิดปกติและเสริมสร้างความมั่นใจ
- ทําจิตบําบัดแบบกลุ่ม
- ทําจิตบําบัดครอบครัว หรือให้คําปรึกษาแก่พ่อแม่ นอกจากนั้นยังรักษาอาการหรือโรคร่วมที่เกิดขึ้น เช่น อาการซึมเศร้า ความวิตกกังวล และสร้างแรง บันดาลใจโดยใช้ motivational enhancement intervention เพื่อป้ องกันการหายออกไปจากการรักษา
การดำเนินของโรค
อาการของโรคนี้มักจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อาจจะเริ่มเป็นตอนวัยรุ่น ไม่ค่อยพบหลังจากอายุเกิน 40 ปีผู้ป่วยบางคนอาจจะเป็นช่วงสั้นๆแล้วหายขาด บางคนเป็นๆหายๆเป็นช่วงๆ แต่บางคนก็เป็นต่อเนื่องและเรื้อรัง อัตราการตายประมาณปีละ.56%สาเหตุการตายที่สำคัญคือ หัวใจหยุดเต้น เกลือแร่ในเลือดผิดปกติและการฆ่าตัวตาย
Bulimia Nervosa
พบว่าจะมีประชากรผู้หญิงประมาณ1.1-4.2% จะเคยมีอาการของโรคนี้ครั้งหนึ่งในชีวิต อาการของโรคนี้ประกอบไปด้วย
- ผู้ป่วยจะกินอาหารอย่างมากมาย ควบคุมตัวเองไม่ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง
- ผู้ป่วยจะป้องกันน้ำหนักเพิ่มโดยการล้วงคอเพื่อทำให้อาเจียน หรือใช้ยาระบาย หรือยาขับปัสสาวะ หรือการสวน หรือการออกกำลังกายอย่างมาก
- อาการกินมากและล้วงคอให้อาเจียนจะเกิดอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์เป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน
ผู้ป่วยมักจะมีน้ำหนักปกติ แค่ผู้ป่วยจะกลัวอ้วนและต้องการลดน้ำหนัก เมื่อเริ่มอ้วนผู้ป่วยจะกังวลเป็นอย่างยิ่ง การล้วงให้อาเจียนมากจะกระทำในที่มิดชิด
Binge-Eating Disorder
พบได้ร้อยละ 2-5 %โดยจะมีอาการดังต่อไปนี้
- ผู้ป่วยจะมีอาการอยากอาหารอย่างมากมาย รับประทานอาหารมากจนควบคุมตัวเองไม่ได้
- อาการกินอย่างมากมายต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้อย่างน้อย 3 อย่าง รับประทานอาหารเร็วกว่าปกติ รับประทานจนกระทั่งแน่นท้อง รับประทานอาหารทั้งที่ไม่หิว รับประทานอาหารเพียงลำพัง รู้สึกเบื่อตัวเองหรือซึมเศร้าหลังจากรับประทานอาหาร
- แน่นจุกเสียดแน่นท้อง
- เป็นอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์เป็นเวลา 6 เดือน
- อาการกินอย่างมากมายจะไม่มีการล้วงคอให้อาเจียน หรือการใช้ยาอื่น
การรักษา
หลักการรักษาประกอบไปด้วย
- เพิ่มน้ำหนักให้ใกล้เคียงปกติ
- รักษาภาวะจิตใจที่ผิดปกติ หรือความเข้าใจเกี่ยวกับรูปร่าง
- ป้องกันมิให้กลับเป็นซ้ำ
การวินิจฉัยได้เร็วและรักษาเร็วจะให้ผลได้ดี ส่วนวิธีการรักษาขึ้นกับความรุนแรงของโรค หากขาดอาหารมากก็ต้องให้นอนโรงพยาบาลและอาจจะต้องให้สารอาหารเข้าทางหลอดเลือดดำ เมื่อน้ำหนักเริ่มขึ้นค่อยมาให้การรักษาทางจิต อาจจะต้องทำพฤติกรรมบำบัด ยาที่ได้ผลดีคือยาในกลุ่ม selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs),