siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) — อาการ สาเหตุ การวินิจฉัย การรักษา และวิธีป้องกัน

บทความนี้สรุปความรู้ที่เป็นประโยชน์สำหรับประชาชนทั่วไป หากคุณหรือคนที่คุณรักมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการประเมิน

ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) ไม่ใช่โรคเดียว ภาวะสมองเสื่อมไม่ใช่โรค แต่เป็นภาวะที่สมองสูญเสียความสามารถในด้านความจำ ทักษะการใช้ภาษา การรับรู้ทางสายตา การแก้ปัญหา การวางแผน การคิด การตัดสินใจ และพฤติกรรมสังคม ทำให้มีปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การทำงานต่อเนื่อง อารมณ์แปรปรวน และบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง โดยโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม

บทนำ — ทำไมเรื่องนี้สำคัญ

ปัญหาสมองเสื่อมเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้สูงอายุต้องพึ่งพาผู้อื่น และเป็นภาระทั้งทางอารมณ์และการเงินของครอบครัวและสังคม จำนวนผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นตามการสูงอายุของประชากร การเข้าใจสาเหตุ อาการและแนวทางการดูแลจะช่วยให้เรารับมือได้ดียิ่งขึ้น

สรุปสั้น ๆ ของหัวข้อหลัก (Key points)

  • ภาวะสมองเสื่อม = กลุ่มอาการที่มีการเสื่อมถอยของการทำงานทางสมอง
  • โรคอัลไซเมอร์เป็นสาเหตุที่พบบ่อยสุด แต่ยังมีสาเหตุอื่นเช่น vascular dementia, Lewy body dementia และ frontotemporal dementia
  • มีสาเหตุที่อาจย้อนกลับได้ (reversible) เช่น ภาวะขาดวิตามิน ผลข้างเคียงยา หรือการติดเชื้อ
  • การวินิจฉัยต้องอาศัยการประเมินทางคลินิกและการตรวจเพิ่มเติม—การพบเร็วช่วยให้มีโอกาสจัดการได้ดีขึ้น

อาการของภาวะสมองเสื่อม (Symptoms)

อาการขึ้นอยู่กับชนิดและบริเวณที่สมองได้รับความเสียหาย แต่มักมีการเสื่อมอย่างน้อย 2 ด้านจากฟังก์ชันหลักต่อไปนี้:

  • ความจำ โดยเฉพาะความจำระยะสั้น — ลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิด
  • การสื่อสารและภาษา — พูดติดขัด หาคำไม่เจอ
  • สมาธิและการเรียงลำดับ — ทำงานหลายขั้นตอนไม่ได้
  • การตัดสินใจและเหตุผล — ตัดสินใจผิดพลาดบ่อย
  • การรับรู้ทางสายตา — มองป้ายหรือระยะทางผิดพลาด
  • การเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์และพฤติกรรม — ซึมเศร้า วิตกกังวล ก้าวร้าว หรือไม่แยแสกิจกรรมเดิม

หมายเหตุ: การลืมเป็นบางครั้ง (เช่น ลืมชื่อคนคุ้นเคยชั่วคราวเมื่ออายุมากขึ้น) ยังไม่จำเป็นต้องเป็นภาวะสมองเสื่อม แต่ถ้าทำให้ชีวิตประจำวันมีปัญหา ควรเข้าพบแพทย์

สาเหตุและชนิดของภาวะสมองเสื่อม

ภาวะสมองเสื่อมเกิดจากการที่เซลล์สมอง (neurons) เสียหายหรือตาย ผลคือการสื่อสารระหว่างเซลล์ผิดปกติ แต่สาเหตุและรูปแบบการเสียหายต่างกันตามชนิด:

สมองเสื่อมชนิดไม่หาย

1. โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease)

เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ทำให้เกิดการสะสมของโปรตีนผิดปกติ (plaques และ tangles) ในสมอง บริเวณที่มักถูกทำลายก่อนคือ hippocampus ซึ่งเกี่ยวกับการเรียนรู้และความจำ

2. ภาวะสมองเสื่อมจากหลอดเลือด (Vascular dementia)

เกิดจากการที่สมองขาดเลือดหรือเกิดอาการหลอดเลือดสมอง ทำให้เซลล์สมองเสียหายเป็นหย่อม ๆ ซึ่งอาจสัมพันธ์กับโรคความดัน เบาหวาน หราภาวะไขมันในเลือดสูง

3. Lewy body dementia

มีการสะสมโปรตีนชื่อ Lewy bodies ในเซลล์สมอง ผู้ป่วยอาจมีภาพหลอน (visual hallucinations) ปัญหาการทรงตัว และอาการเปลี่ยนแปลงความใส่ใจได้เร็ว

4. Frontotemporal dementia

มักมีการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ พฤติกรรม และการใช้ภาษา มากกว่าการสูญเสียความจำในระยะแรก และพบได้ในวัยกลางคนบ้าง

5. Mixed dementia (ภาวะสมองเสื่อมแบบผสม)

ผู้ป่วยอาจมีการเปลี่ยนแปลงหลายแบบร่วมกัน เช่น Alzheimer’s + vascular dementia ซึ่งตรวจยืนยันได้ชัดในชันสูตรหลังเสียชีวิต แต่ในทางคลินิกก็มักคาดการณ์ได้จากอาการและภาพสมอง

สาเหตุที่กลับคืนได้ (Reversible causes)

ไม่ใช่ทุกภาวะที่ทำให้สมองเสื่อมจะถาวร—มีหลายสภาวะที่สามารถปรับปรุงได้หากรักษา เช่น:

  • ภาวะขาดวิตามิน (เช่น B12, B1) ขาดสารอาหาร หรือขาดน้ำ
  • โรคต่อมไร้ท่อ เช่น ไทรอยด์เกินหรือต่ำ น้ำตาลผิดปกติ เกลือแร่ไม่สมดุล
  • ผลข้างเคียงจากยาเช่น ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท ยาสเตอรอยด์ หรือสารเสพติด
  • การติดเชื้อหรือโรคภูมิคุ้มกันทำให้สมองทำงานผิดปกติชั่วคราว
  • ภาวะน้ำในสมองมาก (normal-pressure hydrocephalus)
  • การใช้แอลกอฮอล์หรือสารพิษเรื้อรัง
  • เลือดคั่งในศีรษะ (Subdural hematomas)
  • โรคทางสมอง เช่น ความดันในสมองสูง, เนื้องอก
  • ได้รับอุบัติเหตุทางศีรษะ
  • สารพิษจากสิ่งแวดล้อม เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ แอลกอฮอล์ โลหะหนัก

ปัจจัยเสี่ยง

เปลี่ยนแปลงไม่ได้

  • อายุ >65 ปี
  • ประวัติครอบครัวเป็นโรคสมองเสื่อม
  • ผู้ป่วย Down syndrome

เปลี่ยนแปลงได้

  • สูบบุหรี่ ดื่มสุรา
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง โรคอ้วน
  • โรคซึมเศร้า เบาหวาน
  • โรคนอนกรน

ตารางเปรียบเทียบ: Dementia ทั่วไป vs Alzheimer’s

ประเด็นDementia (ภาวะสมองเสื่อม)Alzheimer’s disease (อัลไซเมอร์)
ความหมายคำรวมของอาการสมองเสื่อมจากหลายสาเหตุโรคที่เป็นสาเหตุสำคัญของภาวะสมองเสื่อม มีลักษณะการสะสมโปรตีนผิดปกติ
อาการเริ่มต้นขึ้นกับชนิด — อาจเป็นการพูด การเคลื่อนไหว หรือภาพหลอนมักเริ่มด้วยความจำระยะสั้น เช่น ลืมเหตุการณ์หรือคำพูด
การดำเนินโรคขึ้นกับสาเหตุ บางชนิดช้า บางชนิดเร็วเป็นโรคที่ดำเนินเรื้อรังและแย่ลงตามเวลาจนถึงระยะสุดท้าย
การรักษาขึ้นกับสาเหตุ — บางชนิดรักษาได้ (reversible)ยังไม่มีการรักษาให้หาย แต่มียาที่ช่วยบรรเทาอาการได้

การวินิจฉัย — แพทย์ทำอย่างไร

ไม่มีการทดสอบเดียวที่ยืนยันภาวะสมองเสื่อมได้ 100% แพทย์มักใช้แนวทางร่วมกัน:

  • ประวัติจากผู้ป่วยและผู้ดูแล (onset, progression, ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน)
  • การตรวจร่างกายและการทดสอบทางประสาทวิทยา (เช่น MMSE, MoCA)
  • การตรวจเลือดเพื่อคัดกรองสาเหตุที่ย้อนกลับได้ (วิตามิน, ไทรอยด์, การติดเชื้อ)
  • การตรวจภาพสมอง (CT, MRI) เพื่อหาหลักฐานของภาวะสมองขาดเลือด เนื้องอก หรือการหดตัวของสมอง
  • ในบางกรณีอาจใช้ PET scan หรือการตรวจน้ำไขสันหลัง (CSF) เพื่อวินิจฉัยเชิงลึก

การวินิจฉัยเชิงชัดเจนอาจยาก โดยเฉพาะแยกชนิดของภาวะสมองเสื่อม แต่ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้การวินิจฉัยที่แม่นยำได้สูง

การรักษาและการดูแล

จุดประสงค์ของการรักษามีทั้ง 3 ด้านหลัก: 1) หาสาเหตุที่รักษาได้ 2) ลดอาการและชะลอการเสื่อม 3) ดูแลคุณภาพชีวิตและความปลอดภัย

1) การรักษทางการแพทย์

  • ยาที่ช่วยเรื่องความจำและการสื่อสาร: ยากลุ่ม cholinesterase inhibitors (เช่น donepezil, rivastigmine) และ memantine อาจช่วยบรรเทาอาการบางอย่างได้
  • จัดการอาการร่วม: ยารักษาซึมเศร้า ยาคลายกังวล หรือยาควบคุมพฤติกรรมในกรณีจำเป็น โดยต้องระมัดระวังผลข้างเคียง
  • รักษาโรคที่เป็นสาเหตุ: ถ้าพบว่ามีภาวะย้อนกลับได้ (เช่น ขาดวิตามิน หรือภาวะน้ำในสมองผิดปกติ) การรักษาต้นเหตุสามารถปรับปรุงอาการได้

2) การดูแลไม่ใช้ยา (Non-pharmacologic)

  • การฝึกความจำและกิจกรรมกระตุ้นสมอง (cognitive stimulation)
  • การปรับสภาพแวดล้อมเพื่อลดความเสี่ยง (เช่น ปิดเตาเมื่อไม่ใช้ ติดป้ายชัดเจน)
  • การบำบัดทางพฤติกรรมและจิตสังคม
  • การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านกายและอาชีพ (occupational therapy)

3) การดูแลด้านโภชนาการและสุขภาพโดยรวม

โภชนาการที่เหมาะสม การรักษาน้ำหนัก และการป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะสำลัก ควบคุมความดันและเบาหวาน ช่วยชะลอการเสื่อมและลดภาวะแทรกซ้อน

การดูแลระยะยาวและการสนับสนุนครอบครัว

เมื่อโรคดำเนินไป ผู้ป่วยอาจต้องการความช่วยเหลือมากขึ้น ครอบครัวและผู้ดูแลควรพิจารณา:

  • การวางแผนด้านกฎหมายและการเงิน (เช่น หนังสือมอบอำนาจ)
  • การจัดสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยที่บ้าน
  • การแบ่งเวลาพักผ่อนและช่วยเหลือสำหรับผู้ดูแล (respite care)
  • การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนผู้ดูแลและผู้ป่วย

การป้องกันและลดความเสี่ยง

ไม่มีวิธีรับประกันว่าจะป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ 100% แต่มีหลักปฏิบัติที่ช่วยลดความเสี่ยงและส่งเสริมสุขภาพสมอง:

  • ดูแลหัวใจและหลอดเลือด: ควบคุมความดัน เบาหวาน ไขมันสูง และน้ำหนัก
  • ออกกำลังกาย: อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ตามแนวทางสุขภาพทั่วไป
  • โภชนาการที่ดี: โครงแบบ Mediterranean diet เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช ปลา และไขมันที่ดี
  • เลิกสูบบุหรี่และจำกัดแอลกอฮอล์
  • นอนหลับเพียงพอและแก้ปัญหาการหยุดหายใจขณะหลับ
  • กระตุ้นสมองและสังคม: อ่าน เล่นเกมฝึกสมอง เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และรักษาความสัมพันธ์ทางสังคม
  • ตรวจสุขภาพตามคำแนะนำและรับวัคซีนตามช่วงอายุ

ภาวะแทรกซ้อนและสิ่งที่ควรระวัง

ภาวะสมองเสื่อมสามารถนำไปสู่:

  • ภาวะโภชนาการไม่เพียงพอและการสำลัก
  • การติดเชื้อ เช่น ปอดบวม
  • การสูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง
  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น ขับรถหรือการหลงทาง

เมื่อต้องไปพบแพทย์ (When to see a doctor)

ควรปรึกษาแพทย์หาก:

  • ความจำหรือการคิดมีปัญหาจนกระทบงานหรือชีวิตประจำวัน
  • บุคคลใกล้ชิดสังเกตการเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์หรือพฤติกรรม
  • มีอาการหลงทางบ่อย หรือทำกิจวัตรประจำวันที่เคยทำได้ประจำไม่ได้

การตรวจพบเร็วจะช่วยให้จัดการอาการได้ดีขึ้นและมีเวลาวางแผนล่วงหน้า

คำแนะนำสำหรับผู้ดูแล

ผู้ดูแลควรรับรู้ถึงสัญญาณเตือนและเตรียมตัวด้านการดูแล:

  • เรียนรู้การสื่อสารกับผู้ป่วยอย่างชัดเจนและใจเย็น
  • จัดบ้านให้ปลอดภัยและลดสัญญาณที่อาจทำให้สับสน
  • หาความช่วยเหลือจากบริการสาธารณสุขหรือกลุ่มสนับสนุน
  • ดูแลสุขภาพจิตของตัวเองเพื่อป้องกันการเหนื่อยล้าหรือภาวะซึมเศร้า

สรุปและข้อคิดท้ายบทความ (Key takeaways)

  • ภาวะสมองเสื่อมเป็นกลุ่มอาการที่มีสาเหตุหลายอย่าง — อัลไซเมอร์เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด
  • การวินิจฉัยเร็วและการแยกสาเหตุที่ย้อนกลับได้มีความสำคัญ
  • แม้อย่างน้อยบางชนิดจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาและการดูแลสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้
  • การป้องกันที่เน้นสุขภาพหัวใจ-หลอดเลือด การออกกำลังกาย และการกระตุ้นสมอง มีแนวโน้มช่วยลดความเสี่ยง

หากคุณสงสัยว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดอาจมีภาวะสมองเสื่อม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (neurologist, geriatrician หรือจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ) เพื่อการประเมินอย่างละเอียด