siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

การติดสุรา (Alcohol Use Disorder): ดื่มอย่างไรถึงเข้าข่าย และอันตรายที่คุณควรรู้

"ภาวะติดสุรา" หรือในทางการแพทย์เรียกว่า Alcohol Use Disorder (AUD) คือภาวะทางสมองเรื้อรังที่ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมหรือหยุดการดื่มแอลกอฮอล์ได้ แม้จะรู้ว่าการดื่มนั้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพกาย จิตใจ ความสัมพันธ์ การงาน และการเงิน AUD ไม่ได้เป็นเพียง "การดื่มหนัก" แต่เป็นโรคที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในสมองซึ่งทำให้เกิดความอยากดื่มอย่างรุนแรงและเสี่ยงต่อการกลับไปดื่มซ้ำ แต่ข่าวดีคือ AUD เป็นภาวะที่สามารถรักษาได้

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจทุกมิติของ AUD ตั้งแต่เกณฑ์การวินิจฉัย สาเหตุ ผลกระทบ ไปจนถึงแนวทางการรักษาที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์

 


ดื่มอย่างไรถึงเข้าข่าย “เสี่ยง” และ “ติดสุรา”

การทำความเข้าใจนิยามของการดื่มเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อประเมินความเสี่ยงของตนเองและคนรอบข้าง

1. การดื่มหนัก (Heavy Drinking / Binge Drinking)

การดื่มหนักเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ AUD ได้ แบ่งเป็น:

1 หน่วยดื่มมาตรฐาน (Standard Drink) คืออะไร?

ติดสุรา

 

2. เกณฑ์การวินิจฉัยภาวะติดสุรา (Alcohol Use Disorder)

การวินิจฉัย Alcohol Use Disorder

การวินิจฉัย AUD อาศัยการประเมินจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ โดยพิจารณาจาก:

เกณฑ์การวินิจฉัย:ตามเกณฑ์ DSM-5 แพทย์จะวินิจฉัยว่าบุคคลมีภาวะ AUD หากมีอาการดังต่อไปนี้ ตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป ภายในระยะเวลา 12 เดือน:

  1. ดื่มในปริมาณมากกว่าหรือนานกว่าที่ตั้งใจไว้

  2. พยายามลดหรือเลิกดื่มหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ

  3. ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดื่ม การหาสุรามาดื่ม หรือการฟื้นตัวจากอาการเมา

  4. มีความอยากดื่มอย่างรุนแรงจนไม่สามารถคิดเรื่องอื่นได้

  5. การดื่มส่งผลกระทบต่อความรับผิดชอบที่บ้าน ที่ทำงาน หรือโรงเรียนซ้ำๆ

  6. ยังคงดื่มต่อไปแม้จะทำให้เกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือเพื่อน

  7. ล้มเลิกหรือลดความสำคัญของกิจกรรมที่เคยชอบ เพื่อไปดื่มสุรา

  8. ดื่มในสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายซ้ำๆ (เช่น ดื่มแล้วขับรถ, ทำงานกับเครื่องจักร)

  9. ยังคงดื่มต่อไปทั้งที่รู้ว่าทำให้ปัญหาสุขภาพกายหรือจิตใจแย่ลง

  10. ภาวะทนต่อแอลกอฮอล์ (Tolerance): ต้องดื่มในปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้รู้สึกเมาเท่าเดิม

  11. ภาวะถอนสุรา (Withdrawal): เกิดอาการไม่พึงประสงค์เมื่อหยุดหรือลดการดื่ม (เช่น มือสั่น เหงื่อออก คลื่นไส้ วิตกกังวล) หรือต้องดื่มเพื่อระงับอาการเหล่านี้

การประเมินความรุนแรง:


สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของ AUD

AUD เป็นโรคที่ซับซ้อนซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ใช่แค่เรื่องของจิตใจที่อ่อนแอ:


อาการการติดสุรา

ความผิดปกติจากการดื่มสุราอาจมีเล็กน้อย ปานกลาง หรือรุนแรง ขึ้นอยู่กับจำนวนอาการที่คุณพบ อาการและอาการแสดงอาจรวมถึง:

ความผิดปกติจากการใช้แอลกอฮอล์อาจรวมถึงช่วงที่เมาสุรา (มึนเมาจากแอลกอฮอล์) และอาการถอนสุรา

 


ผลกระทบที่อันตรายของ Alcohol Use Disorder

AUD ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกด้านของชีวิต:

1. ผลกระทบต่อร่างกาย

2. ผลกระทบต่อจิตใจ

3. ผลกระทบต่อสังคมและความสัมพันธ์

4.ผลกระทบทางการเงิน

ระดับความมึนเมาของแอลกอฮอล์ในเลือด (Blood Alcohol Content: BAC)

ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสัมพันธ์กับอาการที่แสดงออก:

BAC (มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) อาการแสดง
30 สนุกสนาน ร่าเริง
50 เสียการควบคุมการเคลื่อนไหว เริ่มเดินเซ
100 เดินไม่ตรงทาง
200 สับสน งงงวย
300 ง่วงซึม
มากกว่า 400 สลบ หมดสติ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

หมายเหตุ: โดยทั่วไปถือว่า เมาแล้วขับ เมื่อมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดตั้งแต่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ในประเทศไทย

 


แนวทางการรักษา Alcohol Use Disorder

การรักษา AUD เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการสนับสนุนจากหลายฝ่าย โดยมีแนวทางหลักดังนี้:

1. การจัดการภาวะถอนพิษสุรา (Detoxification)

สำหรับผู้ที่ดื่มหนักมานาน การหยุดดื่มกะทันหันอาจอันตรายถึงชีวิตจาก ภาวะถอนพิษสุรารุนแรง (Delirium Tremens) ซึ่งทำให้เกิดอาการสับสน ประสาทหลอน ชัก และหัวใจเต้นผิดปกติ จึงจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ในโรงพยาบาล ซึ่งจะให้ยาในกลุ่ม Benzodiazepines เพื่อควบคุมอาการให้ปลอดภัย

2. การรักษาด้วยยา (Medications)

ยาที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้รักษา AUD มีจุดประสงค์เพื่อลดความอยากดื่มและป้องกันการกลับไปดื่มซ้ำ:

3. จิตบำบัดและพฤติกรรมบำบัด (Psychotherapy)

4. กลุ่มสนับสนุน (Support Groups)

กลุ่มสนับสนุน เช่น Alcoholics Anonymous (AA) เป็นแหล่งให้กำลังใจที่สำคัญ ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่โดดเดี่ยวและได้เรียนรู้ประสบการณ์จากผู้ที่กำลังฟื้นตัวเช่นกัน


ใครที่ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด?

มีบางกลุ่มบุคคลที่ไม่ควรดื่มสุราเลย เนื่องจากอาจก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพหรือความปลอดภัย:

หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังเผชิญกับปัญหานี้ โปรดเข้าใจว่า AUD คือโรค ไม่ใช่ความล้มเหลวทางศีลธรรม การขอความช่วยเหลือจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญคือหนทางสู่การฟื้นตัวและกลับมามีชีวิตที่มีคุณภาพอีกครั้ง

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

เพิ่มเพื่อน