siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

อาการคัน (Pruritus): ความหมาย สาเหตุ และการจัดการ

เผยแพร่เมื่อ:

โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

อาการคัน (Pruritus) เป็นอาการที่พบได้บ่อยในโรคผิวหนังหลายชนิดและอาจเป็นสัญญาณของโรคระบบอื่น ๆ บทความนี้ให้ข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับอาการคัน รวมถึงความหมาย สาเหตุ กลไกการเกิด การวินิจฉัย และแนวทางการรักษา เพื่อช่วยให้เข้าใจและจัดการอาการนี้ได้อย่างเหมาะสม

ความหมายและสาเหตุ

อาการคัน หรือ Pruritus คือความรู้สึกไม่พึงประสงค์บนผิวหนังที่กระตุ้นให้อยากเกา เป็นลักษณะเด่นของโรคผิวหนังหลายชนิด และบางครั้งอาจเป็นอาการที่ผิดปกติของโรคระบบอื่น ๆ อาการคันอาจเกิดขึ้นเฉพาะที่หรือทั่วร่างกาย และอาจเป็นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง หากคันนานเกิน 6 สัปดาห์ จะเรียกว่า อาการคันเรื้อรัง อาการคันอาจรุนแรงจนรบกวนชีวิตประจำวัน และเป็นความท้าทายทั้งในการวินิจฉัยและการรักษา

ความชุก ปัจจัยเสี่ยง และประวัติตามธรรมชาติ

ข้อมูลเกี่ยวกับความชุก ปัจจัยเสี่ยง และประวัติตามธรรมชาติของอาการคันมีจำกัด เฉพาะบางโรคที่เกี่ยวข้องกับอาการคัน ซึ่งจะกล่าวถึงในส่วนของโรคที่เฉพาะเจาะจง

กลไกการเกิดอาการคัน

กลไกส่วนปลาย

กลไกส่วนกลาง

ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกหรือรอยโรคในระบบประสาทส่วนกลางมักมีอาการคันรุนแรงที่รักษายาก การใช้ Opioids ในการระงับความรู้สึกแบบ Epidural Anesthesia ก็อาจทำให้เกิดอาการคันได้

สาเหตุ

อาการคันอาจเกิดจากสาเหตุทางผิวหนังหรือระบบอื่น ๆ และจำเป็นต้องตรวจสอบว่ามีผื่นร่วมด้วยหรือไม่ ผื่นที่มีลักษณะเฉพาะมักบ่งบอกถึงโรคผิวหนังหลัก รายการโรคผิวหนังบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาการคันเรื้อรังอยู่ใน ตารางที่ 1

ตารางที่ 1: โรคผิวหนังบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาการคันเรื้อรัง

หมายเหตุ: อาการคันอาจเป็นแบบทั่วร่างกายหรือเฉพาะที่ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
ที่มา: อ้างอิงจาก Pujol RM, Gallardo F, Llistosella E, et al., 2002; Ständer S, Weisshaar E, Mettang T, et al., 2007

อาการคันเป็นส่วนสำคัญของบางโรค เช่น Atopic Eczema, Dermatitis Herpetiformis, Lichen Simplex Chronicus และ Nodular Prurigo ซึ่งมักไม่พบโรคเหล่านี้หากไม่มีอาการคัน ในบางกรณี เช่น ลมพิษระดับเบา (Mild Urticaria) หรือ Aquagenic Pruritus ระดับฮิสตามีนอาจเพียงพอให้เกิดความรู้สึกคัน แต่ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนัง Bullous Pemphigoid อาจเริ่มด้วยอาการคันก่อนเกิดตุ่มน้ำเป็นเวลาหลายเดือน Mycosis Fungoides รูปแบบที่มองไม่เห็นอาจปรากฏเป็นอาการคันโดยไม่มีผื่น และต้องวินิจฉัยด้วยการตัดชิ้นเนื้อ

การตรวจสอบว่าอาการคันเกิดก่อนผื่นหรือไม่เป็นสิ่งสำคัญ การเกามากอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนัง เช่น รอยถลอก (Excoriation), การหนาตัวของผิว (Lichenification), ผิวแห้ง, ผิวหนังอักเสบ (Eczematization) และการติดเชื้อ การอาบน้ำบ่อยเกินไปหรือการแพ้ยาทาเฉพาะที่อาจทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ ซึ่งไม่ควรตีความว่าเป็นโรคผิวหนังหลัก

สาเหตุจากระบบอื่น

โรคระบบอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการคันเรื้อรังอยู่ใน ตารางที่ 2 บางโรคอาจร้ายแรง และการวินิจฉัยอาการคันทั่วร่างกายว่าเป็น “ผิวหนังอักเสบไม่เฉพาะเจาะจง” โดยไม่排除โรคเหล่านี้อาจเป็นอันตราย อาการคันจากโรคระบบอื่นมักเป็นแบบทั่วร่างกาย อาจเป็นอาการเดียวที่แสดงออก และไม่มีผื่นเฉพาะเจาะจง

ตารางที่ 2: สาเหตุจากระบบอื่นที่ทำให้เกิดอาการคันเรื้อรัง

ที่มา: อ้างอิงจาก Pujol RM, Gallardo F, Llistosella E, et al., 2002; Ständer S, Weisshaar E, Mettang T, et al., 2007

การวินิจฉัย

การซักประวัติ

การซักประวัติอย่างละเอียดเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการวินิจฉัยสาเหตุของอาการคัน ควรสอบถามเกี่ยวกับ:

การตรวจร่างกาย

การตรวจในระบบอื่น ๆ (Review of Systems)

การซักประวัติในผู้ป่วยที่มีอาการคันเรื้อรังที่ไม่ทราบสาเหตุ ควรครอบคลุม:

การตรวจในห้องปฏิบัติการ

หากการซักประวัติและตรวจร่างกายไม่ชัดเจน ควรส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ:

การตัดชิ้นเนื้อผิวหนังอาจจำเป็นในกรณีที่ไม่มีผื่น เพื่อตรวจหาภูมิคุ้มกันที่สะสมในระยะเริ่มต้นของ Pemphigoid หรือวินิจฉัย Mycosis Fungoides ผู้ป่วยที่มีอาการคันเรื้อรังที่ไม่ทราบสาเหตุควรได้รับการติดตามและประเมินซ้ำเป็นระยะ เนื่องจากโรคที่ซ่อนอยู่อาจปรากฏในภายหลัง

การรักษา

แนวคิดทั่วไปและการรักษาเฉพาะที่/ระบบ

การระบุและรักษาสาเหตุหลักเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการจัดการอาการคัน การรักษาแบบบรรเทาอาการควรใช้ควบคู่ไปกับการรักษาโรคหลัก:

ตารางที่ 3: ตัวเลือกการรักษาอาการคัน

ที่มา: อ้างอิงจาก Hagermark O, Wahlgren C, 1995

การรักษาโรคเฉพาะ

สรุป

 

เพิ่มเพื่อน