ซิฟิลิส (Syphilis): โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ต้องระวัง
ซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากแบคทีเรีย *Treponema pallidum* หากไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น โรคหัวใจ, ระบบประสาทเสียหาย, หรือตาบอด บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อ, อาการ, การวินิจฉัย, การรักษา, และวิธีป้องกัน
ซิฟิลิสคืออะไร และติดต่อได้อย่างไร
ซิฟิลิสเกิดจากแบคทีเรีย *Treponema pallidum* ซึ่งเข้าสู่ร่างกายผ่านเยื่อเมือก เช่น ช่องคลอด, ท่อปัสสาวะ, ปาก, เยื่อบุตา, หรือผิวหนังที่มีแผล จากนั้นเชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือดและจับตามอวัยวะต่าง ๆ ทำให้เกิดโรคตามอวัยวะและภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว
การติดต่อจากคนสู่คน
- ทางเพศสัมพันธ์: ติดต่อผ่านการสัมผัสทางช่องคลอด, ทวารหนัก, หรือช่องปาก โดยเฉพาะเมื่อมีแผล Chancre หรือในระยะ Secondary ที่มีหูด Condylomata lata ซึ่งมีเชื้อปริมาณมาก
- ผ่านแผล: การสัมผัสโดยตรงกับแผล Chancre หรือผิวหนังที่มีแผลที่มีเชื้อ
- ระยะที่มีการติดต่อสูง: ระยะ Primary และ Secondary มีโอกาสติดต่อสูง โดยเฉพาะระยะ Primary ที่อาจไม่มีอาการชัดเจน
การติดต่อทางอื่น
- จากแม่สู่ลูก: ติดต่อจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์หรือคลอด (Congenital Syphilis)
- ทางเลือด: ผ่านการใช้เข็มฉีดยาร่วมหรือรับเลือดที่มีเชื้อ
- การสัมผัสทั่วไป: เชื้อตายง่ายนอกร่างกาย จึงไม่ติดต่อผ่านการสัมผัสมือ, การใช้ห้องน้ำร่วม, หรือของใช้ส่วนตัว
ระยะและอาการของซิฟิลิส
ซิฟิลิสมี 4 ระยะหลัก และ Congenital Syphilis ในเด็ก:
1. Primary Syphilis (ระยะแรก)
- ระยะฟักตัว: 10-90 วัน (เฉลี่ย 21 วัน) หลังรับเชื้อ
- อาการ: เกิดแผลริมแข็ง (Chancre) ที่จุดสัมผัส เช่น อวัยวะเพศชาย, อัณฑะ, ช่องคลอด, ทวารหนัก, หรือริมฝีปาก แผลมักเป็นแผลเดี่ยว, ไม่เจ็บ, ขอบนูน, และต่อมน้ำเหลืองโตแต่กดไม่เจ็บ
- ระยะเวลา: แผลอยู่นาน 1-5 สัปดาห์ หายเอง แต่เชื้อยังอยู่ในกระแสเลือด
- หมายเหตุ: ในผู้ป่วย HIV แผลอาจใหญ่และเจ็บมาก การตรวจเลือดอาจให้ผลลบถึง 30%
2. Secondary Syphilis (ระยะที่สอง)
อาการที่สำคัญมีดังนี้
- ระยะเวลา: เกิดหลังรับเชื้อ 17 วันถึง 6 เดือน อาการอยู่นาน 2-6 สัปดาห์
- อาการ: ผื่นแดงน้ำตาลที่ฝ่ามือ, ฝ่าเท้า, หรือทั่วตัว (ไม่คัน), หูด Condylomata lata บริเวณที่อับชื้น (รักแร้, ขาหนีบ, ทวารหนัก), ผื่นสีเทาในปาก, คอ, หรือปากมดลูก, ผมร่วงเป็นหย่อม, ต่อมน้ำเหลืองโต, ปวดข้อ, รู้สึกไม่สบาย
- หมายเหตุ: อาการอาจหายเองใน 1-3 เดือน แต่กลับเป็นซ้ำได้ การตรวจเลือดในระยะนี้ให้ผลบวก
3. Latent Syphilis (ระยะแฝง)
- ระยะเวลา: 2-30 ปีหลังรับเชื้อ
- อาการ: ไม่มีอาการ แต่เชื้อยังอยู่ในร่างกาย อาจเกิดผื่นเหมือนระยะที่สองได้บ้าง
- หมายเหตุ: ตรวจพบได้จากการเจาะเลือด หากตั้งครรภ์ในระยะนี้ เชื้ออาจติดไปยังลูก
4. Tertiary Syphilis (ระยะรุนแรง)
- ระยะเวลา: 2-30 ปีหลังรับเชื้อ
- อาการ: เชื้อทำลายอวัยวะ เช่น หัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Syphilis), ระบบประสาท (Neurosyphilis) ทำให้อ่อนแรงหรือตาบอด, กระดูกหักง่าย, หรือเกิดก้อน Gumma
- หมายเหตุ: อวัยวะที่ถูกทำลายอาจไม่กลับเป็นปกติ การตรวจเลือดอาจให้ผลลบถึง 30%
Congenital Syphilis (ซิฟิลิสในทารก)
- การติดต่อ: จากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์หรือคลอด
- อาการ: หลังคลอด 3-8 สัปดาห์ อาจมีผื่น, กระดูกผิดรูป, หูหนวก, หรือเสียชีวิต หากไม่รักษา อาจเข้าสู่ระยะ Tertiary ในวัยเด็ก
- หมายเหตุ: อาการอาจเล็กน้อยจนมองข้าม ทำให้ไม่ได้รับการรักษา
การวินิจฉัยซิฟิลิส
- Darkfield Exam: เก็บน้ำเหลืองจากแผลหรือผื่นไปส่องกล้องเพื่อหาเชื้อ *Treponema pallidum* เหมาะกับระยะ Primary และ Secondary
- การตรวจเลือด:
- การตรวจเบื้องต้น: VDRL (Venereal Disease Research Laboratory) หรือ RPR (Rapid Plasma Reagent) เพื่อหาภูมิคุ้มกัน
- การยืนยัน: FTA-ABS (Fluorescent Treponemal Antibody Absorption Test) หรือ MHA-TP (Microhemagglutination-Treponema Pallidum)
- การตรวจน้ำไขสันหลัง: ใช้ในกรณีสงสัย Neurosyphilis
- ข้อควรระวัง: ผู้ที่เคยเป็นซิฟิลิสมาก่อน อาจให้ผลบวกหลอก (False Positive) แม้ไม่เป็นโรค
การรักษาซิฟิลิส
ซิฟิลิสสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ โดยเฉพาะในระยะแรก ๆ:
ระยะของโรค | การรักษาที่แนะนำ | การรักษาทางเลือก |
Primary, Secondary, หรือ Latent (น้อยกว่า 1 ปี) | Benzathine Penicillin G 2.4 ล้านยูนิต ฉีดเข้ากล้ามครั้งเดียว | Doxycycline 100 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง นาน 14 วัน หรือ Tetracycline 500 มก. รับประทานวันละ 4 ครั้ง นาน 14 วัน |
Latent (มากกว่า 1 ปี), โรคหัวใจ, หรือ Gumma | Benzathine Penicillin G 2.4 ล้านยูนิต ฉีดเข้ากล้าม สัปดาห์ละครั้ง นาน 3 สัปดาห์ | Doxycycline 100 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง นาน 28 วัน หรือ Tetracycline 500 มก. รับประทานวันละ 4 ครั้ง นาน 28 วัน |
Neurosyphilis | Aqueous Crystalline Penicillin G 18-24 ล้านยูนิต ฉีดเข้าหลอดเลือดดำทุกวัน นาน 10-14 วัน | Procaine Penicillin 2.4 ล้านยูนิต ฉีดทุกวัน พร้อม Probenecid 500 มก. รับประทานวันละ 4 ครั้ง นาน 10-14 วัน |
การติดตามผล
- หลังรักษา ควรตรวจเลือดซ้ำที่ 6 เดือน, 12 เดือน, และทุก ๆ ปี เพื่อยืนยันว่าเชื้อหมดไป
- ทั้งคู่ควรได้รับการรักษาพร้อมกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
ความสัมพันธ์ระหว่างซิฟิลิสและ HIV
ผู้ป่วยซิฟิลิสมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ HIV ถึง 2-5 เท่า เนื่องจากแผลจากซิฟิลิส (ที่ช่องคลอด, อวัยวะเพศ, หรือทวารหนัก) ทำให้เชื้อ HIV เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
ใครควรตรวจหาซิฟิลิส
- หญิงตั้งครรภ์
- กลุ่มชายรักชาย (MSM)
- ผู้ป่วย HIV
- ผู้ที่มีคู่นอนที่ตรวจพบเชื้อ HIV
- ผู้ที่มีคู่นอนหลายคนหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง
การป้องกันซิฟิลิส
- ใช้ถุงยางอนามัย: ลดความเสี่ยงจากการสัมผัสทางเพศ
- ตรวจคัดกรอง: ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง
- หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วม: เพื่อป้องกันการติดเชื้อผ่านทางเลือด
- รักษาคู่พร้อมกัน: หากติดเชื้อ ควรแจ้งคู่นอนเพื่อรับการรักษาพร้อมกัน
- การดูแลหญิงตั้งครรภ์: ตรวจคัดกรองซิฟิลิสในหญิงตั้งครรภ์เพื่อป้องกัน Congenital Syphilis
ข้อควรระวัง
- ซิฟิลิสในระยะแรกอาจไม่มีอาการเด่นชัด ควรหมั่นสังเกตและตรวจสุขภาพ
- ผู้ที่หายจากซิฟิลิสแล้วสามารถติดเชื้อซ้ำได้หากสัมผัสเชื้อใหม่
- หากสงสัยว่าติดเชื้อ ควรงดมีเพศสัมพันธ์จนกว่ารักษาจะหาย
สรุป
ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ร้ายแรงหากไม่ได้รับการรักษา การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกและรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลิน สามารถกำจัดเชื้อได้ แต่หากปล่อยไว้จนถึงระยะรุนแรง อาจเกิดผลกระทบถาวร การป้องกันด้วยการใช้ถุงยางอนามัย, ตรวจคัดกรองเป็นประจำ, และการดูแลสุขภาพอย่างดีเป็นสิ่งสำคัญ หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาทันที
เผยแพร่เมื่อ:
โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
