ยาสำหรับรักษาโรคกระเพาะอาหาร

Ranidine

เป็นผลสีเหลืองมีชื่อว่า Ranidine hydrochloride น้ำหนัก 168 มิลิกรัมจะเท่ากับ Ranidine 150 มิลิกรัม ยาตัวนี้ออกฤทธิ์โดยการกั้นที่ Histamune 2 receptor {H2-antagonist}มีข้อบ่งชี้ในการใช้ยาดังนี้

  1. ใช้ในการรักษาแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น doudenum โดยใช้เวลาประมาณ 8 สัปดาห์ อาจจะให้ร่วมกับยากระเพาะชนิดอื่นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด
  2. ใช้รักษาต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำของแผลในกระเพาะอาหาร gastric ulcer แผลลำไส้เล็กส่วนต้น duodenum ulcer
  3. ใช้ในภาวะที่มีการหลั่งของกรดมากเช่น Zollinger=Ellison syndrome

ขนาดและวิธีใช้

  • แผลกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้นจะใช้ขนาด 150 มิลิกรัมวันละ 2 ครั้งหรืออาจจะได้รับ 100 มิลิกรัมวันละ 2 ครั้งก็ได้ผล ผู้ป่วยร้อยละ 37 แผลจะหายหลังการใช้ยา 2 สัปดาห์ หากไม่ได้ส่องกล้องเพื่อตรวจว่าแผลหายหรือไม่แนะนำให้รับประทานยา 4 สัปดาห์ บางรายอาจจะต้องให้ต่อเนื่อง 8 สัปดาห์
  • ในผู้ป่วยที่มีการหลั่งกรดมากต้องให้ยาขนาดมากกว่าปกติคืออาจจะให้ 150 มิลิกรัม วันละ 3 ครั้งบางคนอาจจะต้องให้ถึงวันละ 600-900มิลิกรัม
  • ผู้ป่วยสูงอายุหรือมีโรคไตต้องลดขนาดของยาลง เพื่อป้องกันการสะสมของยา
  • สำหรับผู้ที่ได้รับยาลดกรดชนิดน้ำต้องรับประทานห่างกัน 1 ชั่วโมงคือให้รับประทานยา ranidine ทันทีหลังอาหาร อีกหนึ่งชั่วโมงจึงจะรับประทานยาลดกรดชนิดน้ำ เพราะยาลดกรดชนิดน้ำจะลดการดูดซึมของ ranidine

ผลข้างเคียงของยา

ยานี้มีผลข้างเคียงต่ำ อาการส่วนใหญ่คือปวดศีรษะ อาเจียน มึนงงและผื่นที่ผิวหนัง ยานี้มีผลต่อฮอร์โมนของร่างกายน้อย ไม่ทำให้เกิดความต้องการทางเพศลดลงหรือมีเต้านมโตเหมือนยารักษากระเพาะ cimetidine

ข้อควรระวังหรือข้อห้ามใช้

  • ต้องตรวจให้แนะใจว่าไม่ใช่มะเร็งกระเพาะก่อนจะให้ยา เนื่องจากอาจจะทำให้การรักษาช้า
  • ต้องระวังในหญิงมีครรภ์หรือขณะให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยโรคไตหรือสูงอายุต้องลดขนาดยาลง

ปฏิกิริยาของยาต่อยาชนิดอื่น

  • ยานี้จะยับยั้งการทำลายของยา warfarin theophyllin ethanol ดังนั้นต้องระวังหากจะใช้ร่วมกัน
  • ยานี้จะลดกรดทำให้กระเพาะเป็นรดน้อย อาจจะทำให้การดูดซึมของยาบางชนิดลดลง
  • ยานี้ขับออกทางไต อาจจะทำให้การขับยาบางอย่างลดลง
  • การสูบบุหรี่จะทำให้แผลหายน้อยลง

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ใช้ยานี้

  • ควรจะรับประทานยาสม่ำเสมอจนครบ หากลืมให้รับประทานทันที่ที่นึกขึ้นได้
  • ถ้าจะรับประทานยาลดกรดชนิดน้ำให้รับประทานห่างกันหนึ่งชั่วโมง
  • ควรจะรับประทานต่อแม้ว่าจะเริ่มรู้สึกว่าดีขึ้น
  • หากมีไข้เจ็บคอหรือมีผื่นขึ้นต้องแจ้งแพทย์
  • หากมีท้องผูกคลื่นไส้ก็ไม่ต้องหยุดยาเพราะอาการดังกล่าวหายได้เอง