ยาคุมกำเนิด progesterone

ชื่อสามัญ  Progesterone 

ตัวยามีด้วยกัน ชนิดได้แก่

Progesterone

ชื่อการค้า  Cyclogest(r) 400  

รูปแบบยา  แคปซูลชนิดนิ่ม

ยานี้ใช้สำหรับ 

  • ยานี้ใช้สำหรับป้องกันการเจริญของเซลล์เยื่อบุผนังมดลูกในสตรีวัยทองที่รับประทานฮอร์โมนทดแทน เพื่อลดโอกาสการเกิดมะเร็งเยื่อบุมดลูก
  • ยานี้ยังใช้สำหรับรักษาภาวะการขาดประจำเดือน (amenorrhea) ในสตรีที่เคยมีประจำเดือนมาก่อนแต่ประจำเดือนขาดไปเนื่องจากขาดฮอร์โมนโพรเจสเตอโรน

วิธีใช้ยา 

  • ยานี้อยู่ในรูปแบบยาแคปซูล โดยทั่วไปยานี้รับประทานวันละครั้งในช่วงตอนเย็น หรือก่อนนอน แพทย์อาจสั่งให้รับประทานยานี้ในบางช่วงของรอบเดือนและหยุดในบางช่วง เช่น รับประทานยานี้ 10-12 วัน และอีก 16-18 วันไม่ต้องรับประทาน หรือให้ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
  • ควรรับประทานยานี้ในช่วงระยะเวลาเดียวกันในทุกวันที่ต้องรับประทาน ไม่ควรหยุดยาก่อนระยะเวลาที่กำหนดแม้อาการจะดีขึ้น และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
  • ยานี้อาจทำให้เหงือกบวม หรือเลือดออก ผู้ป่วยควรแปรงฟันอย่างระมัดระวัง
  • ยานี้อาจทำให้วิงเวียน จึงควรใช้ความระมัดระวังในการขับรถ หรือการทำงานกับเครื่องจักร

สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ 

  • โรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือด การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หรือมีเส้นเลือดแตกหรือลิ่มเลือดอุดตันในสมอง มีลิ่มเลือดอุดตันที่ขา ปอด ตา หรือที่ใดๆ ในร่างกาย
  • เป็นมะเร็งเต้านม ปากมดลูก หรือช่องคลอด
  • เป็นโรคเบาหวาน
  • เป็นโรคหัวใจ
  • เป็นโรคไต
  • เป็นโรคตับ
  • ระดับไขมันในเลือดสูง
  • ตัดมดลูกออกแล้ว
  • ซึมเศร้า
  • ปวดศีรษะแบบไมเกรน
  • เป็นโรคลมชัก
  • มีเลือดออกจากช่องคลอดอย่างผิดปกติ
  • เป็นโรคหืด
  • กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด รวมทั้งการผ่าตัดรักษาฟัน ควรแจ้งแพทย์ผู้รักษาก่อนว่ากำลังได้รับยานี้
  • การแพ้ยา progesterone หรือยาอื่นๆ การแพ้อาหาร, สารแต่งสี หรือวัตถุกันเสีย
  • การตั้งครรภ์ การวางแผนในการตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตร

ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา  

  • ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา 

  • อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที 
    มีดังนี้ หายใจติดขัดอย่างฉับพลัน หน้า คอ ลิ้น ริมฝีปาก ตา มือ เท้า ขาบวม มือสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ กลืนอาหารลำบาก ทรงตัวไม่ได้ วิงเวียน หมดสติ สูญเสียการมองเห็น หรือมองเห็นภาพไม่ชัด มีปัญหาเกี่ยวกับการพูด คัดเจ็บเต้านม คลำพบก้อนในเต้านม มีเลือดออกจากช่องคลอดอย่างผิดปกติ ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อ หรือกระดูก ปวดบริเวณหน้าอก ขาหนีบ หรือขา ปวดศีรษะอย่างรุนแรง แขน ขาชา อ่อนเพลีย ไม่มีแรงอย่างผิดปกติ ตัวเหลือง ตาเหลือง หัวใจเต้นเร็ว ไอเป็นเลือด เป็นโรคลมชัก ซึมเศร้า
  • อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ  มีดังนี้ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ท้องผูก อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน กระวนกระวาย วิตกกังวล น้ำมูกไหล จาม ไอ การติดเชื้อในช่องคลอด

การเก็บรักษายา 

  • เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ให้อยู่ในที่ร้อนมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
  • เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก

เป็นยาคุมกำเนิดที่มีแต่ progestin อย่างเดียวจึงลดผลข้างเคียงของยา ยานี้อาจจะเรียก mini-pill กลไกการออกฤทธิ์ของยาคือจะทำให้เมือกที่ปากมดลูกเหนียวเชื้อ sperm ผ่านไปยาก และทำให้เยื่อบุมดลูกไม่เหมาะในการฝังตัว เป็นยาที่มีฮอร์โมนในขนาดน้อยจัดทำเป็นแผง 28 เม็ดยาทุกเม็ดมีตัวยาเหมือนกัน การกินยาให้เริ่มกินวันแรกของรอบเดือนและกินยาต่อเนื่องทุกวันโดยไม่ต้องหยุดยา เมื่อหมดแผงให้เริ่มแผงใหม่ทันที 

ข้อดีของยาชนิดนี้

  • ยานี้มีประโยชน์ ในผู้ที่ไม่สามารถทนอาการข้างเคียงของฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ เช่นคลื่นไส้อาเจียน แต่ว่าประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะต่ำว่ายาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรวม
  • สามารถใช้ในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
  • ใช้ในคนให้นมบุตรได้เนื่องจากไม่ได้ลดน้ำนม
  • มีความปลอดภัยมากกว่าชนิดฮอร์โมนรวมเมื่อใช้ในภาวะที่มีความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ หรือคนอ้วน

ข้อด้อยของยาคุมชนิดนี้

  • อาจจะมีเลือดออกกะปริดกะปอยในช่วงแรกของการใช้ยา อาจจะเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิดเป็นวิธีอื่น
  • น้ำหนักเพิ่ม คัดเต้านม
  • ยานี้ต้องรับประทานครบเดือนก่อนจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดังนั้นในเดือนแรกต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วย
  • ยาคุมนี้ต้องรับประทานให้ตรงเวลา หากคลาดเคลื่อนไป 3 ชั่วโมงควรใช้การคุมกำเนิดอย่างอื่นเช่นถุงยางอนามัย รอจนรอบหน้า
  • หากลืมรับประทานยาแม้เพียงวันเดียวก็ควรใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่น