siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

Clindamycin: ข้อมูลยาและการใช้งานที่ครอบคลุม

เผยแพร่เมื่อ:

โดย: นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร, อายุรแพทย์, แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว

Clindamycin คืออะไร?

Clindamycin (คลินดามัยซิน) เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มลินโคซาไมด์ (Lincosamide) ที่ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรียผ่านการจับกับหน่วยย่อย 50S ของไรโบโซม ช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ ยานี้มีชื่อทางการค้าว่า Cleocin และมีทั้งรูปแบบยาเม็ด (150 มก. และ 300 มก.), ยาน้ำ, ยาฉีด (150 มก./มล.), และยาทาสิว (ความแรง 1%) เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่แพ้เพนิซิลลินหรือการติดเชื้อที่ดื้อยา



ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา Clindamycin

Clindamycin ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ไวต่อยานี้ ดังนี้:

ยานี้บางครั้งใช้ป้องกันการติดเชื้อในผู้ป่วยก่อนผ่าตัด

ขนาดและวิธีใช้ยา Clindamycin

ขนาดยาขึ้นอยู่กับอายุ, น้ำหนัก, และความรุนแรงของการติดเชื้อ ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ คำแนะนำทั่วไป:

การใช้งาน รูปแบบยา ขนาดยา ความถี่ ระยะเวลา
การติดเชื้อทั่วไป (ปานกลาง) ยาเม็ด 150-300 มก. ทุก 6 ชั่วโมง (วันละ 4 ครั้ง) 7-10 วัน
การติดเชื้อรุนแรง ยาเม็ด/ยาฉีด 300-450 มก. ทุก 6 ชั่วโมง ตามแพทย์สั่ง
เด็ก (ปานกลาง) ยาน้ำ/ยาเม็ด 8-16 มก./กก./วัน แบ่งให้วันละ 3-4 ครั้ง 7-10 วัน
เด็ก (รุนแรง) ยาน้ำ/ยาเม็ด 16-20 มก./กก./วัน แบ่งให้วันละ 3-4 ครั้ง ตามแพทย์สั่ง
คออักเสบจาก Streptococcal ยาเม็ด 300 มก. (ผู้ใหญ่), 150 มก. (เด็ก) วันละ 2 ครั้ง 10 วัน
แผลเบาหวานที่เท้า ยาเม็ด 300 มก. วันละ 3-4 ครั้ง 7 วัน
สิว (ยาทา) ยาทา (1%) ทาเฉพาะที่ วันละ 2 ครั้ง (เช้าและก่อนนอน) ตามแพทย์สั่ง
ติดเชื้อในช่องคลอด ยาเม็ด 150-300 มก. วันละ 2 ครั้ง 7-10 วัน

คำแนะนำการใช้:

clindamycin

ผลข้างเคียงของ Clindamycin

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นมีดังนี้:

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย:

ผลข้างเคียงรุนแรง (หยุดยาและพบแพทย์ทันที):

ข้อควรระวังในการใช้ยา

ปฏิกิริยาต่อยาอื่น

แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างยา

วิธีเก็บรักษา

สรุป

Clindamycin เป็นยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ผิวหนัง, ปอด, กระดูก, ช่องท้อง, และช่องคลอด ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์และครบตามกำหนด หากมีอาการรุนแรง เช่น ท้องร่วงรุนแรงหรืออาการแพ้ ควรรีบพบแพทย์ทันที

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้ไม่สามารถแทนคำแนะนำจากแพทย์ได้