
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
HIIT คือรูปแบบการออกกำลังกายที่สลับระหว่างช่วงที่ "หนักมาก" ในระยะเวลาสั้นๆ กับช่วงที่ "เบาลง" เพื่อพักฟื้น โดยทำซ้ำเป็นรอบๆ
ตัวอย่างง่ายๆ ของ HIIT:
เดินเร็ว 3 นาที (ช่วงเบา) สลับกับ วิ่งเหยาะๆ หรือวิ่งเร็วเต็มที่ 1 นาที (ช่วงหนัก) ทำซ้ำ 4-5 รอบ
ประหยัดเวลาแต่ได้ผลลัพธ์สูง: งานวิจัยจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าการทำ HIIT โดยใช้เวลาเพียง 15-20 นาที สามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดได้เทียบเท่าหรือมากกว่าการออกกำลังกายแบบต่อเนื่องที่ความหนักปานกลางนาน 30-45 นาที
เพิ่มความไวของอินซูลินได้อย่างยอดเยี่ยม: HIIT เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการ "ปลุก" เซลล์กล้ามเนื้อให้ตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถดึงน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดภาวะดื้ออินซูลินได้ดีมาก
เผาผลาญไขมันและแคลอรีได้ดี: การออกกำลังกายที่หนักสลับเบาจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานสูงขึ้นต่อเนื่องแม้จะหยุดออกกำลังกายไปแล้ว (Afterburn Effect) ซึ่งดีต่อการควบคุมน้ำหนัก
นี่คือประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ผู้ป่วยต้องเข้าใจ:
ในช่วงที่คุณออกกำลังกาย "หนัก" ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียด เช่น อะดรีนาลีน (Adrenaline) ออกมา
ฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นให้ตับปล่อยน้ำตาลกลูโคสที่เก็บสะสมไว้ออกมาสู่กระแสเลือด เพื่อใช้เป็นพลังงานเร่งด่วน
ผลลัพธ์คือ ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณอาจพุ่งสูงขึ้นชั่วคราว ในระหว่างหรือหลังการทำ HIIT ทันที
แต่ไม่ต้องกังวล! ภาวะน้ำตาลสูงนี้เป็นเพียงภาวะชั่วคราวเท่านั้น และผลลัพธ์ในระยะยาวคือ ความไวของอินซูลินที่ดีขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งจะทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลโดยรวมของคุณดีขึ้นอย่างชัดเจน
HIIT มีประโยชน์มาก แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกันหากทำไม่ถูกวิธี:
ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ: นี่คือขั้นตอนที่ สำคัญที่สุดและห้ามข้ามโดยเด็ดขาด ก่อนที่คุณจะเริ่มโปรแกรมการออกกำลังกายที่มีความหนักสูง แพทย์จะช่วยประเมินว่าคุณพร้อมหรือไม่ และมีภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ (เช่น โรคหัวใจ, ปัญหาที่จอประสาทตา) หรือไม่
เริ่มต้นอย่างช้าๆ: อย่าเพิ่งหักโหมในวันแรก ค่อยๆ เพิ่มความหนักและความเร็วในช่วงสปรินต์ขึ้นทีละน้อย
ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเสมอ: การตรวจเลือดทั้งก่อน, ระหว่าง (หากไม่แน่ใจ), และหลังการทำ HIIT จะช่วยให้คุณเรียนรู้ว่าร่างกายของตนเองตอบสนองอย่างไร และป้องกันภาวะน้ำตาลต่ำที่อาจเกิดขึ้นตามมาในภายหลังได้
ฟังเสียงร่างกาย: หากรู้สึกเจ็บหน้าอก, เวียนศีรษะอย่างรุนแรง, หรือเจ็บปวดผิดปกติ ให้หยุดพักทันที
บทสรุป: HIIT คือเครื่องมือที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพในการควบคุมเบาหวาน แต่ต้องใช้อย่างชาญฉลาดและปลอดภัย การได้รับคำแนะนำจากแพทย์และการเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการออกกำลังกายรูปแบบนี้ครับ
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว