siamhealth

หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ

อาการถอนพิษสุรา (Alcohol Withdrawal): สัญญาณเตือน, ระยะของอาการ, และการรักษาที่ปลอดภัย

สำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์หนักเป็นประจำ การตัดสินใจหยุดดื่มคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ แต่ร่างกายที่คุ้นชินกับแอลกอฮอล์อาจเกิดปฏิกิริยาต่อต้านที่รุนแรงเมื่อขาดสุรา ซึ่งเรียกว่า "กลุ่มอาการถอนพิษสุรา" (Alcohol Withdrawal Syndrome - AWS) ภาวะนี้ไม่ใช่แค่ความรู้สึกไม่สบายตัว แต่เป็นภาวะทางการแพทย์ที่ซับซ้อนและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การทำความเข้าใจอาการในแต่ละระยะและความจำเป็นในการดูแลโดยแพทย์ คือหัวใจสำคัญของการเลิกดื่มอย่างปลอดภัย


ทำไมจึงเกิดอาการถอนพิษสุรา?

แอลกอฮอล์มีฤทธิ์ กด ระบบประสาท เมื่อดื่มเป็นประจำ สมองจะพยายามรักษาสมดุลโดยการปรับตัวให้ตื่นตัวและทำงานหนักขึ้นกว่าปกติเพื่อสู้กับฤทธิ์กดของสุรา

เมื่อคุณหยุดดื่มกะทันหัน ฤทธิ์กดของแอลกอฮอล์จะหายไป แต่สมองยังคงอยู่ในภาวะ "ตื่นตัวเกินเหตุ" ทำให้ระบบประสาททำงานผิดปกติและเกิดเป็นอาการถอนพิษสุราในรูปแบบต่างๆ


ระยะเวลาที่จะเกิดอาการถอนสุรา

ลำดับเวลาและระยะของอาการถอนพิษสุรา

อาการมักจะเริ่มปรากฏภายใน 6 ชั่วโมงหลังการดื่มครั้งสุดท้าย และจะรุนแรงที่สุดในช่วง 24-72 ชั่วโมง โดยสามารถแบ่งความรุนแรงและลักษณะอาการออกเป็น 4 กลุ่มหลัก

1. อาการถอนพิษสุราระยะเริ่มต้น (6 - 48 ชั่วโมง)

เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดขึ้นเมื่อระบบประสาทเริ่มขาดแอลกอฮอล์:

2. อาการชัก (6 - 48 ชั่วโมง)

ในผู้ป่วยบางราย (ประมาณ 15-20%) ระบบประสาทที่ตื่นตัวเกินเหตุอาจทำให้เกิดอาการชักเกร็งกระตุกทั้งตัว ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะถอนพิษที่รุนแรงขึ้น

3. ภาวะประสาทหลอน (12 - 48 ชั่วโมง)

ผู้ป่วยอาจเริ่มเห็นภาพหลอน, หูแว่ว, หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรมาไต่ตามตัว โดยในระยะนี้ผู้ป่วยมักจะยังรู้ตัวดีว่าสิ่งที่รับรู้นั้นไม่ใช่เรื่องจริง

4. ภาวะสับสนเพ้อคลั่ง (Delirium Tremens - DTs) (48 - 96 ชั่วโมง)

นี่คือ ระยะที่รุนแรงและอันตรายที่สุด ของการถอนพิษสุรา และถือเป็น ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงหากไม่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล

อาการพิษสุราเรื้อรัง

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอาการถอนพิษสุรารุนแรง


การรักษา: ทำไมจึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

เนื่องจากความเสี่ยงของอาการชักและภาวะ DTs ผู้ที่ดื่มหนักเป็นประจำจึงไม่ควรเลิกเหล้าแบบ "หักดิบ" ด้วยตัวเองที่บ้าน การรักษาที่ปลอดภัยต้องทำในสถานพยาบาล โดยมีแนวทางดังนี้:

  1. การดูแลทั่วไป: จัดสภาพแวดล้อมให้สงบและปลอดภัย, ให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนภาวะขาดน้ำ, และติดตามสัญญาณชีพอย่างใกล้ชิด

  2. การให้วิตามินเสริม: การให้ วิตามินบี 1 (Thiamine) ในขนาดสูงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อมรุนแรงที่เรียกว่า Wernicke-Korsakoff Syndrome

  3. การรักษาด้วยยา:

บทสรุป: อาการถอนพิษสุราเป็นภาวะแทรกซ้อนที่จริงจังของการติดสุรา การตัดสินใจเลิกดื่มคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่การทำอย่างปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หากคุณหรือคนใกล้ชิดต้องการเลิกดื่มสุรา โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัย

 

ทบทวนวันที่

โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว