
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
วัคซีนโควิด (COVID-19 vaccine) ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้สร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อ SARS-CoV-2 ซึ่งการตอบสนองของร่างกายนี้อาจทำให้เกิด ผลข้างเคียงชั่วคราว เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันเริ่มทำงาน
ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ไม่อันตรายและหายได้เองภายใน 1–3 วันหลังฉีดวัคซีน
| อาการ | ความถี่โดยประมาณ | วิธีดูแลเบื้องต้น |
|---|---|---|
| ปวดหรือบวมบริเวณที่ฉีด | มากกว่า 70% | ประคบเย็น พักแขนข้างที่ฉีด |
| มีไข้ หนาวสั่น | 30–50% | ดื่มน้ำมาก พักผ่อน หากไข้สูงกินยาพาราเซตามอลได้ |
| ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ | 20–40% | พักผ่อนมาก ๆ อาจใช้ยาแก้ปวดได้ |
| เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย | 20–30% | ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ |
| คลื่นไส้ | 10–15% | รับประทานอาหารอ่อน ๆ งดของมัน |
| อาการ | ลักษณะ | แนวทางปฏิบัติ |
|---|---|---|
| ผื่น ลมพิษ คัน | อาจเกิดจากการแพ้เล็กน้อย | หากไม่หายภายใน 1–2 วันให้ปรึกษาแพทย์ |
| ต่อมน้ำเหลืองโต | พบชั่วคราวหลังฉีด | มักหายภายใน 1 สัปดาห์ |
| ปวดข้อหรือกล้ามเนื้อรุนแรง | ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองมาก | หากอาการมากควรพบแพทย์ |
หายใจลำบาก แน่นหน้าอก
หน้าบวม ตาบวม ริมฝีปากบวม
ใจสั่น หน้ามืด เป็นลม
ปวดศีรษะรุนแรง แขนขาอ่อนแรง
มีจ้ำเลือด จุดเลือดออกผิดปกติ
👉 หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะอาจเป็นอาการแพ้วัคซีนขั้นรุนแรง (Anaphylaxis) หรือภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่สัมพันธ์กับวัคซีนบางชนิด
ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการออกกำลังกายหนัก 1–2 วัน
หากมีไข้สามารถรับประทานพาราเซตามอล (Paracetamol) ได้
สังเกตอาการอย่างน้อย 30 นาทีหลังฉีดวัคซีน
หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2–3 วัน ควรปรึกษาแพทย์
ผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดส่วนใหญ่เป็นอาการชั่วคราวและไม่อันตราย การได้รับวัคซีนยังคงเป็นวิธีป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว การติดตามอาการและดูแลตนเองหลังฉีดวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างปลอดภัย