
หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง และ "โอไมครอน (Omicron)" เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั่วโลก บทความนี้จะสรุปประเด็นสำคัญที่คุณควรรู้ ทั้งเรื่องอาการ ระยะฟักตัว ความรุนแรง และแนวทางการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง
จุดเด่นที่สำคัญของโอไมครอนคือ ระยะฟักตัวที่สั้นกว่า และอาการที่แตกต่างออกไป
โอไมครอน: ผู้ติดเชื้อจะเริ่มแสดงอาการใน 3 วัน
เดลต้า: ผู้ติดเชื้อจะเริ่มแสดงอาการใน 4-5 วัน
สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น): ผู้ติดเชื้อจะเริ่มแสดงอาการใน 5-6 วัน
การที่ระยะฟักตัวสั้นลง หมายความว่าผู้ติดเชื้อสามารถแพร่กระจายไวรัสไปสู่ผู้อื่นได้เร็วขึ้น แม้จะยังไม่แสดงอาการก็ตาม (Presymptomatic Transmission)
อาการของผู้ติดเชื้อโอไมครอนมักคล้ายกับไข้หวัดทั่วไป และอาจแตกต่างจากสายพันธุ์เดลต้าที่มักสูญเสียการรับรสหรือได้กลิ่น
น้ำมูกไหล
เจ็บคอ หรือแสบคอ
ปวดศีรษะ
อ่อนเพลีย
จาม
อาการอื่นๆ ที่อาจพบได้คือ ไอแห้ง คัดจมูก ปวดเมื่อยตามตัว และอาจมีไข้ต่ำๆ ส่วนอาการทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องร่วง ก็สามารถพบได้เช่นกัน
ผู้ที่ฉีดวัคซีน: หากติดเชื้อ อาการมักไม่รุนแรง เช่น เจ็บคอ ไอ จาม คัดจมูก และหายได้เร็วกว่า
ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน: มีแนวโน้มที่อาการจะรุนแรงและยาวนานกว่า อาจเริ่มต้นด้วยอาการคล้ายกัน แต่จะดำเนินไปในทางที่แย่ลง เช่น ไข้สูง ไอหนัก หายใจลำบาก จนอาจเกิดภาวะปอดอักเสบได้
แม้ว่าข้อมูลโดยรวมจะชี้ว่าโอไมครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า อัตราการนอนโรงพยาบาลและระยะเวลารักษาสั้นกว่า แต่ยังคงเป็นอันตรายสำหรับกลุ่มเสี่ยง
กลุ่มที่เสี่ยงต่ออาการรุนแรง ได้แก่:
ผู้สูงอายุ
ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด เบาหวาน โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง
ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง, HIV
ผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน
หากพบอาการรุนแรง เช่น หายใจเหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก สับสน หรือริมฝีปากและผิวหนังซีดคล้ำ ต้องรีบติดต่อโรงพยาบาลทันที
ฉีดวัคซีน: เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดความรุนแรงของโรคและการเสียชีวิต
สวมหน้ากากอนามัย: สวมให้ถูกต้องและครอบทั้งจมูกและปาก โดยเฉพาะในที่ร่ม ที่แออัด หรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก
ล้างมือบ่อยๆ: ล้างด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์
เว้นระยะห่าง (Social Distancing): รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร
หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง: เช่น สถานบันเทิง หรือพื้นที่ที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก
ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ: ไม่ต้องกักตัว แต่ให้สังเกตอาการ 10 วัน, สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่กับผู้อื่น และตรวจ ATK ในวันที่ 5-7 หลังสัมผัส
ผู้ที่ฉีดวัคซีนไม่ครบ: ต้องกักตัว 14 วัน, เว้นระยะห่างจากคนในบ้าน และสังเกตอาการของตนเองทุกวัน
แยกตัวเอง: อยู่บ้านและแยกตัวออกจากสมาชิกในครอบครัวให้มากที่สุด
ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อน
สวมหน้ากากอนามัย หากต้องเข้าใกล้ผู้อื่น
สังเกตอาการ: หากอาการแย่ลงให้รีบติดต่อแพทย์
สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เมื่อมีอาการครบ 10 วัน, ไม่มีไข้ต่อเนื่องอย่างน้อย 24 ชั่วโมงโดยไม่ใช้ยาลดไข้ และอาการอื่นๆ ดีขึ้น
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว