การกักตัวเอง
ผู้ที่เข้าเกณฑ์ในการกักตัวดูแลตัวเองที่บ้านได้แก่
- ผู้ป่วยที่วินิจฉัยใหม่ ตามเกณฑ์วินิจฉัย ระวังรอแอดมิทโรงพยาบาล โดยปกติกลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้จะต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อลดการแพร่กระจายของโรค แต่หากเตียงโรงพยาบาลเต็ม ผู้ป่วยที่อาการไม่หนักจะกักตัวที่บ้าน และแพทย์เห็นว่าสามารถดูแลรักษาที่บ้านเพื่อรอเตียงได้
- ผู้ป่วยโควิดหลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล หรือสถานที่รัฐจัดให้อย่างน้อยสิบวัน และจำหน่ายกลับบ้านเพื่อรักษาต่อเนื่องที่บ้าน โดยวิธีการดูแลตนเองที่บ้าน
- ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงจะต้องกักตัวเอง 14 วัน
- ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคโควิด
- ผู้ที่อยู่ในสถานที่หรือเหตุการณ์ที่มีผู้ป่วยโควิด
คำแนะนำการแยกตัวที่บ้าน
- ลักษณะของบ้านพักอาศัยที่เหมาะสม
- ข้อควรปฏิบัติตนของผู้ป่วยโควิด ในระหว่างแยกกักตัว
- คำแนะนำสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ในการติดตามดูแลผู้ป่วยโควิด ที่อยู่ที่บ้าน
- เกณฑ์การพิจารณาผู้ป่วยโควิด
- การดำเนินการของโรงพยาบาลในการติดตามผู้ป่วย
เกณฑ์การพิจารณาผู้ป่วยโควิดอาจปรับได้ตามดุลพินิจของแพทย์ โดยพิจารณาเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วย และการควบคุมโรคประกอบกัน
- เป็นผู้ติดเชื้อที่สบายดีหรือไม่มีอาการ
- มีอายุน้อยกว่าหกสิบ
- มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
- อยู่คนเดียวหรือมีผู้อยู่รวมที่พักไม่เกินหนึ่งคน
- ไม่มีภาวะอ้วน( ดัชนีมวลกายมากกว่าสามสิบหรือน้ำหนักมากกว่าเก้าสิบกิโลกรัม )
- ไม่มีโรคร่วมดังต่อไปนี้ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตเรื้อรังสเตจสามสี โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ โรคอื่นๆตามดุลพินิจของแพทย์
- ยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเอง
การดำเนินการของโรงพยาบาล
- ประเมินความเหมาะสมสำหรับผู้ติดเชื้อตามดุลพินิจของแพทย์
- ลงทะเบียนผู้ติดเชื้อที่เข้าเกณฑ์การแยกตัวที่บ้าน
- ควรถ่ายภาพรังสีทรวงอก ในวันแรกที่วินิจฉัย
- แนะนำการปฏิบัติตัวให้กับผู้ป่วยติดเชื้อ
- ติดตามประเมินอาการผู้ติดเชื้อ ระหว่างการแยกตัวที่บ้าน โดยให้ผู้ติดเชื้อวัดอุณหภูมิ และ ออกซิเจนจากปลายนิ้ว แล้วแจ้งโรงพยาบาลทุกวัน ผ่านระบบสื่อสารที่เหมาะสม
- เมื่อผู้ติดเชื้อมีอาการมากขึ้น ให้มีระบบรับ ส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล ขอให้
การกักตัวเองจะเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

วิธีการปฏิบัติตัวระหว่างกักตัว
1. การปฏิบัติตนระหว่างกักตัวที่บ้าน
- ไม่ให้บุคคลอื่นมาเยี่ยมที่บ้านระหว่างแยกกักตัว
- ให้หยุดการไปเรียน ไปทำงาน เข้าร่วมกิจกรรมของสถานที่ที่มีการรวมคนจำนวนมาก
- ควรนอนแยกห้อง ไม่ออกไปนอกบ้าน อยู่ในห้องส่วนตัวตลอดเวลา หากจำเป็นต้องเข้าใกล้ผู้อื่น ต้องสวมหน้ากากอนามัย และอยู่ห่างอย่างน้อยหนึ่งเมตร
- ใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น หากจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน ให้ใช้เป็นคนสุดท้าย ให้ปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำ คำแนะนำทำความสะอาดโถสุขภัณฑ์อื้อพื้นที่ในบ้าน
- ไม่เดินทางไปที่ชุมชนหรือที่สาธารณะอย่างน้อย 14 วัน นับจากวันเดินทางกลับจากพื้นที่ระบาดหรือสัมผัสผู้ป่วย
- รับประทานอาหารแยกจากผู้อื่น ควรเป็นอาหารจานเดี่ยว และนั่งห่างกันสองเมตร
- ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ โทรศัพท์ ร่วมกับผู้อื่น
- ล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนและหลังรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หลังจามหรือไอ ด้วยน้ำและสบู่อย่างน้อย 20 วินาที กรณีไม่มีน้ำและสบู่ ให้ลูบมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ความเข้มข้นอย่างน้อย 60%
- เมื่อออกนอกห้องให้สวมหน้ากากอนามัย และอยู่ห่างจากคนอื่น ๆ ในบ้านประมาณ 2 เมตร
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดบุคคลอื่นในที่พักอาศัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ
- การทิ้งหน้ากากอนามัย ใช้วิธี ใส่ถุงพลาสติก และปิดปากถุงให้สนิทก่อนทิ้งลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด และทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำและสบู่ทันที
- ปิดปากจมูกด้วยกระดาษทิชชูทุกครั้งที่ไอจาม โดยปิดถึงคาง แล้วทิ้งทิชชูลงในถุงพลาสติกและปิดปากถุงให้สนิทก่อนทิ้ง หรือใช้แขนเสื้อปิดปากจมูกเมื่อไอหรือจาม และทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำและสบู่ทันที
- ดื่มน้ำให้มากจนปัสสาวะใส
- นอนหลับให้พอ
- ทำความสะอาด เตียง โต๊ะ บริเวณของใช้รอบ ๆ ตัว รวมถึงห้องน้ำด้วยน้ำยาฟอกขาว 5% โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนต่อน้ำสะอาด 99 ส่วน)
- ทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู ฯลฯ ด้วยสบู่หรือผงซักฟอกธรรมดาและน้ำ หรือซักผ้าด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิน้ำ 70-90 องศาเซลเซียส
- ให้แยกซักเสื้อผ้า ผ้าปูเตียงผ้าขนหนู ด้วยน้ำและสบู่หรือผงซักฟอก
- กรณีที่เป็นบรรดาให้นมบุตรอย่างสามารถให้นมบุตรได้
- หากไอจามขณะที่สวมหน้ากากอนามัย อยู่ ไม่ต้องเอามือมาปิดปาก โดยไม่ต้องถอดหน้ากากอนามัยออก
2. วิธีการสังเกตและแนวทางปฏิบัติเมื่อมีอาการป่วย
- กรณีที่มีหอพักและเจ้าหน้าที่ควรจัดให้มีจุดคัดกรองอุณหภูมิด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบมือถือ (Handheld Thermometer) ที่หน้าหอพักในผู้ที่เดินทางจะเข้าออกหอพักทุกคน
- ให้ผู้เดินทางสังเกตอาการไข้และอาการระบบทางเดินหายใจ แนะนำให้วัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน
2.1 อาการไข้ ได้แก่
- วัดอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือ
- มีอาการสังสัยว่ามีไข้ ได้แก่ ตัวร้อน ปวดเนื้อปวดตัว หนาวสั่น
2.2 อาการระบบทางเดินหายใจ ได้แก่
- ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรือ หายใจลำบาก
- หากพบอาการป่วยข้อใดข้อหนึ่ง ให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง โดยขณะเดินทางมาโรงพยาบาลโดยรถยนต์ส่วนตัวให้เปิดหน้าต่างรถยนต์ไว้เสมอ
- มีการวัดออกซิเจนในเลือดจากปลายนิ้วทุกวันตามคำแนะนำ
หากมีอาการแย่ลงคือ มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เชลล์ หอบ เหนื่อย ไข้สูงร้อย ไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมชีวิตประจำวันได้ ให้รีบโทรติดต่อ โรงพยาบาลที่ท่านรักษาอยู่ เมื่อจะต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ให้ใช้รถส่วนตัว หรือรถที่ทางโรงพยาบาลจัดให้ ไม่ใช่รถสาธารณะ ให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เดินทาง
หากมีผู้ร่วมยานพาหนะมาด้วย ให้เปิดหน้าต่างรถเพื่อเพิ่มการระบายอากาศ
3. การปฏิบัติตัวของคนในบ้านและการทำลายเชื้อ
- ทุกคนในบ้านควรล้างมือบ่อยครั้งที่สุด เพื่อลดการรับและแพร่เชื้อ โดยใช้น้ำและสบู่อย่างน้อย 20 วินาที กรณีไม่มีน้ำและสบู่ ให้ลูบมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ความเข้มข้นอย่างน้อย 70%
- เฝ้าระวังอาการเจ็บป่วยของผู้สัมผัสใกล้ชิดหรือสมาชิกในบ้าน ภายในระยะเวลา 14 วัน หลังสัมผัสผู้ป่วย
- ควรนอนแยกห้องกับกลุ่มเสี่ยง
- อาจรับประทานอาหารร่วมกันได้ แต่ให้เป็นอาหารจานเดี่ยว และนั่งห่างกัน 2 เมตร
- ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ร่วมกับกลุ่มเสี่ยง
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดในระยะ 2 เมตร
- ควรจะเปิดหน้าต่างเพื่อให้การระบายอากาศดี หากติดเครื่องปรับอาการให้เปิดเครื่องฟอกอากาศหรือเครื่องดูดอากาศ
- ทำความสะอาด เตียง โต๊ะ บริเณของใช้รอบ ๆ ตัวของผู้ป่วย รวมถึงห้องน้ำ ด้วยน้ำยาฟอกขาว 5% โซเตียมไฮโปคลอไรท์ (น้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนต่อน้ำสะอาด 99 ส่วน)
- ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส เช่นราวบันได ลูกบิดประตู ก๊อกน้ำ โทรศัพท์ remote
- ทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู ฯลฯ ด้วยสบู่หรือผงซักฟอกธรรมดาและน้ำ หรือซักผ้าด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิน้ำ 70-90 องศาเซลเซียส
- หากมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดห้องพักของผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด เช่น แม่บ้าน ควรใส่ชุดป้องกันร่างกาย ได้แก่ หน้ากากอนามัย หมวกคลุมผม แว่นตากันลม ถุงมือยาง รองเท้าบู๊ท และผ้ากันเปื้อนพลาสติก
TECHNICAL REPORT
Infection prevention and control in the household management of people with suspected/confirmed COVID-19 2 Infection prevention and control for suspected or confirmed COVID-19 cases selfisolating at home General infection prevention and control measures in the household
- Limit the number of person(s) taking care of the suspected or confirmed COVID-19 patient. It is better that only one person acts as the caretaker. This person should be healthy and without underlying conditions, such as high blood pressure, diabetes, lung or heart problems. Persons in the household belonging to high-risk groups (e.g. the elderly, immunocompromised people, or people with underlying conditions) should avoid contact with the patient and with objects that the patient has come in contact with. Access to shared areas should be limited as much as possible, and strict hand hygiene must be performed. Place the patient in a well-ventilated single room (i.e. open window regularly).
- The patient should use a separate toilet, if possible, from the rest of the household.
- Avoid sharing objects with the patient (for example eating utensils, towels, etc.).
- All shared areas should be well ventilated; frequently touched surfaces (e.g. doorknobs, light switches) should be frequently cleaned with neutral detergents.
- Perform hand hygiene frequently, especially after contact with the patient or with any surface frequently touched by the patient, especially before and after preparing food, before eating, after using the toilet.
- Toilet, bathroom sink, etc. should be cleaned daily, avoiding splashes. Surfaces and objects should be disinfected with regular household bleach, in a dilution corresponding to 0.05–0.1% sodium hypochlorite (20 ml of household bleach should be diluted in 1 litre of water). This solution should be used immediately and prepared fresh every time it is needed.
- Clean the patient’s room regularly (e.g. daily); use disposable cleaning equipment (e.g. disposable wipes). If disposable cleaning equipment is not available, the cleaning material (cloth, sponge etc.) should be placed in a disinfectant solution of 0.05%–0.1% sodium hypochlorite, prepared as described above.
- The person in charge of cleaning should wear disposable gloves and a surgical mask. Mildly symptomatic patients can clean their room themselves.
- Bed linen, towels, sleepwear and other textiles used by the patient should be stored in a dedicated laundry bag in the patient’s room until it is washed with regular laundry detergent at 90 °C (hot-water cycle). If an item cannot be washed in a hot-water cycle, bleach or other laundry products for decontamination of textiles should be used.
- The patient should have a waste bag in his/her room for used tissues, face masks, and other waste; the waste bag should go into the unsorted garbage.
- No visitors should be admitted to the house until the patient has recovered completely.
- If a household has more than one suspected or confirmed COVID-19 patient, all patients can be isolated in the same room. Infection prevention and control measures applied by the patient to prevent transmission of infection (in the household)
- Avoid physical contact (e.g. hugs, hands shaking, etc.) with family members.
- Avoid as much as possible shared spaces and stay in a single, well-ventilated room.
- Wear a face mask that covers the nose and mouth as much as possible, especially when in shared areas. The face mask should be changed frequently; always change the mask when it becomes soiled or wet.
- When the face mask is taken off, it should be removed by touching only the elastic bands or strings; front and inside parts should be never touched. Hands should be washed/cleaned immediately (and thoroughly) after removing the face mask.
- When not wearing a face mask, nose and mouth should be covered with paper tissue when sneezing or coughing. A number of paper tissues should be kept at hand ready to be used. Paper tissues should be disposed immediately after use, and hands should be washed/cleaned right away using the correct procedure.
- Clean hands frequently with alcohol-based hand-rubbing solution or wash them with soap and water and dry them with disposable towels. If disposable towels are not available, dedicated towels should be used and kept separately from the towels used by the rest of the household; towels should be changed and washed regularly as per instructions above.
- Use dedicated eating utensils and cutlery. These should be carefully cleaned after every use.