หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | ยารักษาโรค |วัคซีน | อาหารเพื่อสุขภาพ
เมื่อพูดถึงอันตรายของแอลกอฮอล์ คนส่วนใหญ่มักนึกถึงโรคตับแข็ง, อุบัติเหตุ, หรือภาวะติดสุรา แต่หนึ่งในความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดและมักถูกมองข้ามคือความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างการดื่มแอลกอฮอล์กับ "โรคมะเร็ง"
ความจริงที่น่าตกใจคือ องค์การอนามัยโลก (WHO) และหน่วยงานวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) ได้จัดให้ แอลกอฮอล์เป็น "สารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1" ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับสารที่อันตรายอย่างแร่ใยหิน, รังสี, และบุหรี่ บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่าเครื่องดื่มในแก้วของคุณเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งได้อย่างไร และมะเร็งชนิดใดที่เกี่ยวข้องมากที่สุด
กลไกที่แอลกอฮอล์ทำลายร่างกายจนนำไปสู่มะเร็งนั้นซับซ้อนและเกิดขึ้นได้หลายทางพร้อมกัน:
1. การทำลาย DNA จากสารพิษ "อะซีทัลดีไฮด์" (Acetaldehyde): นี่คือกลไกหลักและอันตรายที่สุด เมื่อร่างกายเผาผลาญแอลกอฮอล์ จะเกิดสารเคมีที่เป็นพิษสูงชื่อว่า "อะซีทัลดีไฮด์" ขึ้น สารนี้จะเข้าไป ทำลาย DNA ของเซลล์โดยตรง และขัดขวางกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ เมื่อ DNA ถูกทำลายและไม่สามารถซ่อมแซมได้ ก็จะเกิดการกลายพันธุ์ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเซลล์มะเร็ง
2. ภาวะเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress): กระบวนการเผาผลาญแอลกอฮอล์ยังสร้างสารอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งจะไปทำลายส่วนประกอบต่างๆ ของเซลล์ รวมถึง DNA, โปรตีน, และไขมัน ทำให้เซลล์เสียหายและเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง
3. การรบกวนการดูดซึมสารอาหาร: แอลกอฮอล์ขัดขวางความสามารถของร่างกายในการดูดซึมและใช้ประโยชน์จากวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญในการป้องกันมะเร็ง เช่น โฟเลต, วิตามินเอ, วิตามินซี, และวิตามินอี
4. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: ในผู้หญิง การดื่มแอลกอฮอล์สามารถ เพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ในเลือดได้ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่กระตุ้นให้เกิด มะเร็งเต้านม
5. ทำหน้าที่เป็น "ตัวทำละลาย" ให้สารก่อมะเร็งอื่น: แอลกอฮอล์สามารถทำลายเยื่อบุในช่องปากและลำคอ ทำให้สารก่อมะเร็งอื่นๆ เช่น สารพิษในควันบุหรี่ สามารถซึมเข้าสู่เซลล์ได้ง่ายขึ้น นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการ ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่พร้อมกันจึงเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งแบบทวีคูณ
ยิ่งอวัยวะสัมผัสกับแอลกอฮอล์โดยตรงมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น มะเร็งที่มีหลักฐานเชื่อมโยงชัดเจนที่สุด ได้แก่:
มะเร็งช่องปาก, ลำคอ, และกล่องเสียง: มีความเสี่ยงสูงมาก โดยเฉพาะในผู้ที่สูบบุหรี่ร่วมด้วย
มะเร็งหลอดอาหาร: มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
สำหรับความเสี่ยงของโรคหัวใจ อาจมีคำแนะนำเรื่องการดื่ม "พอประมาณ" แต่สำหรับโรคมะเร็งนั้นแตกต่างออกไป
ข้อเท็จจริงที่สำคัญคือ: สำหรับโรคมะเร็ง "ไม่มีระดับการดื่มใดที่ปลอดภัย 100%"
ทุกๆ การดื่มล้วนเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งขึ้นเล็กน้อย และความเสี่ยงนี้จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณและระยะเวลาที่ดื่มอย่างชัดเจน (Dose-Response Relationship)
บทสรุป: ความเชื่อมโยงระหว่างแอลกอฮอล์กับมะเร็งเป็นเรื่องจริงที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว การตระหนักถึงความเสี่ยงนี้คือสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเพื่อดูแลสุขภาพของคุณในระยะยาว วิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ คือการ ดื่มให้น้อยลง หรือ ไม่ดื่มเลย
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว