ผู้หญิงกับการออกกำลังกาย
ปัจจุบัน ผู้หญิงหันมาออกกำลังกายมากขึ้น เพราะมีความใส่ใจในเรื่องขงสุขภาพมากขึ้น และมีความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายมากขึ้น เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เราอาจไม่ค่อยเห็นภาพสตรีที่ตั้งครรภ์ออกกำลังกายซึ่งอาจเป็นเพราะมีความกลัวผลกระทบที่มีต่อเด็กในครรภ์ แต่ปัจจุบันมีความเข้าใจในเรื่องของสรีรวิทยาของการออกกำลังกายมากขึ้น มีเทคโนโลยี และอุปกรณ์ที่ก้าวหน้ามากกว่าก่อน
ทำให้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อยากออกกำลังกายในสัดส่วนที่มากขึ้นนอกจากนั้นผู้หญิงยังมีส่วนร่วมในกีฬาที่ใช้แข่งขันมากขึ้น เช่น ฟุตบอลหญิง ตะกร้อหญิง ฯลฯ บทบาทที่เพิ่มขึ้นมาทัดเทียมกับผู้ชายในหลายด้านทำให้ผู้หญิงต้องปรับตัว และฟิตร่างกายเพื่อทำงานหนักขึ้น
การออกกำลังกายจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวาน หัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาตจากเส้นเลือดตีบตัน และทำให้อารมณ์แจ่มใส ลดความเครียด และเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง การออกกำลังกายยังช่วยควบคุมสัดส่วนไขมันในร่างกาย และป้องกันภาวะกระดูกบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงสูงอายุ
อย่างไรก็ตามลักษณะทากายภาพของเพศหญิงต่างจากเพศชาย รูปร่างมักจะเล็ก และสูงน้อยกว่า สะโพกผาย หัวเข่ามักชี้เข้าด้านในมากกว่า และเข่าอยู่ชิกันกว่าในเพศชาย ลักษณะเหล่านี้ทำให้นักกีฬาหญิงเกิดปัญหาที่สะบ้าหัวเข่า (Patellofemoral pain syndrome) ได้มากกว่าชาย นอกจากนี้ยังพบว่านักกีฬาหญิงโดยทั่วไปจะมีสัดส่วนไขมันในร่างกายมากกว่า และกำลังกล้ามเนื้อน้อยกว่าชายประมาณ 30% โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อของแขน

“ด้านสมรรถภาพพบว่า นักกีฬาหญิงมีหัวใจเล็กกว่า ชีพจรเร็วกว่า และปริมาณเลือดในร่างกายน้อยกว่านักกีฬาชายโดยพบว่ามี Hemoglobin และจำนวนเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าประมาณ 15% และ 6% ตามลำดับ ความแตกต่างดังกล่าวมีผลให้สมรรถภาพของระบบแอโรบิกสูงสุด (V02max) ต่ำกว่านักกีฬาชายที่ฝึกฝนมาด้วยกันประมาณ 16%”

            ปัญหาที่พบได้บ่อยในนักกีฬาที่เป็นผู้หญิง ได้แก่ ความผิดปกติของประจำเดือน ภาวะทุกโภชนาการ หรือความผิดปกติของพฤติกรรมการบริโภคอาหาร และภาวะกระดูกบาง ดังนั้น ควรเสริมอาหารที่มีธาตุเหล็ก และแคลเซียม ถ้าได้รับไม่เพียงพอจากอาหารตามปกติ และควรสังเกตประจำเดือนว่าเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เพราะอาจเป็นอาการแสดงของการออกกำลังกายหนัก หรือเครียดเกินไป