Herpes zoster โรคงูสวัด

 

โรคงูสวัดเป็นโรคผิวหนังเกิดจากกลับติดเชื้อซ้ำของเชื้องูสวัดที่เรียกว่า varicella-zoster virus (VZV) ซึ่งเป็นเชื้อที่อยู่ในร่างกายทำให้เกิดตุ่มพองที่ผิวหนัง ปวดแสบร้อนมาก

สาเหตโรคงูสวัด

งูสวัดเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า Hepes Varicella Zoster เป็นชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคไข้สุกใส ผู้ที่เป็นโรคไข้สุกใสมาก่อนจะยังคงมีเชื้อไวรัสนี้ที่ปมประสาทสันหลัง ซึ่งเมื่อร่างกายอ่อนแปเชื้อสามารถสร้างเพิ่มจำนวน ทำให้เกิดโรคงูสวัดได้ แต่จะเกิดเฉพาะแนวประสาท ไม่ลุกลามกระจายออกไปเพราะร่างกายมีภูมิต้านทานต่อเชื้ออยู่แล้ว แนวเส้นประสาทที่พบบ่อยได้แก่ บริเวณเอว ก้นกบ ตา ใบหน้า ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เช่นผู้สูงอายุ หรือจากโรคเช่น เอดส์ การรับประทานยา steroid จะมีโอกาสที่จะเกิดโรคงูสวัดสูง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคงูสวัด

จากการสำรวจพบว่าผู้ใหญ่ร้อยละ 90 จะมีภูมิต่อเชื้องูสวัด ดังนั้นกลุมคนเหล่านี้ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นงูสวัดประมาณ 1.5-3 ต่อประชากร 1000 คน ผู้ที่อายุมาก มะเร็ง หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิ ผู้ที่เปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยเหล่านี้จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคงูสวัด

ตำแหน่งที่เกิดโรคงูสวัด

พบว่าตำแหน่งที่เกิดโรคงูสวัดพบได้บ่อย 3 ตำแหน่งได้แก่

  • ตามแนวเส้นประสาทไขสันหลัง ระหว่างรากประสาททรวงอกเส้นที่3ถึงระดับเอวข้อที่3( spinal root between T3 and L3)
  • ตามแนวเส้นประสาทสมองคู่ที่5 อาจจะทำให้เกิดตาบอดเรียกZoster ophthalmicus
  • ตามเส้นประสาทสมองคู่ที่7 ทำให้มีอาการปากเบี้ยวครึ่งซีกเรียก Ramsay Hunt syndrome

งูสวัด

ลักษณะผื่นของงูสวัด

zoster

งูสวัดที่เป็นบริเวณลำตัว

งูสวัด

งูสวัดที่เส้นประสาทคู่ที่5

งูสวัด

ตุ่มน้ำของงูสวัดเส้นประสาทคู่ที่7

งูสวัด

ภาพแสดงผื่นที่เริ่มหายตกสะเก็ด

 

อาการโรคงูสวัด

  • จะมีอาการปวดตามตัวก่อนมีผื่น 2-3 วัน
  • มักจะไม่มีไข้อาจจะมีไข้ต่ำๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดศีรษะ
  • ต่อมาจะมีอาการทางผิวหนัง อาจจะแค่คันผิวหนัง บางคนปวดแสบปวดร้อน บางคนเสียวที่ผิวหนัง สำหรับคนที่เป็นที่ใบหน้าจะมีอาการปวดศีรษะ เห็นแสงจ้าไม่ได้
  • ต่อมาอีก 1-5 วันจะมีผื่นแดงอยู่เป็นกลุ่ม ต่อมาเป็นตุมน้ำใส มักจะขึ้นอยู่ซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย ตามเส้นประสาทที่เป็นโรค ตุ่มน้ำใสจะคงอยู่ประมาณ5 วันต่อมาผื่นจะตกสะเก็ดและหายไปใน2-3สัปดาห์ และอาจจะทิ้งรอยแผลเป็น ผู้ป่วยที่มีภูมิอ่อนแรงเช่น โรคมะเร็ง โรคเอดส์ ผู้ที่ได้รับยากดภูมิ จะเป็นโรคนี้ได้บ่อย และเป็นรุนแรง

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคงูสวัด

  • เคยเป็นโรคไข้สุกใสมาก่อน
  • อายุมาก
  • เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • มีความเครียดทางอารมณ์
  • ได้รับอุบัติเหตุ

การวินิจฉัยโรคงูสวัด

  • ทำได้จากประวัติการเจ็บป่วย ลักษณะของผื่น แต่ผู้ป่วยบางคนลักษณะผื่น และตำแหน่งไม่เหมือนงูสวัดจึงจำเป็นต้องตรวจวินิจฉัยเพิ่ม ได้แก่การเพาะเชื้อไวรัส การย้อมด้วยวิธี Direct immunofluorescence assay
  • Tzanck smear นำเอาน้ำที่ก้นแผลมาย้อมจะพบเซลล์ตัวใหญ่ผิดปรกติ

โรคนี้จะติดต่อหรือไม่

เชื้อไวรัสที่อยู่ในผื่นสามารถติดต่อโดยการสัมผัส สำหรับผู้ที่ไม่เคยเป็นไขสุกใสมาก่อนก็อาจจะกลายเป็นไข้สุกใส สำหรับคนที่เป็นไข้สุกใสแล้วก็จะมีโอกาสเป็นงูสวัสเพิ่มมากขึ้น

การรักษาอ่านที่นี่

โรคแทรกซ้อนที่สำคัญของงูสวัด

  • มีอาการปวดเส้นประสาท Postherpetic neuralgia ซึ่งเป็นโรคแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุด
  • เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ อาการที่สำคัญได้แก่ meningoencephalitis
    • ปวดศีรษะ
    • ไข้
    • มองแสงจ้าไม่ได้
    • คอแข็ง
    • อาเจียน
  • ประสาทไขสันหลังอักเสบ
  • หลอดเลือดอักเสบ.
  • อาจจะทำให้ปอดอักเสบ ตับอักเสบในรายที่เป็นมะเร็ง
  • งูสวัดเข้าตาซึ่งอาจจะทำให้ตาบอด
  • ปากเบี้ยว

เรื่องที่คนมักจะอ่านเพิ่ม

งูสวัด