การทำเลเซอร์เพื่อผิวอ่อนเยาว์
ผลการรักษาด้วย Laser
เมื่อผิวหนังของท่านเสื่อมเซลล์ที่อยู่ชั้นบนสุดจะเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว การขัดผิวหรือการกระชับผิวหนังจะเป็นการขัดเอาเซลล์ที่อยู่ผิวชั้นบนสุดออก ขณะเดียวก้นก็มีการเร่งให้ชั้นผิวหนังแท้มีการสร้างเซลล์และcollagenเพิ่มขึ้น การใช้ laser ในการขัดผิวส่วนหน้า resurfacing โดยลำแสง laser จะลอกเซลล์ที่อยู่ชั้นบนสุดออก ความร้อนที่เกิดจากลำแสง laser จะกระตุ้นชั้นหนังแท้ dermis ให้มีการสร้างเซลล์ และ collagenใหม่ ดังนั้นผิวหนังที่สร้างใหม่จึงเต่งตึง นุ่มเนียน และรอยย่นลดลง
ร่องรอยจากสิวจะดูจางลง ส่วนใหญ่รอยแผลเป็นบริเวณผิวจะเนียนเรียบขึ้น ผิวของคุณจะดูมีสุขภาพดีมากขึ้น ความผิดปกติของผิวก็จะลดลงช่วยให้คุณดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ข้อบ่งชี้ในการรักษาด้วยเลเซอร์
การใช้ Laser เพื่อทำให้ผิวอ่อนกว่าวัยโดยการัดเอาเซลล์ที่อยู่ผิวบนซึ่งเป็นเซลล์ที่ตายแล้วออกเพื่อลบรอยย่น แผลเป็น จุดด่างดำที่ไม่ลึกออกจากผิว จะใช้ Laser เพื่อผิวอ่อนเยาว์ในภาวะดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการรักษาด้วย Laser
ก่อนการทำ Laser แพทย์จะต้อง
- ทบทวนประวัติการเจ็บป่วยของท่าน ประวัติการแพ้ยา ประวัติการใช้ยา กิจกรรมเกี่ยวกับความสวยงามที่ผ่านมา
- แพทย์จะต้องตรวจร่างกายโดยเฉพาะบริเวณผิวหนังที่จะทำlaser เพื่อประเมินว่าจะให้การรักษาอย่างไรบ้าง
- แพทย์จะปรึกษากับผู้ป่วยถึงความต้องการของผู้ป่วย ผลลัพธ์ของการรักษารวมทั้งโรคแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น
สิ่งที่ผู้ป่วยต้องเตรียมตัว
- แจ้งแพทย์หากท่านเคยป่วยเป็นโรคเริ่มที่ริมฝีปาก
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทานรวมทั้งสมุนไพร
- หยุดสูบบุหรี่ก่อนและหลังทำ Laser 2 สัปดาห์
- แพทย์อาจจะให้ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัสก่อนทำ Laser
- หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดด หรือสวมเครื่องป้องกันแสงแดด
ขณะทำการรักษาด้วย Laser
- ล้างทำความสะอาดบนใบหน้า
- ปิดตาป้องกันอันตรายจากแสง Laser
- แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณที่จะทำ Laser
- หลังจากนั้นจึงให้ลำแสง laser ไปยังบนผิวหนัง โดยทั่วไปใช้เวลา 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง
- แพทย์อาจจะฉีด spray หรือทาเจล ที่ให้ความเย็นกับผิวหนัง
การดูแลผิวหลังจากทำ Laser
- หลังจากทำจะรู้สึกคันและบวมเป็นเวลา 12-72 ชั่วโมง ประมาณ 5-7 วันผิวจะลอกออก
- ล้างผิวหนังบริเวณดังกล่าวด้วยน้ำเกลือสะอาดวันละ2-5ครั้งตามแพทย์สั่ง
- นอนศีรษะสูงโดยการเพิ่มหมอน
- ประคบเย็นในช่วง 2-3 วันแรก
- งดบุหรี่ เพราะจะทำให้หายช้า
- ให้ทายากันแสง UV ทุกครั้งที่ต้องสัมผัสแสงแดดทาครีมกันแดดที่มีค่า SPFมากกว่า 30
- ทาครีมบำรุงผิวตามแพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด
- ใส่เครื่องป้องกันแสงแดด
- หลังจากที่ผิวหนังหายดีอาจจะใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีไขมันทาบริเวณผิวหนัง รอยแดงที่ปรากฎมักจะหายใน 2-3 เดือน
ชนิดของ Laser
การขัดผิวด้วย Laser เป็นการขัดเอาเซลล์ที่อยู่ชั้นบนสุดออกเพื่อให้ผิวหนังดูดี ลบรอยด่างดำและรอยตีนกา laser ที่ใช้มีด้วนกันสองวิธีคือ
- ชนิดที่เกิดแผลที่เรียกว่า ablative laser ซึ่งเป็นการขัดเอาเซลล์มี่อยู่ผิวนอกออก
- ชนิดที่ไม่เกิดแผลที่เรียกว่า nonablative laser ซึ่งเป็นการทำให้ผิวกระชับโดยการกระตุ้นให้ผิวสร้าง collagen การทำlaser ชนิดนี้จะทำให้ผิวส่วนบนเสียหายน้อยจึงใช้เวลาฟื้นตัวเร็วและมีผลเสียต่อผิวส่วนบนน้อย แต่ประสิทธิภาพสู้ชนิดมีแผลไม่ได้
ผลข้างเคียงของการรักษา
- ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการเหมือนแดดเผา อาจจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย คันผิวหนัง แดดเผา
- แต่ผู้ป่วยบางท่านจะมีอาการเหมือนแดดเผาชนิดรุนแรง ผิวจะไหม้ มีน้ำเหลืองไหล มีพุพองด้วย
โดยทั่วไปใช้เวลา 10-21 วันผิวจึงกลับสู่ปกติ
โรคแทรกซ้อน
- ผื่นแดง ผู้ป่วยบางท่านอาจจะมีผื่นแดงซึ่งอาจจะนานถึง 12 สัปดาห์ซึ่งแพทย์อาจจะให้ยาทาเป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ แต่หากมีผื่นแดงทั่วไปอาจจะเกิดการแพ้ หรือการใช้ยาทาซึ่งระคายเคืองต่อผิวหนังเช่นอนุพันธ์ของวิตามินเอ
- บริเวรผิวหนังที่ทำ Laser จะมีอาการคันบวม และแดง
- สำหรับผู้ที่เป็นอาจจะมีการกำเริบของสิว จะต้องรักษาสิวด้วย
- การติดเชื้อที่ผิวหนัง มักจะเกิดหลังจากการทำ ศฟหำพ 2 วันโดยจะมีอาการปวดเป็นอาการที่สำคัญ เชื่อที่เป็นสาเหตุได้แก่เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา
- เริ่มที่ปากกำเริบ เป็นแผลเป็นหากทำ Laser มากไปทำให้เกิดความร้อน บริเวณที่มักจะเป็นแผลเป็นได้แก่ ริมฝีปากบน แก้ม ผู้ที่ได้รับยาอนุพันธ์ของวิตามินเอ หรือผู้ที่ได้รับรังสีมาก่อนจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดแผลเป็น
- ผิวหนังดำคล้ำเพิ่มขึ้นการเกิดผื่นดำขึ้นกับชนิดของผิวและวิธีการรักษาซึ่งแพทย์จะจ่ายยาประมาณ 1 เดือน
- บวมโดยเฉพาะทำการขัดผิวรอบดวงตา
ข้อควรระวังในการขัดผิวด้วย Laser
- ผู้ที่ใช้อนุพันธ์ของวิตามินเอในรอบปีที่ผ่านมา
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน โรค autoimmune ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ประวัติเคยได้รังสีรักษาที่ใบหน้า
- ประวัติเป็น keloids ง่าย
- ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
