Benign paroxysmal positional vertigo (BPPV)

เป็นอาการเวียนศีรษะที่รู้สึกว่า ตัวเอง หรือสิ่งแวดล้อมหมุนรอบตัวเอง จะเกิดเมื่อหันศีรษะในทิศทางที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ มักจะมี อาเจียน  ยืนทรงตัวไม่ได้ เมื่อมีการเปลี่ยนท่าหรือหันหน้า หรือลุกจากเตียง สาเหตุที่แท้จริงไม่ทราบ ผู้เกิดอการนี้หากอายุน้อยกว่า 50 ปีสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุที่ศีรษะ ส่วนผู้สูงอายุส่วนมากเกิดจากการเสื่อมของระบบประสาท

อ่านเรื่องการทำงานของหู

อาการของเวียนศีรษะบ้านหมุน

อาการเวียนศีรษะมักจะเป็นไม่เกิด2-3 นาที โดยมากมักจะเกิดจากการที่หันศีษะไปทิศทางเฉพาะ

  • พลิกศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่ง ตัวอย่างเวลานอนพลิกจะทำให้เกิดเวียนศีรษะ
  • นอนเงยศีรษะไปทางด้านหลัง เช่นการนอนสระผม
  • ก้มหน้า เช่นก้มหน้าผูกเชือกรองเท้า

เมื่อมีอาการเวียนศีรษะตาจะมีการกระตุก

สาเหตุเวียนศีรษะบ้านหมุน

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่ทราบสาเหตุ ส่วนที่ทราบสาเหตุได้แก่

  • ได้รับอุบัติเหตุทางศีรษะ
  • การผ่าตัดหู
  • การติดเชื้อหูชั้นกลาง
  • สูงอายุ

การวินิจฉัยเวียนศีรษะบ้านหมุน

 แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายหลังจากนั้นก็จะตรวจ

  • การตรวจที่เรียกว่า  Hallpike manoeuvre โดยให้ผู้ป่วยนั่งหันหน้า 45 องศาตรวจที่ตาว่ามีการกระตุกหรือไม่ หลังจากนั้นให้ผู้ป่วยนอนราบลง โดยที่ศีรษะยังเอียง 45 องศาสังเกตว่าตามีการกระตุกหรือไม่ หากมีการกระตุกแสดงว่าเป็นโรคนี้
  • ตรวจระบบหู
  • ตรวจตาว่ามีการกระตุก
  • ตรวจการได้ยิน
  • ตรวจจมูก คอ
  • ตรวจ CT scan เมื่อสงสัยว่าเวียนศีรษะเกิดจากเนื้องอกหรือเส้นเลือดสมองตีบ

การรักษาเวียนศีรษะบ้านหมุน

ส่วนใหญ่หายได้เอง แต่อาจจะเป็นๆหายๆวิธีการรักษาแบบไม่ต้องใช้ยาสามารถทำได้สองวิธีคือ

  • The Semont maneuver โดยการให้ผู้ป่วยนอนตะแคงด้านหนึ่งแล้วรีบพลิกตัวไปอีกด้านหนึ่งทันที

  • The Epley maneuver โดยการเคลื่อนศีรษะไป 4 ทิศทาง
  • การบริหารที่เรียกว่า  Brandt-Daroff exercises สามารถทำได้เองที่บ้าน เพื่อทำให้เกิดความสมดุล ทำวันละหลายครั้งทำติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์

ผู้ป่วยร้อยละ80จะตอบสนองต่อวิธีดังกล่าวและอัตราการเกิดซ้ำเพียงแค่ร้อยละ 5หลังจากนั้นจะต้องปฏิบัติตัวดังนี้

  1. หลังจากทำให้อยู่เฉยๆ 10 นาทีเพราะอาจจะเกิดอาการบ้านหมุนได้ และไม่ควรขับรถ
  2. เวลาให้หนุนหมอนสูงประมาณ 45 องศาเป็นเวลาสองวัน ระหว่าวันพยายามให้ศีรษะตั้งตรงช่วงนี้ยังไม่ไปทำผมหรือพบหมอฟัน งดการออกกำลังที่ต้องทำให้ศีรษะหันไปมา การโกนหนวดหรือสระผมศีรษะต้องตั้งตรง
  3. ภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากการเกิดเวียนศีรษะต้องหลีกเลียงปัจจัยที่กระตุ้นให้เวียนศีรษะ
  • ใช้หมอนสองใบเวลานอน
  • ห้ามนอนตะแคงข้างที่ทำให้เกิดโรค
  • ห้ามเงยหน้าหรือก้มหน้า
  • หลีกเลี่ยงการหงายหน้าเช่น ท่าทีใช้ถอนฟัน หรือทำผม งดการทำ sit-up
  1. หลังจากหนึ่งสัปดาห์ให้ดำเนินชีวิตตามปกติ

ยาที่ใช้รักษาเวียนศีรษะบ้านหมุน

มียาหลายชนิดที่ใช้รักษาอาการเมารถสามารถบรรเทาอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน

  • meclizine (Antivert, Bonine, Dramamine II, D-Vert) 
  • diazepam (Valium) 
  • dimenhydrinate (Dramamine)  dimenhydrinate) ขนาด 50 มิลลิกรัม กินครั้งละ 1 เม็ด ทุกๆ 6 ชั่วโมง จนเมื่ออาการดีขึ้นก็ลดเป็น ทุกๆ 8 ชั่วโมง เมื่ออาการเป็นปกติดีแล้วสัก 1-2วัน ก็สามารถหยุดยาได้ ในขณะเดียวกันอาจจะกินยา
  • cinnarizine ขนาด 25 มิลลิกรัม หรือ เมอริสลอน ขนาด6 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3ครั้ง พร้อมๆ กันก็ได้
    ทำตามอย่างนี้แล้ว ส่วนมากอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น เมื่อสามารถเดินตัวตรงได้ ไม่มีอาการอะไร ก็สามารถ ทำงานหรือกิจกรรมอื่นๆ ได้ตามปกติ คราวต่อๆ ไป เมื่อเริ่มๆ จะเป็นอาการแบบนี้ขึ้นมาอีก ก็ทำตามอย่างข้างบนเลย ไม่ต้องรอให้เป็นมากๆ จะได้ผลดีกว่า เพราะถ้ารอให้เป็นมากๆ โดยเฉพาะถ้ามีอาเจียนมากแล้วจะลำบาก
  • promethazine (Phenergan) 
  • scopolamine (Isopto, Scopace)

เมื่อไรจึงจะต้องพบแพทย์

โรคนี้เป็นแล้วหายเองได้ แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ควรจะพบแพทย์

  • มีอาการอ่อนแรงของแขนหรือขาข้างหนึ่ง
  • มีอาการชาแขนหรือขาข้างหนึ่ง
  • มีไข้
  • ปวดศีรษะและมีคอแข็ง
  • มีความผิดปกติเกี่ยวกับการได้ยิน
  • มีอาการมาก

ผู้ป่วยไม่ควรจะขับรถเองควรจะมีคนขับไปโรงพยาบาล

กลับหน้าเดิม | หู | การทำงานของหูชั้นกลาง | ยาที่ทำให้บ้านหมุน | เวียนศรีษะบ้านหมุน | โรค meniere | ความดันหูชั้นกลางไม่สมดุล