ประจำเดือนมามาก


เด็กผู้หญิงพอเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์รังไข่เริ่มทำงาน มีการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้มีประจำเดือนและการตกไข่ พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่นมีเต้านม ผิวอ่อนนุ่มขึ้น เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมพร้อมสำรับเป้นคุณแม่ ในช่วงแรกของการมีประจำเดือน ประจำเดือนอาจจะมาไม่แน่นอนรอบเดือนในระยะแรกอาจจะใช้เวลาถึง 33 วันในแต่ละรอบ แต่พอเริ่มเข้าที่ส่วนใหย่จะอยู่ที่ 28 ในแต่ละรอบเดือน


ประจำเดือนมามาก

คำว่าประจำเดือนมามากในทางทฤษฎีบอกว่าหากประจำเดือนมามากกว่า 80 ซีซี หรือประจำเดือนมานานกว่า 7 วันคงไม่มีใครตวงจำนวนประจำเดือน โดยทั่วไปอาจจะดูปริมาณผ้าอนามัยที่ใช้ในช่วงที่ประจำเดือนมามาก ว่าใช้ไปกี่ผืนเมื่อเทียบกับเพื่อนในกลุ่มอายุเดือนกันว่าใช้มากกว่าเขาหรือเปล่า หากสงสัยว่าประจำเดือนมามากควรจะปรึกษาแพทย์ อย่าสับสนเรื่องประจำเดือนมามากในที่นี้หมายถึงรอบเดือนปกติแต่ปริมาณเลือดออกมากและนานกว่าปกติ ซึ่งต่างจากกรณีรอบประจำเดือนสั้นเช่น 21 วันทำให้ประจำเดือนมาถี่ หรือประจำเดือนกระปริดกระปอย

ความชุกของโรค

ประเทศอเมริกาพบผู้ป่วยร้อยละ10-20ของคนที่มีประจำเดือนมีประจำเดือนมามากจนกระทั่งต้องพบแพทย์

ความรุนแรงของโรค

  • โดยทั่วไปมักจะไม่ค่อยรุ่นแรงนอกจากว่าจะเสียเลือกเป็นเวลานานซึ่งจะทำให้เกิดโรคโลหิตจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็ก การรักษาก้ไม่ยากเพียงให้ธาตุเหล็กทดแทน และแก้ที่ต้อนเหตุ อีกกรณีที่อาจจะเกิดได้คือหากมีการเสียเลือดมากในทันที ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำหรือที่เรียกว่าช็อคก็ได้ซึ่งจะมีอาการหน้ามือ หายใจหอบ ปัสสาวะออกน้อย นอกจากนั้นในผู้ที่เสียเลือดเป็นเวลานาน และเกิดโลหิคจางเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เกิดภาวะหัวใจโตซึ่งเป็นสาเหตุของหัวใจวายผู้ป่วยอาจจะมีอาการเหนื่อยหอบเวลาเดิน
  • ความรุนแรงของโรคอาจจะมาจากโรคที่ทำให้ประจำเดือนออกมากเช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานได้น้อย

ก่อนไปพบแพทยท่านต้องเตรียมคำตอบอะไรบ้าง

การที่แพทย์ได้ประวัติประจำเดือนของท่านโดยละเอียดจะช่วยการวินิจฉัยดีกว่าการเจาะเลือด ดังนั้นท่านต้องเตรียมคำตอบสำหรับแพทย์ ดังนี้

ท่านตั้งครรภ์ขาดประจำเดือนหรือไม่

  • แพทย์มักจะตั้งคำถามนี้เสมอสำหรับผู้ที่ประจำเดือนมามากเพราะสาเหตุที่มีเลือดออกมากคือภาวะแท้ง ดังนั้นท่านต้องจำหรือจดวันที่ประจำเดือนครั้งสุดท้าย
  • นอกจากนั้นท่านต้องตอบแพทย์ว่าปกติรอบเดือนของท่านแต่ละรอบใช้เวลานานแค่ไหน

ปริมาณและลักษณะรอบเดือน

  • เป็นการยากที่จะบอกว่าประจำเดือนมามากหรือน้อย ท่านควรจะบอกชนิดของผ้าอนามัยที่ใช้ โดยปกติผ้าอนามัยแบบสอดจะวับประจำเดือนได้ประมาณ 5 ซีซี แต่หากเป็นแบบผืนจะซับได้ประมาณ 5-15 ซีซีดังนั้นท่านควรจะบอกว่าใช้กี่ผืน และผ้าอนามัยที่เปลี่ยนเปียกชุ่มหรือเปล่า
  • มีลิ่มเลือดหรือไม่ หากมีลิ่มเลือดแสดงว่าประจำเดือนออกมาก

อายุ

  • หากอายุน้อยหรืออยู่ในช่วงที่เริ่มมีประจำเดือน อาจจะเกิดจากการคลาดเคลื่อนของประจำเดือน หรือการทำงานของฮอร์โมนยังไม่เข้าที่เข้าทาง
  • หากท่านอายุ 30-50 ปีอาจจะมีโรคในมดลูกเช่น polyps หรือเนื้องอก
  • หากท่านหมดประจำเดือน และมีเลือดออกท่านต้องไปพบแพทย์

ประวัติประจำเดือน

  • ประวัติประจำเดือน หากท่านมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอมาตลอดก็อาจจะไม่มีปัญหา แต่หากท่านมีประจำเดือนสม่ำเสมอและมีประจำเดือนผิดปกติแสดงว่าน่าจะเกิดความผิดปกติ

ประวัติเพศสัมพันธ์

ประวัติการใช้ยาคุมกำเนิด

  • การใส่ห่วงเป็นสาเหตุให้ปวดท้องและมีประจำเดือนมามาก หากท่านใส่ห่วงต้องบอกแพทย์
  • การรับประทานยาคุมเป็นประจำ และท่านหยุดยาคุมกำเนิด ประจำเดือนของท่านก็จะมาเป็นปกติในช่วงที่หยุดยาคุมกำเนิดใหม่ประจำเดือนอาจจะมามากกว่าปกติ


ท่านมีน้ำนมไหลหรือไม่

  • หากท่านที่ไม่มีบุตรและมีน้ำนมไหลออกจากหัวนมท่านต้องแจ้งแพทย์เพราะแสดงว่าท่านมีฮอร์โมน prolactin สูงวึ่งต้องหาสาเหตุต่อไป

ท่านมีโรคตับหรือโรคไตหรือดรคไทรอยด์ไม่

  • ท่านที่เป็นดรคตับหรือดื่มสุรา/เบียร์เป้นประจำ หรือเป็นไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง ท่านต้องแจ้งแพทย์เพราะการเป็นโรคตับจะทำให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดได้
  • หากท่านเป็นโรคไตท่านต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • โรคของต่อมต่อมไทรอยด์อาจจะทำให้ประจำเดือนไม่มาหรือมามากกว่าปกติ

ท่านมีจำเลือดตามตัวหรือไม่

  • หากท่านมีจ้ำเลือดตามตัวหรือแขนขาท่านต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ เพราะอาจจะมีดรคหรือภาวะที่ทำให้เลือดออกง่าย

ท่านใช้ยาอะไรเป็นประจำ

สาเหตุของโรค

แบ่งออกเป็นสี่กลุ่มใหญ่ๆได้แก่

  1. มีความผิดปกติที่มดลูกได้แก่
  • เนื้องอกมดลูกหรือมี polyp ในมดลูก กลไกยังไม่ทราบแน่ชัด อาจจะเกิดจากเลือดที่มาเลี้ยงเนื้องอกมากทำให้ผนังหลอดเลือดแตกง่าย หรืออาจจะเกิดจากเนื้องอกขวางการหดตัวของมดลุก
  • Endometrial hyperplasia วึ่งเกิดจากการที่ร่างกายสร้าง estrogen มากไปหรือเกิดจากที่รับประทานยาคุมกำเนิดที่มีแต่ estrogen ซึ่งอาจจะกลายเป็นมะเร็งมดลูกได้ร้อยละ 1-2 %
  1. โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากการรักษา
  • เกิดจากการใส่ห่วงคุมกำเนิด
  • การใช้ฮอร์โมนในการรักาาโรค
  • การให้เคมีบำบัด
  • การให้ยาต้านเกล็ดเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด
  1. จากโรคของต่อมไร้ท่อเช่น
  • ต่อมไทรอยด์ทำงานมากหรือต่อมไทรอยด์น้อยก็สามารถทำให้ประจำเดือนออกมากได้
  • โรคของเนื้องอกของต่อมใต้สมอง (pituitary)ทำให้ร่างการสร้างฮอร์โมนบางชนิดมากจนเกิดประจำเดือนมามาก
  • สาเหตุที่ประจำเดือนมามากคือประจำเดือนที่ไม่ได้มีการตกไข้ซึ่งพบในวัยรุ่นที่ประจำเดือนเริ่มมาใหม่ๆ และในวัยใกล้หมดประจำเดือน
  1. โรคต่างๆที่ทำให้ประจำเดือนมามาก
  • การตอดเชื้อในช่องคลอดหรือมดลูกอาจจะทำให้ประจำเดือนมามาก กลุ่มผู้ป่วยจะมีอาการตกขาวหรือปวดท้องร่วมด้วย
  • โรคเลือด เช่น ไข้เลือดออก ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ฮีโมฟีเลีย เป้นต้อง โรคเหล่านี้ทำให้การแข็งตัวของเลือดไม่ดี เลือดออกง่าย
  • โรคตับหรือโรคไต ทำให้กลไกการห้ามเลือดเสียไป

เมื่อไปหาแพทย์จะตรวจอะไรบ้าง

แพทย์จะสั่งการตรวจวินิจฉัยอะไรจะขึ้นกับประวัติและการตรวจร่างกายโดยไม่จำเป็นต้องครบทุกอย่าง

  • CBC เพื่อดูว่ามีภาวะโลหิตจางหรือไม่ และดูปริมาณเกล็ดเลือดว่ามีจำนวนมากพอหรือไม่
  • ปริมาณเหล็กในเลือดเพื่อหาสาเหตุว่าโลหิตจางเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก จะเจาะในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าโลหิตจางเกิดจากอะไร
  • การแข็งตัวของเลือด จะตรวจในกรณีที่แพทย์สงสัยว่าจะมีความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
  • Human chorionic gonadotropin หรือฮอร์โมนที่บอกว่าเราตั้งครรภ์หรือไม่ แพทย์จะสั่งเจาะกรณีที่อบากจะทราบว่าตั้งครรภ์หรือไม่
  • เจาะเลือดดูการทำงานของต่อมไทรอยด์ กรณีที่สงสัยว่าต่อมไทรอยด์ทำงานมากหรือน้อยไป
  • ตรวจการทำงานของตับหรือไต
  • ตรวจหาฮอร์โมน estrogen LTH FSH ในกรณีสงสัยว่าเป็นดรค PCOS

การตรวจโดยคลื่นเสียงความถี่สูง

การทำ ultrasound จะช่วยในการวินิจฉัยโรคได้ค่อยข้างดี ไม่ทำให้เจ็บปวด หรือโรคแทรกซ้อน ทำให้เห็นโครงสร้าง ขนาดของมดลูก แพทย์ส่วนใหญ่มักจะส่งการตรวจชนิดนี้

การตรวจด้วยวิธีอื่นๆ

  • การตรวจภายในและตัดชิ้นเนื้อในมดลูกไปตรวจ หากตัดถูกตำแหน่งก็อาจจะช่วยในการวินิจฉัยโรค หากตัดผิดตำแหน่งก็อาจจะไม่ได้การวินิจฉัย
  • Hysteroscopy การส่องกล้องดูในมดลูก ซึ่งจะตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญหากมีอาการปวดมากอาจจะต้องดมยาสลบ หากพบรอยโรคก็สามารถตัดชิ้นเนื้อตรวจเพื่อหาสาเหตุ
  • การขูดมดลูกและส่งชิ้นเนื้อตรวจ เป็นการรักษาภาวะเลือดออกมากขณะเดียวกันก็ได้ชิ้นเนื้อเพื่อตรวจหาสาเหตุ

การรักษามีกี่แบบ

การรักษาโรคนี้ในแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง การรักษามีด้วยกันหลายแบบดังนี้

  • การให้ยาแก้อักเสบในกลุ่ม NSAID เป็นยาที่ใช้บ่อยในกรณีประจำเดือนมามาก(แบบที่มีการตกไข่)ระยเวลาที่รับประทานประมาห้าวันก่อนมีประจำเดือน โดยจะลดปริมาณประจำเดือนลงได้ร้อยละ20-40 กลไกเกิดจากการไปลด ระดับของ prostaglandin
  • การใช้ยาคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดจะไปลดการหลังฮอร์โมน pituitary gonadotropin ทำให้ไม่มีการตกของไข่ จะลดปริมาณประจำเดือนลงได้ดีพอๆกับ NSAID
  • การให้ Progestin ซึ่งเป็นฮอร์ดมนต้านฤทธิ์ของ Estrogen ทำให้ลดปริมาณประจำเดือน
  • การใส่ห่วงที่เคลือบฮอร์โมนLevonorgestrel intrauterine จะป้องกันการตั้งท้องและลดปริมาณประจำเดือน
  • การให้ยาต้านฮอร์โมน Gonadotropin-releasing hormone เป็นการรักษาระยะสั้นเพราะราคาแพงและมีผลข้างเคียง
  • Danazol เป็นยาต้านฤทธิ์ของ androgen และ progesterone ทำให้ไม่มีประจำเดือน การรักาาจะทำให้เต้านมเล็กลง
  • Conjugated estrogens ใช้ฉีดทุก 4 ชมในกรณีที่เสียเลือดมาก หากเลือดไม่หยุดใน 24 ชม จะต้องขูดมดลุก และต้องตามด้วยยาคุมกำเนิดอีกสามเดือน
  • Tranexamic acid ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของอเมริกาว่าสามารถใช้ยานี้รักษาโรคนี้ได้

การผ่าตัด

การผ่าตัดจะใช้ในกรณีที่มีเนื้องอกของมดลุก และการรักาาทางยาไม่ได้ผล

การขูดมดลูก

เป็นการวินิจฉัยโรคหรือรักาาอาการเพียงแค่หนึ่งถึงสองเดือน

หากท่านมีประจำเดือนมามากหรือเป็นครั้งละมากกว่าเจ็ดวันโปรดปรึกาาแพทย์เพื่อการรักษาโรคให้เร็ว

การมีประจำเดือน  

 

Google
 

เพิ่มเพื่อน